คุณรู้หรือไม่ว่า Andy Rubin บิดาของ Android ได้เคยนำเสนอ Android Project ให้กับ Samsung แต่โดนปฏิเสธ และต่อมาแค่ 2 สัปดาห์ก็เป็น Google ที่กระโดดเข้ามาสนับสนุน Android และกลายมาเป็น OS ที่ครองโลกอยู่จนถึงทุกวันนี้ เราลองมาย้อนฟังอดีตและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นกันดีกว่า
ย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาที่สมาร์ทโฟนตอนนั้น ไม่ได้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนในเวลานี้แม้แต่น้อย กระทาชายนาย Andy Rubin ยังคงทำงานอยู่ที่ Carl Zeiss ในตำแหน่งวิศกรหุ่นยนตร์ และต่อมาก็ได้เปลี่ยนมาพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา ก่อตั้งบริษัท startup ชื่อ Danger ออกแบบมือถือ Sidekick ให้กับ T-Mobile และในปลายปี 2003 เขาเองก็ตัดสินใจเริ่ม Android Project
แต่ผ่านมาได้ประมาณ 1 ปี Android Project ก็เริ่มมีปัญหา เงินทุนที่ระดมได้เริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ และไม่มีใครสนใจเข้ามาเป็นนายทุนให้ เพื่อจะสานต่อโปรเจคต์หุ่นกระป๋องนาย Andy Rubin ต้องแบกเอาเจ้าหุ่นที่ยังไม่สมบูรณ์ ไปลองนำเสนอใครสักคน Andy ได้ตัดสินใจบินไปถึงกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อไปคุยกับ Samsung ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ในขณะนั้น . .
ในห้องประชุมอันคราคร่ำไปด้วยผู้บริหารระดับสูงถึง 20 คนของซัมซุงนั้น Andy Rubin ได้นำเสนอ Android Project ทั้งหมดที่เค้ามีอยู่ในตอนนั้น แต่ทั้งห้องประชุมกลับเงียบสงัด ไม่มีเสียงใดๆ จนในที่สุดก็มีคนพูดขึ้นมาว่า
“พวกคุณจะเอากองทัพที่ไหนมาสร้างโปรเจคต์นี้ ทั้งทีมคุณมีกันแค่ 6 คน นี่คุณเมารึเปล่า” จากนั้นผู้บริหารของ Samsung ก็พากันหัวเราะและเดินออกจากห้องไป
และในปี 2005 นั่นเอง เป็น Google ที่ตกลงนัดพบกับ Andy Rubin และหลังจากได้คุยกันเป็นที่เรียบร้อย Larry Page ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ Project Android แต่ขอซื้อเจ้าหุ่นกระป๋องทันทีในราคา 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนนึงก็เพราะต้องการจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ และอีกประเด็นนึงก็กลัวว่าถ้า Google ไม่ซื้อ Android แล้ว อาจจะเป็น Microsoft ที่จะเข้าซื้อแทน
และนั่นคือตำนานบทหนึ่งของเจ้าหุ่นกระป๋องเขียว Android ที่ปัจจุบันมันเติบโตจนครองโลกไปแล้วเรียบร้อย ส่วนตัวผมเองก็รู้สึกโล่งอก ที่ตอนนั้น Samsung ไม่ได้เป็นคนซื้อ Android ไป เพราะเท่าที่ดูแล้วทั้ง Bada OS ที่ Samsung ทำขึ้นมาเอง รวมถึง Tizen OS ที่ซื้อ Meego ไปจาก Nokia นั้น มันไร้อนาคตอย่างไรก็ไม่รู้
source : phonearena
และตอนนี้เราก็หัวเราะเยาะที่ SS ไม่ได้ซื้อ 555
ปล. ถ้าตอนนั้น SS ซื้อ GALAXY S2 คงโดนฟ้องมากกว่านี้
ของมันจะดีหรือแย่ มันอยู่ที่คนให้กำเนิด และคนเลี้ยง
ของดีไปอยู่ในมือSSแล้วเลี้ยงไม่ดี ก็ตายตั้งแต่ยังไม่วัยรุ่นเลย
วันนั้น SAMSUNG ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ดั่งวันนี้
สถานการณ์มันไม่เหมือนเก่า
lol Epic มากๆ
เขาคงอยากบอก เป็นไงละ เฮื่อ ฮา ฮา ฮา (หัวเราะแบบตัวโกงในละครไทย)
ขอยกย่อง Google ที่ไม่รู้ว่ามองเห็นอะไรใน project นี้และตัดสินใจซื้อในที่สุด
เอาจริง ๆ ที่หุ่นกระป๋องครองโลกได้ทุกวันนี้ก็เพราะ Google นะ
Samsung เอาไปตอนนั้นก็ตายแบบ Bada นั่นแหละ
อย่าลืมว่า Android ก่อน Google ซื้อ มันคือ OS ที่เหมือนๆกับ BlackBerry เลยนะครับ
ที่มันเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ เพราะ Google ดิ้นรนสุดชีวิต หลังจากที่ iPhone ออกมา แก้ใหม่หมดจนกลายเป็นอย่างที่เห็น
ถ้าอยู่ในมือ SS ในตอนนั้นผมว่าเสียของเปล่าๆ ขนาด Bada ที่เคยเป็นลูกรักยังขุนไม่ขึ้นเลย
ถ้า Samsung ซื้อ android ในวันนั้น ก็คงไม่มี Samsung ในวันนี้…
อันนี้โดนใจ
คนเกาหลีเป็นแบบนี้จริงๆ บางคนนิสัยโผงผางเสียงดัง และบางคนดูถูกคนมักจะเป้นในระดับหัวหน้า และเจ้าของงหรือผู้บริหาร
ดีแล้วที่ ss ไม่ได้ซื้อไป ไม่งั้นดับแน่ๆ
ถึงในเรื่องนี้กูเกิลจะดูเหมือนพ่อพระมาโปรด แต่หลังจากซื้อแล้วกูเกิลก็เคยดองไว้นานไม่สนับสนุนเต็มที่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ เพราะตอนนั้นภายในเองยังไม่มั่นใจว่าหากดัน android ออกมาจะคุ้มกับที่ต้องเสียความสัมพันธ์กับ Apple หรือปล่าว
http://www.blognone.com/node/51903
มันคือ เรื่องตลกสินะ หึหึ
ขอเป็นสาวก Google ต่อไป
อ้าว..android ครองโลกแล้วหรอ … เร็วจิงวุ๊ยยยยย
อย่างน้อยก็ดีกว่า Nokia อ่ะนะ
กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์…ดีใจที่ไม่ใช่Samsungเหมือนกัน เพราะที่เริ่มสนใจAndroidก็เพราะGoogle
อย่างว่าแหละ … มุมมองต่าง การพลิกผัน …
ก็ถูกหมดแหล่ะครับ ที่หลายท่านวิเคราะห์ วันเวลาต่างกัน วิศัยทัศน์ มุมมอง กระแสตลาด ฯลฯ
*แต่ประเด็นเรื่องนี่ผมว่า
ปฎิเสธน่ะเข้าใจได้ครับ มันคือโลกธุรกิจ แต่เยาะเย้ยนี่ เรียกได้ว่า "ต่ำ"บ่องตง
ดีคับเพราะผมไม่เคยสนใจ GALAXY ทางช้างเผือกซักตัวเลยจิงๆ
เหมือนกรรมตามสนองเลยนะ
เคยเยาะเย้ยใครในอดีต มาในตอนนี้กรรมนั้นคืนสนอง
Bada OS ดับเดดิ้น (ตอนนี้สถานการณ์กลับจะกลายเป็น Andy Rubin นะ ที่จะเป็นผู้ที่หัวเราะเยาะผู้บริหารของ Samsung กว่า 20 ชีวิตที่เคยหัวเราะเยาะเขามาก่อน แต่เขาไม่ทำ) และ Tizen OS ของตัวเองก็ยังลูกผีลูกคนอยู่ จะเข็นให้ออกก็ทำไม่ได้ เพราะ Android ครองโลกไปแล้ว (ต่อมาก็ iOS และ Windows Phone) การที่จะทำให้ Tizen OS ขึ้นมาเป็น OS อีกตัวเลือกได้นั้น ยากแสนยากแล้ว ดูตัวอย่างอย่าง BlackBerry ได้ ว่าตอนนี้จะไปรอดหรือจะล่ม
ถ้าไม่มีซัมซุงในวันนั้น คงไม่มีแอนดรอยด์ในวันนี้ ๕๕๕๕๕๕๕๕
ยังไงก็ชอบแอนดรอย ไม่เคยมอง ios ซักนิดแม้เพิ่มเงินอีกไม่กี่บาทก็ซื้อได้แล้ว แต่สภาพการณ์ในอนาคตหลังจากที่ทุกอย่างมาถึงจุดอิ่มตัวจนใกล้สิ้นสุดแล้ว อาจจะไม่แตกต่างไปจาก OS ที่รุ่งเรืองแบบ Symbian ก็ได้นะครับ น่ากลัว
นอกเรื่องไปนิด แต่คิดแบบนี้จริงๆ นะครับ
ปี2005 ดรอยด์ยังเป็นแค่ linux os คงเหมือนๆกับใน moto e680 อยู่เลยมังครับ bada ยังไม่เป็นวุ้นเลย
smartphone ตอนนั้นที่ใช้ๅกันก็มีแค่ symbian, windows mobile, palm os
นี่แหละคนไทย…ขอให้ติ ด่า มันปากไว้ก่อน-_-" ต้องดูสถานการณ์ช่วงนั้นด้วยซิครับ เสพข่าวควรฟังหูไว้หูครับ เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
สาวกแอนดรอยด์ จะถูกจะแพงก็แอนดรอยด์
ไม่ได้ว่าใครผิดใครถููกหรอก
หุ่นกระป๋อง ก็จริง แต่เป็นกระป๋องทองฝังเพชร
กลูเกิล สู้ๆๆ
วิสัยทัศน์ผู้บริหารนั้นสำคัญจริงๆครับ