หลังจากที่ Samsung ได้เข้าซื้อกิจการ Harman International Industries ผู้ผลิตเครื่องเสียงและผู้พัฒนาระบบเชื่อมต่อ IoT กับรถยนต์ รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเงิน 8,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ (ประมาณ 280,000 ล้านบาท) ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็เหมือนว่าการตกลงธุรกิจในครั้งนี้จะจบลงด้วยดี จนกระทั่งกลุ่มผู้ถือหุ้น นำทีมโดยนาย Robert Pine ได้ทำการฟ้องร้อง CEO และกลุ่มผู้บริหารของ Harman เนื่องจากเป็นการขายกิจการในราคาที่ต่ำเกินไป
Samsung ซื้อกิจการ Harman หวังขยายตลาดสู่อุปกรณ์เชื่อมต่อในรถยนต์
โดยการฟ้องร้องในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นของ Harman รู้สึกไม่พอใจที่ CEO และกลุ่มผู้บริหารของ Harman ได้ขายกิจการให้กับ Samsung ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าจริงของบริษัท แถมกลุ่มผู้บริหารที่ว่า ยังไม่ยอมหาผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงกว่า Samsung อีกด้วย
กลุ่มผู้ถือหุ้นเลยได้รวมตัวกันฟ้องร้องประธาน Harman ไม่ให้มีการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ โดยเรียกร้องค่าเสียหายในการยกเลิกข้อตกลงเป็นจำนวน 240 ล้านเหรียญสหรัฐ และไม่ให้มีการขายกิจการด้วย โดยตั้งแต่มีข่าวการเข้าซื้อมามูลค่าหุ้นของ Harman ก็ร่วงหล่นมาอย่างต่อเนื่อง
ถ้าการตกลงซื้อขายของทั้ง 2 บริษัท ยังตกลงกันไม่ได้ ดูเหมือนว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นเทคโนโลยีระบบเสียงระดับเทพของ Harman Kardon ในสมาร์ทโฟนของ Samsung ซะแล้ว
ที่มา Phonearena, GSMarena
เอาที่สบายใจ
แหม่ เป็นทนายที่ถือหุ้น Harman พอขายไปแล้ว
อยากจะต่อรองขอเพิ่มจาก Samsung มั้ง
ธรรมชาติทนายอเมริกาก็ประมาณนี้แหละครับ
โวยวายๆแล้วก็โยนตัวเลขไป แล้วก็ต่อรองใหม่
ถึงจะได้ไม่ถึงที่ต้องการแต่ก็ยังได้เพิ่ม
ว่าแต่คุณทนายนี่ถือหุ้นใน Harman อยู่เท่าไหร่หว่า
อ้าวๆๆ พี่แซมซังเพิ่มตังค์ให้เขาอีกหน่อยก็ได้ละ 55
ดีแล้วไม่เอานะ กลัวลำโพง ระเบิดได้
ไม่น่าขายแต่แรกครับ เสียของ
เสียดายมากมาอยู่กับ Sumsung ดูไม่ค่อยแพงเลยคงมีอะไรภายในกันละมั้งถึงไก้รวมกันฟ้องแบบนี้ขายง่ายขายถูกขนาดนี้ น่าสงสัย