หนึ่งในเครื่องเกมคอนโซลอย่าง Mega Drive หรือ Genesis จากค่าย Sega ที่ฮิตระเบิดระเบ้อเมื่อช่วงยุค 90 ล่าสุดทาง Sega ก็ขอปลุกผีอีกรอบด้วยการเปิดตัว Mega Drive Mini 2 เครื่องเกมเวอร์ชั่นจิ๋ว ที่อัดเกมดัง ๆ ในอดีตไว้ในตัวถึง 50 เกม แถมแถมใครที่อยากระลึกความหลังแบบเต็ม ๆ ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นตลับเกม + Sega CD มาให้ซื้อไปต่อแยกแบบเท่ ๆ ได้ด้วย

เครื่องเกม Mega Drive หรือ Genesis (ชื่อในอเมริกา) เป็นคอนโซลระดับ 16-bit ที่ได้รับความนิยมสูงเรีกว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Super Famicom ของฝั่ง Nintendo ในช่วงยุค 90 เลย โดยมีเกมดัง ๆ ซีรีส์ Sonic the Hedgehog, Golden Axe, Street of Rage ฯลฯ ที่ยังคงมีการสานต่อเกมซีรีส์พวกนี้อยู่เรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน

Mega Drive รุ่นคลาสสิก

สำหรับเครื่องเกม Mega Drive Mini รุ่นแรกเปิดตัวไปเมื่อปี 2018 มาในดีไซน์ Mega Drive โมเดลแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 1990 (ตอนเด็ก ๆ ผมเคยมีแต่รุ่นนี้แหละ) ส่วน Mega Drive Mini 2 ที่พึ่งเปิดตัวไปมาในดีไซน์ของ Mega Drive โมเดลที่ 2 ซึ่งมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมเยอะเลย

Mega Drive Mini 2 / Mega Drive Mini

Mega Drive Mini 2 ได้อัดเกมดัง ๆ ไว้เพียบถึง 50 โดยรวมเอาไว้ทั้งเกมจาก Mega Drive และเกมจาก Sega CD ซึ่งเป็นเกมจากระบบ CD-ROM ที่สมัยนั้นเรียกว่าล้ำเลยล่ะ เพราะมันสามารถแสดงผลแบบ 3D แท้ ๆ ได้ (สมัยนั้นกรี๊ดสุด ๆ แล้ว แต่ไม่มีปัญญาซื้อเพราะแพงมาก T-T)

เกมใน Mega Drive Mini 2 ที่ตอนนี้ยืนยันแล้วว่าจะมาแน่ ๆ ก็จะมีทั้ง…

  1. Bonanza Bros.
  2. Fantasy Zone
  3. Magical Tarurūto-kun
  4. Mansion of Hidden Souls
  5. Popful Mail
  6. Shining Force CD
  7. Shining in the Darkness
  8. Silpheed
  9. Sonic CD
  10. Thunder Force IV
  11. Virtua Racing
  12. **เกมที่เหลือต้องรออัปเดตกันอีกทีว่าจะมีอะไรมาอีกบ้าง**

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นตลับเกม + ตัวเครื่อง Sega CD ให้มาติดกับเครื่อง Mega Drive Mini 2 ได้อีกด้วยนะ…แต่ใช้จริงไม่ได้นะครับ เพราะเกมทั้งหมดถูกยัดไว้ในความจำเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ตลับหรือแผ่นจริง

Mega Drive Mini 2 จะเริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 27 ตุลาคมนี้ มีราคาอยู่ที่ 9,980 เยน หรือประมาณ 2,650 บาท ส่วนอุปกรณ์ตกแต่ง Sega CD มีราคาอยู่ที่ 4,500 เยน หรือประมาณ 1,190 บาท และจะมีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลของวันที่และราคาออกมาครับ…ใครคิดถึงวันวานเก่า ๆ ที่ได้นั่งเล่นเกมกับเพื่อนหน้าจอทีวีแบบนี้ ก็เตรียมเสียตังค์กันเลยจ้า

 

ที่มา : Famitsu (ญี่ปุ่น)