ในปี 2023 ที่ผ่านมา Samsung ได้เพิ่มการสั่งซื้อชิปเรือธงจาก Qualcomm มากขึ้น และนำมาใช้ใน Galaxy S23 Series รวมถึง Galaxy Z Fold5 และ Galaxy Z Flip5 จนทำให้ต้นทุนการสั่งซื้อชิปของแผนกมือถือสูงขึ้นถึง 3.1% เมื่อเทียบกับปี 2022 จนในปีนี้เริ่มนำชิป Exynos กลับมาใช้อีกครั้งใน Galaxy S24 Series และในอนาคต Samsung มีแผนที่จะใช้ชิป Exynos ในมือถือให้มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนด้วย
Samsung Electronics ได้รายงานผลประกอบการในธุรกิจต่าง ๆ ของปี 2023 โดยมีตัวเลขระบุว่า แผนกมือถือมีต้นทุนในการสั่งซื้อชิปเซ็ตกว่า 8.87 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2022 แล้วพบว่าเพิ่มขึ้นกว่า 3.1%
ซึ่งหลัก ๆ แล้วเป็นผลมาจากราคาชิปในตลาดที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 30% รวมถึงในปี 2023 ยังได้มีการซื้อชิปเชตเรือธงจาก Qualcomm เพื่อใช้กับ Galaxy S23 Series ทุกรุ่น และซื้อชิปจาก MediaTek เพื่อใช้ในมือถือระดับเริ่มต้น – ระดับกลางในหลาย ๆ รุ่น
การสั่งซื้อชิปจากบริษัทภายนอกมากขึ้น นอกจากจะทำให้แผนกมือถือมีต้นทุนที่สูงขึ้นแล้ว ยังส่งผลในธุรกิจในกลุ่ม Semiconductor ที่ผลิตชิป Exynos ทำรายได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในไตรมาส 4 ปี 2023 ที่ผ่านมา Samsung ทำยอดจัดส่งชิป Exynos ลดลงกว่า 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับในปี 2022
ดังนั้น ในปี 2024 เราจึงได้เห็นชิป Exynos ถูกใส่มาหลายรุ่นมากขึ้น ตั้งแต่ซีรีส์เรือธงอย่าง Galaxy S24 และ Galaxy S24+ รวมถึงซีรีส์ที่ขายดีที่สุดอย่าง Galaxy A25 5G, Galaxy A35 และ Galaxy A55
และในอนาคต Samsung ยังมีแผนที่จะนำชิปที่พัฒนาเองมาใช้ในมือถือมากขึ้นในอนาคต เพื่อลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งในตอนนี้ซีรีส์เรือธงปี 2025 อย่าง Galaxy S25, Galaxy S25+ และ Galaxy S25 Ultra ก็เริ่มมีข่าวลือแว่ว ๆ ว่า จะเปลี่ยนไปใช้ชิป Exynos 2500 เหมือนกันหมดทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดอเมริกาเท่านั้น)
แต่ถึงแม้ว่าจะได้ยินชื่อ Exynos ก็ไม่ต้องกลัว เพราะ Samsung ก็มีแผนลงทุนในด้านการพัฒนาชิปเพื่อปรับปรุงทั้งเรื่องอุณหภูมิ และประสิทธิภาพการใช้งานให้แข่งขันในตลาดได้ดีขึ้นนั่นเอง
ต่อให้มันดีกว่า snap แบบไม่เห็นฝุ่น ผมก็ยังอยากได้ snap มากกว่าอยู่ดี
ให้มันดีจริงๆ เหอะ ไม่ได้เกี่ยงว่าจะเป็น SD หรือไม่ ถ้ามันดีมันก็คือดี แต่ถ้าไม่ดีมันก็คือไม่ดี