งานประชุมสำหรับนักพัฒนา Samsung Developer Conference ที่จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโกเมื่อคืนนี้ Samsung ได้นำเสนอความคืบหน้าและความเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงเปิดเผยวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัท ตามธรรมเนียมเหมือนที่ผ่านมาในทุก ๆ ปี และมีไฮไลต์เด็ดที่น่าสนใจคือ ระบบปฏิบัติการ One UI 5 บนพื้นฐาน Android 13 ที่หลายคนรอคอย ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว

ปัจจุบัน One UI 5 ยังอยู่ในสถานะเบต้าที่เปิดให้ผู้ใช้งานเข้าร่วมทดสอบเฉพาะบางประเทศ รุ่นล่าสุดคือ Beta 4 ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนเข้าสู่ตัวเต็มที่จะปล่อยออกมาให้สมาร์ทโฟนซีรีส์ Galaxy S22 ภายในเดือนตุลาคม แต่ปกติแล้วในแต่ละประเทศจะได้รับการอัปเดตช้าหรือเร็วไม่เท่ากัน ดังนั้นในส่วนของประเทศไทยอาจต้องเผื่อใจรอกันถึงเดือนพฤศจิกายนเป็นอย่างน้อย

สโลแกนของ One UI 5 คือ ‘Your Galaxy. Your way.’ ซึ่งเป็นสโลแกนที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา เห็นแล้วรับรู้ได้ในทันทีว่าการอัปเดตหนนี้ Samsung จะเน้นไปที่การปรับแต่งหน้าตาหรือลักษณะการใช้งานของโทรศัพท์ให้เหมาะสม สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

แสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ ผ่านการปรับแต่ง Lock screen

Samsung ได้ดึงเอาความสามารถจากโมดูล LockStar ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Good Lock มาใส่ลงไปใน One UI 5 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าจอล็อกได้อิสระมากขึ้น วิดเจ็ตนาฬิการองรับการเปลี่ยนฟอนต์เพิ่มเติม จากเดิมที่เปลี่ยนได้แค่รูปแบบกับสี ซึ่งจะซิงก์กับ Always-On Display ด้วย

นอกจากนี้ วิดเจ็ตนาฬิกายังรองรับการปรับขนาดและการโยกย้ายตำแหน่ง เช่นเดียวกับการ์ดแจ้งเตือนและข้อมูลผู้ติดต่อ อยากจับให้อะไร วางอยู่ตรงไหน สีสันเป็นยังไง ในหน้าจอล็อก เลือกเองได้ทั้งหมด

อัปเกรด Dynamic Lock screen เลือกได้เองทั้งภาพและวิดีโอ

หน้าจอล็อกโฉมใหม่ยังรองรับการนำวิดีโอมาใส่เป็นพื้นหลังในลักษณะไลฟ์วอลเปเปอร์ และในขณะเดียวกัน Dynamic Lock screen ก็รองรับการจับกลุ่มภาพหรือวิดีโอเพื่อสร้างชุดพื้นหลังด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่บังคับเฉพาะพรีเซตจาก Samsung อีกต่อไป โดยภาพพื้นหลังจะทยอยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรืออื่น ๆ ตามแต่จะกำหนด

กำหนด Modes ต่าง ๆ แยกตามกิจวัตรประจำวัน

ฟีเจอร์ Routines ของ Bixby ได้ถูกจับมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Modes พร้อมปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น โดยการแยกโปรไฟล์ออกเป็นโหมด ๆ ตามชื่อ และแยกออกมาเป็นหนึ่งเมนูเด่น ๆ ในส่วนการตั้งค่าหลักเลย ยกตัวอย่างการใช้งานบางส่วน เช่น

  • โหมดทำงาน — ตั้งค่าให้ใช้งานได้เฉพาะแอปที่กำหนด เพื่อเพิ่มสมาธิในการทำงาน
  • โหมดพักผ่อน — เมื่อเปิดใช้งานจะเข้าสู่โหมดห้ามรบกวน เพื่อไม่ให้มีอะไรมาขัดจังหวะระหว่างเล่นเกมหรือดูหนัง
  • โหมดออกกำลังกาย — เริ่มเล่นเพลงโดยอัตโนมัติ พร้อมกำหนดให้ Bixby ส่งข้อความตอบกลับตามที่กำหนดหากมีสายโทรเข้า เช่น ‘ออกกำลังกายอยู่ เดี๋ยวโทรกลับ’

พวกเงื่อนไขย่อย ๆ เหล่านี้ ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมในเชิงลึกลงไปได้อีก เพราะทุกโหมดจะแยกกันอย่างอิสระ และสามารถกำหนดให้โหมดใด ๆ ทำงานโดยอัตโนมัติตามช่วงเวลาหรือสถานที่ได้ด้วย

รวม Privacy และ Security เข้าด้วยกัน

ถัดมาคือการรวมคุณสมบัติและการตั้งค่าด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเข้าด้วยกัน ผู้ใช้งานสามารถเรียกดูประวัติการเข้าถึงสิทธิ์ของแอปต่าง ๆ จากแดชบอร์ด พร้อมจัดการการให้สิทธิ์เหล่านั้นได้จากในหน้าเดียว และมีฟีเจอร์ Scan สำหรับตรวจสอบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในเครื่อง หากการตั้งค่าในส่วนไหนที่ระบบมองว่าไม่ปลอดภัย หรือมีสิ่งผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ก็จะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบทันที

เข้ารหัสไฟล์ที่แชร์ด้วย Private share คนอื่นนำไปแชร์ต่อไม่ได้

Samsung ยังได้ปรับปรุงความสามารถของ Private share ใหม่ ความสามารถของฟีเจอร์นี้คือการเข้ารหัสไฟล์และกำหนดสิทธิ์วันหมดอายุ ส่งผลให้ไฟล์ที่ถูกแชร์ไปนั้นเปิดดูได้เฉพาะผู้รับที่กำหนด จนถึงวันที่ที่กำหนด ไม่สามารถคัดลอก จับภาพหน้าจอ หรือส่งต่อซ้ำได้

ส่วนความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือการนำ AI เข้ามาช่วยตรวจสอบภาพ ซึ่งจะปรากฏเมนู Private share โดยอัตโนมัติทันทีที่ระบบเห็นว่าภาพที่ผู้ใช้งานกำลังจะแชร์นั้น เกี่ยวข้องกับข้อมูลบางอย่างที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น บัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ

Bixby text call เปลี่ยนการคุยโทรศัพท์ด้วยการพูดเป็นการพิมพ์

ฟีเจอร์ Text call เป็นความสามารถใหม่ของ Bixby ซึ่งจะปรากฏเป็นเมนูให้เลือกใช้งานขณะคุยโทรศัพท์ ฟีเจอร์นี้จะใช้ AI ถอดเสียงจากปลายสายเป็นข้อความ เรียกว่า Voice to text ควบคู่ไปกับการแปลงข้อความจากต้นสายเป็นเสียง เรียกว่า Text to voice ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน หรือผู้ใช้งานทั่วไปที่ชอบการสนทนาด้วยการพิพม์ มากกว่าการสนทนาด้วยการพูด

ณ วันที่นำเสนอ Text call ยังรองรับการใช้งานเฉพาะภาษาเกาหลี ส่วนภาษาอื่น ๆ จะทยอยอัปเดตตามออกมาในอนาคต เริ่มจากภาษาอังกฤษเป็นลำดับแรก

เปิด Multi-Window และ Pop-Up View ได้อย่างรวดเร็ว

ความสามารถ Multi-Window หรือเปิดใช้งานแอปพร้อมกันหลายหน้าต่าง เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ Android มาช้านาน ใน One UI 5 เราจะสามารถเข้าสู่โหมดนี้ได้ง่ายขึ้น โดยการรูด 2 นิ้วพร้อมกันขึ้นมาจากขอบหน้าจอด้านล่าง

นอกจากนี้ยังสามารถเข้าสู่โหมด Pop-Up View หรือหน้าต่างลอยได้อย่างรวดเร็ว โดยการรูด 1 นิ้วลงมาในแนวเฉียงจากมุมหน้าจอด้านบน นี่เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่ถูกหยิบยกมาจาก Good Lock เช่นกัน

เตรียมอัปเดต Taskbar และ Multi-Window ให้อุปกรณ์หลายรุ่น

Samsung สัญญาว่าจะนำการปรับปรุงในด้านมัลติทาสกิงมาสู่แท็บเล็ตในซีรีส์ Galaxy Tab และสมาร์ทโฟนจอพับในซีรีส์ Galaxy Z ในรุ่นที่รองรับการอัปเดต Android 12L โดยการเพิ่มแถบ Taskbar เข้าไปที่ส่วนล่างสุดของหน้าจอ ซึ่งจะรองรับการเปิดแอปในรูปแบบ Multi-Window ได้สูงสุด 3 หน้าต่างอย่างง่ายดาย (หรือเพิ่มเป็น 4 หน้าต่าง กรณีนับรวม Pop-Up View เข้าไป) เพียงแค่แตะแอปจาก Taskbar แล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ทั้งยังสามารถปักหมุดกลุ่มแอปเหล่านั้นเพื่อความสะดวกในการเปิดใช้งานในครั้งถัด ๆ ไป

การเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่น ๆ ที่เหลือ

One UI 5 ยังมีการเปลี่ยนแปลงย่อย ๆ อีกหลายส่วน ยกตัวอย่างบางส่วน ดังนี้

  • ออกแบบแอป Gallery และ Wallpapers ใหม่ และมีภาพพื้นหลังของระบบใหม่ให้เลือก
  • เพิ่มฟีเจอร์ Auto optimisation ใน Device Care เพื่อรักษาการทำงานให้ลื่นไหลอยู่เสมอ
  • เพิ่มความครอบคลุมของ Colour Palette หรือระบบสีตามธีมที่มีต่ออินเทอร์เฟซระบบและแอปบางตัว
  • ปรับปรุงแอนิเมชันและหน้าตาของอินเทอร์เฟซ ให้ดูสวยงาม ต่อเนื่อง ลื่นไหลกว่าเดิม
  • ปรับปรุงการโต้ตอบด้วยการสั่น ให้รู้สึกเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
  • แบ่งกลุ่มการแจ้งเตือนแบบใหม่ ให้ดูเป็นหมวดหมู่และมีระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
  • วิดเจ็ตในหน้าโฮมรองรับการวางเรียงซ้อนกัน ให้เรียกดูหรือใช้งานโดยการรูดนิ้วทางซ้ายหรือขวา ซึ่งจะไม่เกะกะพื้นที่
  • เรียกดูได้ว่าแอปใดกำลังทำงานอยู่ในเบื้องหลังจากหน้าการตั้งค่าด่วน
  • แอปใด ๆ จะส่งการแจ้งเตือน ต้องขอสิทธิ์ก่อนเสมอในครั้งแรก (เฉพาะครั้งแรกเพียงครั้งเดียว)

ส่งผ่านฟีเจอร์จาก Good Lock สู่ One UI

สุดท้าย Samsung ได้เล่าว่า ในแต่ละปีจะมีการนำฟีเจอร์เกี่ยวกับการปรับแต่งอินเทอร์เฟซบางส่วนจาก Good Lock มาผนวกเข้าไปใน One UI อยู่เสมอ อย่างในปีนี้คือ LockStar ตามที่เอ่ยถึงไปแล้ว และในเร็ว ๆ นี้จะมีฟีเจอร์ใหม่ตามออกมาอีก โดยบอกใบ้เป็นไอคอนรูปกล้องพร้อมฟันเฟือง ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งแอป Camera หรืออะไรสักอย่างในแง่การถ่ายภาพ

 

ที่มา : Samsung

เผยรายชื่อมือถือ Samsung Galaxy จำนวน 7 รุ่น ที่จะได้รับ One UI 5.0 (Android 13) ภายในปีนี้