Samsung Electronics ได้จัดงาน Samsung Developer Conference Korea 2024 (SDC24 Korea) ซึ่งเป็นงานที่เน้นเปิดตัวนวัตกรรมซอฟต์แวร์ล่าสุดและแสดงวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัท ซึ่งปีนี้ถือเป็นงานประชุมประจำปีครั้งที่ 11 โดยเป็นเวทีสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และในปีนี้จะเน้นที่ความก้าวหน้าของ AI เชิงสร้างสรรค์ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ IoT การดูแลสุขภาพ การสื่อสาร และข้อมูล พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาโอเพนซอร์สด้วย โดยในปีนี้ ไฮไลท์สำคัญของงานนี้คือการเปิดตัว Samsung Gauss2 ซึ่งเป็นโมเดล Generative AI รุ่นที่ 2 ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับการทำงานในส่วนต่าง ๆ ในบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Samsung Gauss2 เป็นโมเดล AI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Samsung เอง และเป็นรุ่นที่สองแล้ว โมเดลนี้ได้มีการเพิ่มความมีประสิทธิภาพมากข้น โดยมีแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้ได้เลือกใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งนาย Paul Kyungwhoon Cheun ประธานและ CTO ของแผนก Device eXperience เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Samsung ในการใช้ประโยชน์จาก AI และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ โดย Gauss2 ได้รับการออกแบบให้เป็นโมเดลที่มีโหมดหลายโหมด ที่สามารถประมวลผลภาษา รหัส และภาพ ซึ่งมีให้เลือกใช้สามรูปแบบ ได้แก่ Compact, Balanced และ Supreme โดยแต่ละรูปแบบได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน

โดยโมเดล Compact จะได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ที่การประมวลผลสามารถทำได้จำกัด ในขณะที่โมเดล Balanced จะผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพและประสิทธิผล (Efficiency) ส่วนโมเดล Supreme จะใช้เทคโนโลยี Mixture of Experts เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูง ในขณะที่ใช้การประมวลผลลดลง โมเดล Samsung Gauss2 ยังรองรับภาษากว่า 9-14 ภาษาและภาษาการเขียนโปรแกรมหลายภาษา โดย Samsung เคลมว่าโมเดล Balanced และ Supreme สามารถสร้างการตอบสนองและการเข้ารหัสได้ดีกว่าทางเลือกที่เป็น Open Source ที่อยู่ในท้องตลาด รวมถึงสามารถประมวลผลได้เร็วขึ้น 1.5 – 3 เท่า ช่วยให้ AI ตอบสนองผู้ใช้ได้เร็วกว่าเดิมด้วย

โมเดล generative AI เชิงสร้างสรรค์ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับแต่งสำหรับแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น และด้วยประสิทธิภาพของ Gauss2 ทำให้ระบบ “code.i” ซึ่งเป็นผู้ช่วยการโค้ดดิ้ง ถูกใช้งานเพิ่มขึ้น 4 เท่า นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา และปัจจุบัน มีนักพัฒนาซอฟท์แวร์ในแผนก DX ใช้งานแล้วกว่า 60% รวมถึงยังช่วยเหลือพนักงานภายในแผนก DX ในการจัดการงานต่าง ๆ ในสำนักงาน เช่น การสรุปเอกสาร การแปล และการเขียนอีเมล นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังได้รับการขยายไปยังบริษัทสาขาในต่างประเทศในเดือนเมษายน และตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา Samsung ได้ใช้ Samsung Gauss เพื่อให้พนักงานในแผนก Call Center จัดหมวดหมู่และสรุปการโทรของลูกค้าโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

ในอนาคต Samsung มีเป้าหมายที่จะนำวิสัยทัศน์ AI ของ Samsung ที่ว่า “AI for All” มาใช้ โดยขยายบริการที่ใช้ AI ให้ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Samsung อีกด้วย การรวมเทคโนโลยีกราฟความรู้เข้ากับ AI คาดว่าจะช่วยปรับปรุงบริการส่วนบุคคล ทำให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ที่มา Samsung Newsroom