ค่าย Samsung ยังคงเป็นแบรนด์ดังฝั่ง Android ที่คอยผลักดันและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเริ่มผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ในมือถือซีรีส์ Galaxy ในปี 2009 จากนั้นมาเราได้เห็นสินค้าไลน์ใหม่ ๆ ในปัจจุบันแบ่งสินค้าออกมาทั้ง Galaxy Z ที่เน้นนวัตกรรมจอพับ Galaxy S ตัวมือถือเรือธง หรือรุ่นกลางรุ่นเล็กต่าง ๆ เต็มไปหมด ซึ่งแต่ละรุ่นมีจุดเด่น ความแตกต่างกันอย่างไร คราวนี้เราจะอธิบายให้ฟังทุกรุ่น

Galaxy Z – มือถือเรือธง ใช้นวัตกรรมจอพับ

Samsung Galaxy Z เป็นมือถือที่นำนวัตกรรมจอพับ มาออกวางขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี  2019 มีจุดเด่นในด้านการพกพา ที่สามารถจับมือถือพับครึ่ง ใส่ในกระเป๋าเพื่อเดินทางได้ง่าย ๆ ใช้เทคโนโลยีจอแบบพิเศษและข้อพับมาใช้ในการผลิต ส่วนสเปคก็จะใส่มาให้แบบจัดเต็มสมยุค แบ่งออกได้เป็นสองซีรีส์ต่างรูปทรง คือ Samsung Galaxy Z Fold และ Samsung Galaxy Z Flip

 

Samsung Galaxy Z Fold

มือถือจอพับซีรีส์แรก ขณะกางเต็มที่จะมีหน้าจอกว้างคล้ายแท็บเล็ตขนาดย่อมราว 7 นิ้วขึ้นไป สามารถพับหักครึ่งให้ได้รูปทรงเหมือนมือถือทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าแบบทั่วไป มีจอตรงด้านนอกเพื่อรองรับการใช้งานเหมือนมือถือปกติเวลาพับ  รุ่นนี้มีความเหมาะสมใช้เป็นเครื่องมือทำงาน เพราะรองรับปากกา สามารถแบ่งหน้าจอได้หลายแบบ รองรับการ Multitask ส่วนเรื่องสเปคก็จะให้มาระดับสูงสุด ชิปตัวแรงที่สุด แบตก็เยอะเหมือนที่ใช้ในแท็บเล็ต มาพร้อมกล้องระดับเรือธงใช้นวัตกรรมต่าง ๆ ใส่มาไม่ยั้ง มีมือถือรุ่นล่าสุดคือ Galaxy Z Fold4

Samsung Galaxy Z Flip

มือถือจอพับซีรีส์ที่ออกมาต่อจากตัว Fold เป็นการนำมือถือรูปทรงธรรมดา มาเพิ่มความสามารถให้พับครึ่งได้ กลายเป็นสี่เหลี่ยมเล็กลงคล้ายตลับแป้ง ใส่กระเป๋าเสื้อก็ยังได้ นอกจากจะเน้นความง่ายในการพกพาแล้ว รุ่นนี้ยังเสริมความเป็นแฟชั่นเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด อารมณ์เหมือนการจับมือถือพับปิดเปิดได้ในยุคก่อน มาใส่ในสมาร์ทโฟนแบบใหม่ มักมีของตกแต่งอย่างเคส สายห้อย ที่ไปโคร่วมกันกับแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย

มือถือ Galaxy Z Flip จะใช้สเปคระดับพรีเมี่ยมเกือบเรือธง ชิปเซ็ตจะใช้ตัวแรงสุด จอคุณภาพดีที่สุด แต่เรื่องกล้องยังไม่ได้ให้มาจัดเต็มเท่า Fold หรือ Galaxy S Ultra และยังมีติดเรื่องการให้แบตเตอรี่มาน้อยหน่อยเพราะโดนกินพื้นที่จากข้อพับและข้อจำกัดอื่น มีมือถือรุ่นล่าสุดคือ Galaxy Z Flip4

มือถือซีรีส์ Galaxy Z ที่น่าซื้อ

จริง ๆ แล้วทั้งสองรุ่นมีความต่างกันอย่างมาก แต่จากมุมมองการใช้งาน รุ่น Galaxy Z Fold4 นั้นมีฟังก์ชั่นเยอะกว่า สะดวกใช้ทำงานมาก ๆ น่าเป็นตัวหลักเอามาใช้ในชีวิต แต่ราคาก็ค่อนข้างแรง หากยอมรับได้ก็จัดได้เลย

Play video

Galaxy S – มือถือเรือธง ดีที่สุดของค่าย

กลับมาที่มือถือทรงธรรมดากันบ้าง จะถือว่า Galaxy S เป็นซีรีส์มือถือเรือธงของค่าย ที่จะใช้สเปคชิป จอ และองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างดีที่สุด ถือเป็นตัวโชว์ความสามารถและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของบริษัท พร้อมชนกับสมาร์ทโฟนเรือธงค่ายอื่นอย่าง iPhone, Xiaomi S, OPPO Find X, vivo X, HUAWEI Mate เวลาเปิดตัวออกมาทีจะมีด้วยกัน 3 รุ่น คือ Galaxy S Ultra, Galaxy S Plus, และ Galaxy S ธรรมดา

Galaxy S Ultra

รุ่นพี่ใหญ่สุดจัดเต็ม จอกว้างสุดสว่าง ความละเอียดสูง รีเฟรชเรทลื่นแบบ Adaptive แบตก็ให้มาขนาดใหญ่ใช้กันได้ยาวนาน ชาร์จไว ชิปเซ็ตตัวแรงสุดของยุค ส่วนกล้องก็จะให้มาเน้น ๆ ทุกตัว นอกจากนี้ Samsung ยังจะเน้นพวกเรื่องการซูมไกลคุณภาพสูงด้วย ตัวนี้ซื้อไปคือตอบโจทย์ทุกอย่าง แต่ก็จะค่าตัวแรงอยู่ ราคาพอเทียบเท่า Galaxy Z Flip แต่ไม่ถึง Galaxy Z Fold มีรุ่นล่าสุดเป็น Galaxy S22 Ultra ที่เพิ่มการรองรับปากกา Stylus  เข้ามาด้วย

Galaxy S Plus

มือถือจอขนาดใหญ่ระดับกลาง แบตใหญ่แม้ไม่เท่า S Ultra แต่ก็รองรับชาร์จไวสูง รุ่นนี้มีจุดเด่นใช้จอใหญ่กับแบตใหญ่นี้แหละ ส่วนสเปคชิปเซ็ตให้มาแรงที่สุดเท่ากับตัวอื่น จะขาดก็เรื่องกล้องที่ให้มาเท่ากับตัวเริ่มต้น Galaxy S เท่านั้น ใครต้องการมือถือใช้งานต่อวันยาว ๆ ไม่เน้นกล้องมากก็เหมาะรุ่นนี้ มีรุ่นล่าสุดเป็น Galaxy S22 Plus

Galaxy S

มือถือตัวเริ่มต้นของซีรีส์เรือธง จอขนาดเล็กสุดราว 6.1 นิ้ว สว่างสู้รุ่นพี่ ๆ ไม่ได้ และให้แบตและการชาร์จมาไม่เยอะมาก กำลังพอดีการใช้งาน แต่เรื่องความเร็วการใช้งานก็จะรวดเร็วพอกันเพราะใช้ชิปตัวแรงที่สุด ระบบกล้องให้มาระดับดี ไม่ได้เว่อวังเท่า Galaxy S Ultra มีรุ่นล่าสุดเป็น Galaxy S22

มือถือซีรีส์ Galaxy S ที่น่าซื้อ

ด้วยความที่ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ยังใช้ชิปเหมือนกัน หากไม่ซีเรียสว่าต้องใช้แบตเยอะ ๆ ไว้ก่อน รุ่นเริ่มต้นอย่าง Galaxy S22 ก็น่าสนใจไม่น้อย มาพร้อมจอสวยสดใส รีเฟรชเรทลื่น ๆ และกล้องสวยใช้ได้ดีครับ

Play video

Galaxy Note – มือถือจอใหญ่รองรับปากกา เหมาะใช้ทำงาน (เลิกขายแล้ว)

Galaxy Note เป็นมือถืออีกรุ่นในความทรงจำ ที่หลาย ๆ คนก็อาจเป็นเจ้าของอยู่ มีจุดเด่นเป็นการรองรับปากกาขีดเขียน Stylus ไว้ช่วยจดงาน เขียนเซ็นเอกสาร และการทำงานด้านอื่น ๆ หลายแนว มาพร้อมกับจอขนาดกว้างพิเศษ 6.7 นิ้วขึ้นไป ปกติมีสองรุ่นเวลาเปิดตัวคือ Galaxy Note ตัวเริ่มต้น และ Galaxy Note Ultra ที่จะอัปเกรดจอ ขนาด กล้อง แต่ชิปจะใช้เทียบเท่าเรือธงของค่าย หรือตัวดีที่สุด น่าเสียดายตอนนี้ไม่ได้วางขายมานานแล้ว คาด Samsung อาจหลอมรวมซีรีส์นี้กับตัว Galaxy S Ultra แทน เพราะล่าสุดรองรับปากกา Stylus ได้แล้ว มีรุ่นสุดท้ายที่ออกวางขายคือ Galaxy Note 20 / Galaxy Note 20 Ultra

Play video

Galaxy S FE – มือถือรองซีรีส์เรือธง

ตัว FE ย่อมาจาก Fan Edition ทำออกมาเอาใจคนอยากได้มือถือรุ่นใหม่สเปคดี แต่ยังคุมราคาให้ประหยัดขึ้นมาได้ น่าซื้อมาใช้งาน ด้านจอขนาดกลาง ๆ สีสันสดใสเป็น AMOLED รีเฟรชเรทสูง แบตขนาดกำลังดี แต่มีลดสเปคกล้องลง และลดคุณภาพชิ้นส่วนประกอบบอดี้ลงไปบ้าง แต่จะใช้ชิปข้างในตัวเดียวกับ S Series เลยทำให้ใช้งานได้ไวอยู่ดี แถมยังมีมาตรฐานกันน้ำทนฝุ่นด้วย เหมาะเทียบกับรุ่น Galaxy S ตัวเริ่มต้น มีรุ่นล่าสุดเป็น Galaxy S21 FE

Play video

Galaxy A – มือถือระดับกลางบน-ล่าง

ถัดลงมา Galaxy A จะเป็นมือถือระดับกลางค่อนบน ที่จะให้สเปคระดับคุณภาพ น่าใช้งาน แต่ยังคงรักษาราคาไว้ให้เข้าถึงได้ง่าย ปัจจุบันตัวรุ่นสูงสุด จะให้จอ AMOLED สีสันสดใส อัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz พร้อมระบบกล้อง 4 ตัวรองรับทุกระยะมา พอการใช้งานไม่ได้สวยเท่าพวกรุ่นเรือธง ส่วนชิปก็จะใช้ระดับกลางค่อนบน เร็วแรงใช้ได้ แบตเตอรี่ความจุเยอะอยู่ได้ยาวนาน มีสแกนนิ้วบนจอ และยังได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นมาเล็กน้อย

โดย Galaxy A จะมีการหั่นซอยรุ่นเล็กออกมาตามเลขหลักสิบ เป็น Galaxy A0x/1X/2X/3X/4X/5X/7x/A8X แล้วจะมีรุ่นใหม่ออกในรุ่นย่อยไหนก็เพิ่มเลขหลักหน่วยแทน เช่น Galaxy A52 > Galaxy A53 เป็นต้น ส่วนรุ่นไหนดีกว่า ก็สามารถดูได้ตามตัวเลข หลักการเลขยิ่งมาก ยิ่งเป็นคุณภาพดี ราคาสูงกว่า Galaxy A มีรุ่นล่าสุดที่ออกมาคือ Galaxy A04 5G

มือถือซีรีส์ Galaxy A ที่น่าซื้อ 

Galaxy A33 5G เป็นรุ่นที่ได้ชิประดับกลาง คุณภาพดี จอลื่นสูงสุด 90Hz ส่วนกล้องก็ชัด 48MP ใช้งานได้กำลังดีสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้งานมือถือเพื่อถ่ายภาพหรือเล่นเกมอะไรหนักมาก ส่วนแบตก็ให้มาเยอะไม่แพ้ใคร ถือว่าคุ้มค่าต่อเงิน

Galaxy M – มือถือระดับกลาง-ล่าง

รุ่นที่ใกล้เคียงซีรีส์ A คือ Galaxy M ที่จริง ๆ แล้วนับเป็นตัวกลางอีกรุ่น ที่อยู่ต่ำลงมาจาก A นิดนึง เน้นราคาประหยัดให้เข้าถึงได้เพราะขายออนไลน์เท่านั้น อาจมีการตัดฟีเจอร์อะไรลงไป ลดสเปคลงมาหน่อย รุ่นสูงสุดซีรีส์นี้ให้จอ AMOLED ชิประดับกลาง และใส่จุดเด่นเป็นกล้อง 108MP เป็นกิมมิกเข้ามาดึงดูดผู้ใช้ แบตก็จะให้เยอะ ๆ แต่แสกนนิ้วจะใช้สัมผัสด้านข้างเอา

แม้ Galaxy M จะเป็นรุ่นระดับล่างลงมาจาก Galaxy A แต่ด้วยความที่ทั้งสองซีรีส์ซอบแบ่งรุ่นกันเยอะมาก ทำให้สเปคคาบเกี่ยวกันอยู่เยอะ ต้องเปิดดูเทียบรุ่นต่อรุ่นอีกทีเพื่อความเข้าใจ ส่วนใน Galaxy M จะแบ่งออกเป็นรุ่นย่อย Galaxy M5x/M3X/M2X/M1X และหากมีรุ่นใหม่จะเพิ่มเลขหลักหน่วยขึ้น เช่น Galaxy M52 > M53 ยึดหลักการว่าเลขยิ่งสูง ยิ่งคุณภาพ สเปค ดีขึ้น มีมือถือรุ่นล่าสุดคือ Galaxy M53 5G

มือถือซีรีส์ Galaxy M ที่น่าซื้อ 

ตอนนี้มีรุ่น Galaxy M23 ได้ชิปตัวกลางกำลังดี Snapdragon 750G  ส่วนจอก็ได้รีเฟรชเรท 120Hz แบตขนาดใหญ่ 5000 กล้อง 50MP เพียงเท่านี้ก็ครอบคลุมทุกความต้องการใช้งานแล้ว

Play video

Galaxy J – มือถือระดับกลางล่าง (เลิกขายแล้ว)

แต่ก่อนแล้ว Samsung จะมี Galaxy J ที่เป็นซีรีส์มือถือระดับกลาง-ล่าง ก่อนจะถูกยกเลิกไปในปี 2019 เพื่อยุบไปรวมในซีรีส์ Galaxy A และ Galaxy M แต่ก่อนหน้านั้นก็จะเป็นมือถือรุ่นประหยัดที่หลาย ๆ คนคงได้มีโอกาสได้ใช้กัน เพราะมีสเปคพอเหมาะกับการใช้งานทั่วไป มีรุ่นสุดท้ายที่วางขายคือ Galaxy J8

Galaxy XCover – มือถือสายถึกทน ใช้กลางแจ้ง-โรงงานอุตสาหกรรม

Galaxy XCover คือมือถือที่มีจุดเด่นในด้านความคงทน ด้วยตัวเครื่องหนาสร้างจากวัสดุกันกระแทก สามารถคงทนสภาพแวดล้อม กันน้ำกันฝุ่นได้ เป็นมือถือที่ไม่มีวางขายเป็นการทั่วไป เน้นขายให้บริษัทต่าง ๆ ซื้อไปให้พนักงานใช้ในระหว่างการทำงานครับ เป็นมือถือที่ยังให้เปิดฝาหลังเปลี่ยนแบตได้ เหมือนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป หากสนใจสั่งซื้อต้องติดต่อกับบริษัทโดยตรง มีรุ่นล่าสุดคือ Galaxy XCover 6 Pro

Play video

ที่มา : samsung