ดูเหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้อย่าง Samsung จะไม่ได้มาแรงเฉพาะในธุรกิจสมาร์ทโฟนอย่างเดียวซะแล้ว เพราะในปี 2017 ธุรกิจด้านการผลิต Semiconductor (ชิปและแผงวงจร) ของ Samsung ได้พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Intel ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากที่บริษัท Intel เคยเป็นแชมป์อันดับ 1 ของโลกในธุรกิจผลิต Semiconductor มาอย่างยาวนานถึง 24 ปี แต่ในปี 2017 ต้องร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 2 ซะแล้ว เพราะ Samsung ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตชิปและแผงวงจรรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกแทน โดยนักวิจัยการตลาดได้ทำนายเอาไว้ว่าภายในสิ้นปี 2017 นี้ Samsung จะทำผลกำไรนำหน้า Intel ไปกว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์

Intel เคยเป็นบริษัทผู้นำของโลกในการผลิต Semiconductor มายาวนานตั้งแต่ปี 1993 โดยเมื่อปี 2016 Intel สามารถทำยอดการส่งออก Semiconductor ได้มากกว่า Samsung ถึง 40% แต่ Samsung ใช้เวลาแค่ปีเดียวก็สามารถโค่น Intel และผงาดขึ้นเป็นที่ 1 ของโลกในด้านการผลิต Semiconductor

ซึ่งการขึ้นเป็นที่ 1 ของ Samsung นี้ เหตุผลหลักๆก็คือความต้องการในตลาดของหน่วยความจำแบบ DRAM และ NAND Flash ที่มีสูงมากๆตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา และ Samsung ก็ได้ลงทุนเพิ่มเติมอย่างหนัก ด้วยการขยายสาขาโรงงานผลิต Semiconductor ออกไปตามส่วนต่างๆของโลก

โดยสิ้นปีนี้มีก็ได้มีการคาดการณ์ว่า Samsung จะมีส่วนแบ่งในตลาด Semiconductor ถึง 15% เลยทีเดียว ส่วนอดีตแชมป์เก่าที่ร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 อย่าง Intel ก็น่าจะมีส่วนแบ่งตลาดตามมาติดๆที่ 13.9% ต้องรอดูกันต่อไปว่าในปี 2018 Samsung จะยังสามารถรักษาแชมป์ไว้ได้รึเปล่า หรือ Intel จะฮึดสู้ขอทวงตำแหน่งที่ครองมาอย่างยาวนานคืน

 

ที่มา : Gizchina