เปิดตัวไปแล้วสำหรับ Samsung Galaxy S5 เมื่อเช้านี้ช่วงประมาณตี 2 หลายๆ คนที่ได้ดูงาน Unpacked 5 ก็น่าจะได้เห็นว่า Samsung โชว์ Samsung Galaxy S5 พร้อมกับเพื่อนสมาร์ทวอชคู่่ใจอย่าง Samsung Gear 2 และ Samsung Gear Fit
นอกจาก สเปคของ Samsung Galaxy S5 ที่หลายๆ คนน่าจะได้เห็นกันไปแล้ว เรามาลองดูดีกว่าว่าทาง Samsung เค้าได้พยายามเพิ่มความสามารถทางด้านไหน ให้กับเจ้า S5 ตัวนี้บ้าง
อย่างแรกที่หลายๆ คนพอได้เห็นแล้วก็เริ่มวิพากวิจารณ์กัน นั่นคือหน้าตาของ Samsung Galaxy S5 ที่บ้างก็บอกว่าสวยดีชอบ บางคนก็บอกมันดูเหมือนรุ่นเก่าๆ ก่อนหน้านี้ เหมือนย้อนกลับไปใช้ดีไซน์ของ Galaxy S ตัวแรกบ้าง ส่วนตัวผมว่าฝาหลังมันก็ไปคล้ายๆ กับตอน Galaxy Cooper อยู่นิดๆ
หน้าจอของ Samsung Galaxy S5 นั้นนอกจากจะเป็น Full HD Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้วแล้ว จุดเด่นของมันยังมีเรื่องของความสว่างที่สามารถเร่งให้สว่างขึ้นได้มากกว่าเดิม และยังลดความสว่างได้ต่ำดำมืดสุดๆ ชนิดที่ตอนกลางคืนไม่ต้องบ่นแสบตากันเหมือนรุ่นก่อนๆ
UI Design ทาง Samsung บอกว่าได้ปรับให้ UI ของ Galaxy S5 ดูง่ายขึ้น และดูสะอาดสะอ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้งาน icon บางส่วนเพิ่มเข้ามา แต่รวมๆ ยังคงความเป็น TouchWiz ไว้อยู่พอสมควร ไม่ได้ปรับเยอะอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก
ระบบสแกนลายนิ้วมือหรือ Finger print scan ของ Galaxy S5 นั้นแตกต่างจากของ iPhone อย่างที่ลือกันออกมาก่อนหน้านี้ โดยเราต้องใช้นิ้วลากผ่านปุ่มโฮมเท่านั้น แต่บริเวณหน้าจอจะมีรูปนิ้วขึ้นมาในช่วงที่เราลากผ่านเฉยๆ หลายๆ คนเห็นภาพแล้วเข้าใจผิด ขนาดผมเองยังเข้าใจผิดเลย นึกว่าให้เราเอานิ้วไปแตะบนหน้าจอ
ต่อมาเรื่องของกล้องความละเอียด 16 ล้านที่ทาง Samsung ได้เน้นไปที่ความเร็วในเรื่องของการโฟกัสภาพ (Fast AF) ที่ใช้เวลาแค่ 0.3 วินาทีกล้องก็สามารถจับโฟกัสได้แล้ว พร่อมด้วยระบบ Selective Focus ที่ใช้ปรับจุดโฟกัสของภาพที่เราถ่ายมาแล้วได้ จะเบลอหน้าเบลอหลังก็ปรับไป ส่วน LED Flash ที่ตอนแรกคาดการว่าจะเป็นการใช้แฟลช 2 ดวงนั้นไม่ใช่ครับ เพราะช่องข้างๆ ไฟ LED ที่เห็นด้านบนนั้นคือช่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจหรือ Heart Rate Monitor โดยการที่เราเอานิ้วไปแตะไว้สักพัก ก็สามารถวัดค่าได้
Samsung Galaxy S5 ถูกออกแบบมาให้สามารถทนน้ำทนฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP67 ซึ่งแน่นอนว่ามีจุกมาปิดเพิ่มบริเวณช่อง micro USB ด้านล่าง แน่นอนว่าเป็นการเพิ่มจุดขายมาท้าชนกับ Sony ตรงๆ ทีเน้นในด้านนี้มาตลอด
ส่วนความเร็วทางด้านรับส่งข้อมูล Samsung Gaalxy S5 รองรับ LTE cat4 และ WiFi MIMO (802.11ac) แต่ที่เป็นไฮไลท์จริงๆ คือระบบ Download Booster ที่เพิ่มความเร็วให้กับการใช้งานของคุณผ่านการเปิดใช้งานทั้ง 4G และ WiFi ร่วมกัน พูดง่ายๆ ว่าเล่นเน็ทผ่านทั้ง 2 ทางไปพร้อมกันเพื่อเพิ่มควมเร็วให้เต็มพิกัด
ระบบ Ultra Saving Mode เป็นระบบใหม่ที่ออกมาช่วยให้การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหลือเพียงแค่ 10% สุดท้ายและมันจะดับจพตายอยู่รอมร่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด สแตนบายด์ได้ถึง 24 ชั่วโมง โดยเมื่อ Samsung Galaxy S5 ก้าวเข้าสู่โหมดนี้ มันจะปรับหน้าจอเป็นขาวดำและปิดการใช้บริการแทบทุกอย่างของตัวเครื่อง ให้คงเหลือแต่บริการพื้นฐานเช่นโทรเข้าออกหรือรับส่งข้อความ พูดง่ายๆว่ากลายร่างจากสมาร์ทโฟนเป็นมือถือบ้านๆ เน้นการโทรเข้าโทรออก แต่ยืดอายุแบตไปให้นานที่สุดเพื่อไม่ให้คุณขาดการติดต่อนั่นเอง
Samsung ยังพัฒนา S Health ต่อยอดจาก S4 โดยใน Galaxy S5 นั้นเน้นเจาะไปในกลุ่มผู้ออกกำลังกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับอุปกรณ์ ANT+ เข้ามา หรือใส่ตัว Heart Rate Monitor ตัววัดอัตราการเต้นหัวใจ รวมถึงการเก็บข้อมูลและสถิติการออกกำลังกายประเภทต่างๆ ได้หลากหลายประเภทมากขึ้น รวมถึงการใช้อุปกรณ์เสริม Samsung Gear Fit
Samsung Galaxy S5 นั้นมีแผนจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ครับ โดยจะวางจำหน่ายในบางประเทศและบางทวีปก่อน ส่วนบ้านเราผมว่าน่าจะเป็นหนึ่งในหลายๆ ประเทศที่ได้วางจำหน่ายก่อน ส่วนเรื่องที่ยังเป็นปริศนาและไม่มีการพูดถึงคือตัว CPU ที่ตามสเปคทางการบอกแค่ว่าเป็น quad-core เท่านั้น ยังไม่มีการระบุยี่ห้อแต่อย่างใด
ออกแบบได้ผิดหวังมาก จะกล้ายเป็นโน็ตที่ไม่มีปากกาไปละ
ผิดหวังจังครับ ฝาหลังดูแปลกๆ ยังไงไม่รุ้อ่ะ – -*
ผมว่า งานออกแบบในคลิบ สวยมาก เรียบหรูขอบจอบาง
อาจเป็นเพราะมีฟีเจอร์กันน้ำ เลยดรอปเรื่องดีไซน์หลายๆ อย่างลง
ผมว่าสวยดีนะ เห็นแล้วคิดถึง S รุ่นแรก แล้วแต่คนชอบจริงๆ ที่น่าผิดหวังคือ CPU เดิมๆ กับตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้แต่ใส่มาเพิ่มต้นทุนเล่นๆ
Wearable device กำลังมาจริงๆ
ชอบจริงๆ ฝาหลังแบบเบาะ wave i – –
ตัว Heart Rate Monitor เห็นตอนแรกนึกกล้องอีกตัว
ในเฟซบุ๊ก dtac มาก่อนใครเลย พอดีว่า ไม่ได้ตามดู อยากทราบว่า ข้อมูลถูกต้องตามที่ dtac บอกหรือเปล่าครับ ?
ที่มา
Facebook@dtac
ถูกต้องครับ
ไม่น่าจะถูกนะครับ ตัว Ship "น่าจะ" เปลี่ยนไปใช้ Snapdragon 801 ที่ต่างกันเล็กน้อย
– CPU Clock 2.5GHz GPU 578MHz (ถ้า Snapdragon 800 CPU Clock 2.3GHz GPU 450 หรือ 550MHz)
สังเกตุจากข่าวหลาย ๆ แหล่งและที่มาของ anandtech ครับว่า Snapdragon 800 ไม่มี CPU Clock 2.5
– ISP 465MHz (ถ้า Snapdragon 800 เป็น 320 หรือ 465MHz)
– eMMC Interface 5.0 (ถ้า Snapdragon 800 eMMC Interface 4.5)
ที่มาของ shipset – http://www.anandtech.com/show/7783/qualcomms-snapdragon-801-msm8974ac-the-new-32bit-flagship-until-805
ตามนี้
เอ่อ นิดนึงครับ เสริม คำว่า ship ตัวนี้ออกเสียงว่า ฉิบครับ ถ้า ชิพเซ็ท ต้องใช้ Chip ครับ
คือไม่งั้นจะอ่านกันว่า ฉิบเซ็ท เดี๋ยวฝรั่งเข้ามาอ่านแบบนี้ก็ Shiphai เลยครับ 5555555
เห็นในเว็บ Gsmarena ใส่ว่าเป็น Snapdragon 805 นะครับ
http://www.gsmarena.com/samsung_galaxy_s5-6033.php
cpu น่าจะเป็น Snapdragon 801 นะครับ
ปุ่มซ้ายเป็น recentไปแล้วแฮะ
มันก็มีอะไรที่เหมือนเดิมและไม่เหมือนเดิม
แต่ความน่าสนใจ ไม่ได้เพิ่มขึ้นนะ
ทำไมรู้สึกว่า LG จะไปไวกว่า
นี่มัน Grand2 pro นี่หว่า
เมื่อไหร่ Samsung จะเอาลำโพงมาไว้ข้างล่างซะที ฟังเพลงทีไร ต้องคว่ำมือถือทุ้กกกที
์Note3 เหมือนจะเป็นรุ่นเดียว แต่ทำไม S5 มาทีหลังไม่เอาอย่างบ้างเนะ
พอคว่ำแล้วเพลงก็หยุดทุกที
@octopatr ตัววิดีโอลงผิดครับ อันนี้เป็นตัว concept
เอิ่ม มม ดีไซน์
ดูไปดูมาก็๋โอเคดีนะ ดูคมๆ แปลกตาดี…ของจริงน่าจะสวย
เหมือนโน๊ต3อะ ในรูปดูแปลกๆ แต่ของจริงสวยดี
LG G Pro 2 แรม 3 GB แต่ S5 แรม 2 GB ใช่ป่ะครับ แอนดรอย์ Kitkat ไม่ต้องใช้ แรมเยอะ ผมเข้าใจถูกป่ะครับ
ข้อสังเกตอีกข้อของ GALAXY S5 ก็คือ ปุ่ม Menu ถูกเปลี่ยนไปเป็นปุ่ม Recent App (อ้าว แล้วฟีเจอร์กดปุ่ม Home ค้างแล้วขึ้น Recent App มันจะกลายไปเป็นอะไรล่ะนั่น)
ผมเดาว่า s-voice เพราะของเดิมต้องใช้จิ้มรัวๆสองครั้งครับ
เหมือนเคยเห็นในคลิป Hand on ขึ้นเป็น Google Now นะครับ
ผมชอบตรง booster นะ
แต่มันจะเพิ่มภาระ data เกินไปป่าว
ทามมายเสปคดูต่ำกว่า Gpro 2 หรือ G3 อีกหว่า หรือผมเข้าใจผิด
เข้าใจไม่ผิดครับ "ที่บริษัทไม่เน้นสเปก แต่เน้นสุขภาพพพ" 555+
แล้ว วัสดุฝาหลัง ทำจากอะไรอ่ะครับ นั่งดูเมื่อคืน พูดถึงคำว่า Glam มันแปลว่าน่าทึ่ง แค่นั้นเอง แต่ไม่รู้ทำจากอะไร ใครพอทราบบ้างครับ
รอดู HTC ONE 2014
แต่ภาพที่หลุดมา ก็สวยล้ำกว่าซัมซุงเยอะมากมายก่ายกอง
จากสเปคที่หลุดออกมา htc สู้ได้เลยที่เดียว ไม่ว่าจะความละเอียดของจอ CPU เพิ่มเมมได้ วัสดุ ก็ต้องดูราคาว่าจะมาชนกันเลยมั้ย
คงไม่เหมือนhtc one ตัวก่อนที่สเปคด่อยกว่า S4 แต่ราคาเท่ากัน
วีดีโอเกี่ยวไรอะ มันไม่ตรงกับภาพเลยอ่า
แต่ในวีดีโอโผล่ชิปของ qualcomm
เห็นข้างหลังแล้วนึกถึง Galaxy S2 เลย….
เท็คโนโลยี่มันคงจะมาถึงจุดที่คิดกันไม่ค่อยออกแล้วมั้งครับ
awkward device สุดๆ
ชอบ Ultra Saving Mode ตัวเดียว -*-
ขอบเงิน จะหลุดง่ายอีกไหม
จอร์น ผู้บริหารระดับสูงของแซมซุง
ดูช่วงนาทีที่ 1:10:20 ครับ เขาบอกว่า
"but don't go to far. water resistant isn't water proof ,So don't keep it on the water."
"แต่อย่าทำเกินกว่านั้น ทนน้ำ ไม่ได้กันน้ำ เพราะงั้น อย่านำมันลงน้ำ"
http://youtu.be/DsMpV6YeS_o?t=1h10m20s
ตกลงยังไง? ครับเนี่ย
Edit เพิ่มเติม
S5 มาตรฐาน IP67
6- Totally protected against dust
[ป้องกันฝุ่น ได้ทุกอย่าง]
7- Protected against the effect of immersion between 15cm and 1m
[ป้องกันการแช่น้ำลึกได้ ระหว่าง 15ซม. – 1เมตร]
แต่ไม่บอกระยะเวลา คงต้องรอเครื่องจริงมาเทส
Z1 มาตรฐาน IP55/IP58
5- Protected against dust, limited ingress (no harmful deposit)
[ป้องกันฝุ่นเข้า แบบจำกัด]
8- Protected against long periods of immersion under pressure
[ป้องกันการแช่น้ำยาวนาน]
บอกว่ากันน้ำได้ 30นาที ลงน้ำลึก 1.5เมตร ของ Z2 ไม่ทราบ
———————-
IP ย่อมาจาก Ingress Protection
ุกับตัวเลขตัวแรกกับตัวสอง ต้องแยกกันดูครับ
First Number (เลขตัวแรก บ่งบอกคุณสมบัติกันวัตถุของแข็ง)
0- No protection (Sometimes X)
[ไม่ป้องกัน]
1- Protected against solid objects up to 50mm³
[ป้องกันของแข็งขนาด 50 มิล.]
2- Protected against solid objects up to 12mm³
[ป้องกันของแข็งขนาด 12 มิล.]
3- Protected against solid objects up to 2.5mm³
[ป้องกันของแข็งขนาด 2.5 มิล.]
4- Protected against solid objects up to 1mm³
[ป้องกันของแข็งขนาด 1 มิล.]
5- Protected against dust, limited ingress (no harmful deposit)
[ป้องกันฝุ่นเข้า แบบจำกัด]
6- Totally protected against dust
[ป้องกันฝุ่น ได้ทุกอย่าง]
Second Number (เลขตัวสอง บ่งบอกคุณสมบัติกันของเหลว)
0- No protection (Sometimes X)
[ไม่ป้องกัน]
1- Protection against vertically falling drops of water (e.g. condensation)
[ป้องกันน้ำหกใส่]
2- Protection against direct sprays of water up to 15 degrees from vertical
[ป้องกันน้ำฉีดใส่ 15องศา จากแนวตั้ง]
3- Protection against direct sprays of water up to 60 degrees from vertical
[ป้องกันน้ำฉีดใส่ 60องศา จากแนวตั้ง]
4- Protection against water sprayed from all directions – limited ingress permitted
[ป้องกันน้ำฉีดใส่ รอบทิศ]
5- Protected against low pressure jets of water from all directions – limited ingress permitted
[ป้องกันไอน้ำเข้า รอบทิศ]
6- Protected against low pressure jets of water, limited ingress permitted (e.g. ship deck)
[ป้องกันไอน้ำ]
7- Protected against the effect of immersion between 15cm and 1m
[ป้องกันการแช่น้ำลึกได้ ระหว่าง 15ซม. – 1เมตร]
8- Protected against long periods of immersion under pressure
[ป้องกันการแช่น้ำยาวนาน]
CC : http://aceeca.com/handhelds/ip67
——————————————————–
พูดถึงเรื่องความสามารถทนน้ำแล้ว ตอน S4 ไม่มีคุณสมบัติ water resistant แต่มันสามารถทนการแช่นำ้ได้ราวๆ 2นาทีเลย S5 คงได้นานกว่านี้
http://youtu.be/w1dFUBCXlQc?t=47s
Sony เป็น IP 58 กันฝุ่นระดับ 5 กันน้ำระดับ 8(สูงสุด)
Samsung IP 67 กันฝุ่นระดับ 6(สูงสุด) กันน้ำระดับ 7
ประมาณว่า Sony เน้นกันน้ำ Samsung เน้น กันฝุ่น
คนเกลียดซัมซุงอย่างเราพอเห็นตัวจริงกลับรู้สึกว่าอยากได้ขึ้นมาเฉยเลย แต่ละอย่างน่าจะเอาไปใช้ได้จริง พวกโหมดกล้องต่างๆ,กันน้ำ+ฝุ่น,ui+icon แบบใหม่ ดูแล้วไม่หน่วงๆเหมือนเดิม (แปลกใจว่ามีคนชอบอนุลักษณ์แบบเดิมด้วย) ต่างจาก S4 ฟีเจอร์โบกมือรับสาย,ใช้สายตาเลื่อนอ่านเว็บ พวกนี้รู้สึกโคตรไร้สาระ
รอ G3 ดีกว่า
S5 ดูๆทำมาสู้ G2 ยังไงไม่รู้ ยังไม่มีเครื่องจริงให้เล่นแต่กล้าเครมได้เลยว่า G2 แบตยังอึดกว่า S5 ชัว ^_^"
ทำออกมาสู้ G2! เอ่อ ทราบรึเปล่าครับ ว่า s4 ขายดีกว่า G2 แบบคนละเรื่องเลย
เริ่มจะไม่เหลือขอบไปทุกทีๆ จิงๆมานก้อนวัตกรรม อะนะ
แต่มือถือจอใหญ่ มันติด flim แล้วใส case มักจะกิน flim อยู่เรื่อย เซงจุงเบย ^^"
ซัมซุงมาไกลเกินที่จะคิดอะไรออกแล้วมั้งครับ รุ่นก่อนหน้านี้ก็ยัดๆๆๆๆ ให้มันดูเยอะๆจนล้นไปหมด มารุ่นนี้เลยโฟกัสไปที่เรื่องการใช้งานจริงๆ(?)และสุขภาพมากกว่า
ซัมซุงอยู่จุดพีคหรือเลยจุดพีคมาแล้ว จากนี้ซัมซุงคงอยู่ในช่วงภาวะคงตัวครับ แล้วคงตกลงไปแล้วล่ะ
ซีรี่ส์ S คงไม่น่าสนใจเท่า ซีรี่ส์ Note แล้วล่ะมั้งครับตอนนี้
ปล.ทำไมดู wallpaper+ui นี่มัน… ios7 ชัดๆ
ปล2.โน๊ต2ผมยังไม่พัง รอมโมยังพัฒนาคงไม่ซื้อรุ่นใหม่ 555
ผมเบนเข็มไปที่ LG แล้วครับตอนนี้ ส่วนเรื่องจด วาด เขียน ผมก็ให้ Galaxy Note อยู่ดี
Ultra Saving Mode
ชอบอันนี้
หน้าตาราคา 9990 บาทเหมาะมากครับ ดูไร้ราคาไม่น่าถือเอามากๆ
ข้อสงสัยเกิดอีกข้อแล้วสิ
ในเมื่อปุ่ม Recent App มาแทนปุ่ม Menu
แล้วฟังก์ชั่นกดค้างจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร
ขอเดิม
ปุ่ม Menu กดค้าง จะกลายเป็น Google Search
ปุ่ม Home กดค้าง จะกลายเป็น Recent App
ขอใหม่ ???
ปุ่ม Recent App (มาแทนปุ่ม Menu) กดค้าง จะกลายเป็นปุ่ม Menu แทน ???
ปุ่ม Home กดค้าง จะกลายเป็น ???
TouchWiz UI เอกลักษณ์อย่างหนึ่ง คือ เวลาปัดหน้า Home Screen จะมี Transition Effect เป็นแบบ Glass Flip …แต่ตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว โดยถูกเป็นแบบ Glass Stack (คือมี Effect Glass อยู่ แต่เปลี่ยนรูปแบบการเปลี่ยนหน้า หรือ Transition Effect เป็นแบบเดียวกับหน้า App Drawer ของ Google nexus) ไปซะแล้ว แถมลูกเล่นอย่าง Wallpaper Move ตามการหัดหน้าก็ยังคงนิ่ง ซึ่งตรงนี้ผมไม่ชอบเลย มันทำให้ขาดความเป็นมิติลงไป การที่ปัดหน้าแล้ว Wallpaper เคลื่อนตาม มันจะทำให้ดูมีมิติมาก
ปกติ ผมจะชอบ Effect แบบ Glass Flip ของ TouchWiz เดิม แต่ต่อไปนี้ Effect แบบ Flip นั้นได้หายไปแล้ว ทำให้ความชอบในตัว TouchWiz ลดลงไปอีกขั้น ต่อไปคงได้เตรียมหา Launcher อื่นมาลงแทนแล้วล่ะ (ยกเว้นแต่ว่า TouchWiz มันจะเปลี่ยน Transition Effect ได้)
ตอกย้ำคำพูดที่ว่า "Flag Ship ของซัมซุงคือ Note series"