จากข้อมูลของ IDC ส่วนแบ่งการตลาดของ Samsung นั้นลดลงอย่างน่าใจหายในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยลดลงเหลือ 24.9% จากที่เคยได้ถึง 32.2% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2013 ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าสาเหตุใหญ่มาจากความสำเร็จอย่างสวยงามของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายรายจากประเทศจีนในปีนี้ ซึ่ง Samsung ก็รู้เรื่องนี้ดีจึงได้ตัดสินใจดำเนิน แผนธุรกิจแบบสองง่าม (Two-pronged Approach) ด้วยการปรับลดราคาและจำนวนรุ่นมือถือในตลาดกลางและล่าง พร้อมทั้งเน้นความแตกต่างและล้ำหน้าให้กับมือถือตลาดพรีเมียม สิ่งที่จะเพิ่มความล้ำหน้าและแตกต่างให้ตลาดพรีเมียมของ Samsung คือ หน้าจอมือถือที่สามารถพับได้ นั่นเอง

ในปี 2015 หรือปีหน้าที่จะถึงนี้ Samsung ได้วางแผนปรับการผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนของบริษัทอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนแรกจะทำการปรับราคาสมาร์ทโฟนในตลาดกลางและตลาดล่างของบริษัทให้ถูกกว่าเดิมและ ลดจำนวนรุ่นที่จะวางจำหน่ายลง 30% ส่วนที่สองคือสมาร์ทโฟนในตลาดพรีเมียมนั้น Samsung จะเน้นความล้ำสมัยทางด้านเทคโนโลยีที่คู่แข่งไม่สามารถหรือยากที่จะทำเลียนแบบได้ และความล้ำหน้าอย่างหนึ่งที่ Samsung จะนำมาใช้แน่นอนคือ หน้าจอ AMOLED ที่สามารถพับได้ (Foldable AMOLED Display) ซึ่งบริษัทพัฒนาต่อมาจาก หน้าจอยืดหยุ่นที่งอโค้งได้ใน Galaxy Round และล่าสุดกับ Galaxy Note Edge 

คุณ Lee Chang-hoon รองประธานบริหารของบริษัท Samsung Display ได้กล่าวกับนักลงทุนในงานพบปะนักลงทุนของบริษัทที่ New York ที่ผ่านมาว่า “บริษัทจะเตรียมการผลิตหน้าจอพับได้ให้ได้ประมาณ 30,000-40,000 ชิ้นต่อเดือนภายในสิ้นปี 2015 โดยคาดว่าจะมีอุปกรณ์ที่ใช้หน้าจอพับได้นี้วางจำหน่ายได้ทันเทศกาลคริสต์มาสปีหน้า และจะเพิ่มอัตราการผลิตขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงปี 2016 นอกจากนั้นคุณ Lee ยังเสริมอีกว่า ทางบริษัทกำลังหาทางลดค่าใช้จ่ายในการผลิตหน้าจอ AMOLED เพื่อให้สามารถแข่งขันกับหน้าจอแบบ LCD ได้มากขึ้น เพราะตอนนี้การผลิต LCD ยังถูกกว่าอยู่ 

เราคงต้องรอดูกันอีกว่า ปีหน้าจะได้เห็นมือถือหน้าจอพับครึ่งได้จาก Samsung จริงหรือไม่? ถ้าจินตนาการต่อก็อาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่เวลาพับแล้วขนาดเล็กลง พกได้สะดวกมากขึ้น หรือจะเป็นแท็บเล็ตที่พับครึ่งแล้วกลายเป็นมือถือก็ได้ #มโนกันไปครับ


ที่มา: ZDNet และ IDC ผ่าน PhoneArena