นอกเหนือจาก AQUOS R9 Pro ที่เป็นเรือธงแล้ว สัปดาห์นี้ SHARP ยังเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อีกรุ่นมาคู่กันคือ AQUOS sense9 รุ่นมาตรฐานของซีรีส์ ชูจุดเด่นด้านความกะทัดรัด ด้วยขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว น้ำหนัก 166 กรัม พกพาสะดวก จับถือถนัดมือ มีสีให้เลือกมากถึง 6 สี สามารถจับคู่มิกซ์แอนด์แมตช์กับเคส (ที่มี 6 สีเท่ากัน) ได้ไม่ซ้ำกว่า 36 แบบ
AQUOS sense9 มากับหน้าจอ Pro IGZO OLED แบบเดียวกับเรือธง ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรชสูงสุด 240Hz ความสว่างทั่วไปสูงสุด 1500 นิต สว่างขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 4 เท่า (เทียบกับ AQUOS sense8 ที่สว่าง 400 นิต) พร้อมปรับมาใช้ดีไซน์กล้องหน้าแบบเจาะรู และมีขอบหน้าจอที่บางลงจน (เกือบ) สมมาตรกันทั้ง 4 ด้านแล้ว
ตัวเครื่อง AQUOS sense9 ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความแข็งแกร่งเป็นสำคัญ โดยผ่านมาตรฐานความทนทานทั้ง IP65 / IP68 และ MIL-STD-810G ที่ออกโดยกองทัพสหรัฐฯ มีคุณสมบัติทนน้ำ ทนฝุ่น ทนกระแทก ทนการสั่นสะเทือน ทนอุณหภูมิร้อน-เย็น สารพัดจะทน
ภายใน AQUOS sense9 เลือกใช้ชิปเซต Snapdragon 7s Gen 2 จับคู่กับแรมสูงสุด 8GB และสตอเรจสูงสุด 256GB รองรับ microSD สูงสุด 1TB มีแบต 5000mAh ตามความจุมาตรฐาน ไม่ได้ลดหลั่นไปตามขนาดตัว พร้อมรองรับชาร์จไว 36W
สเปค AQUOS sense9
- จอภาพ Pro IGZO OLED ขนาด 6.1 นิ้ว
- ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล
- อัตรารีเฟรช 1 ~ 240Hz
- ความสว่างทั่วไป 1500 นิต
- ความสว่างสูงสุด 2000 นิต
- ชิปเซต Snapdragon 7s Gen 2
- หน่วยความจำ 6 / 8GB (LPDDR4x)
- สตอเรจ 128 / 256GB (UFS 2.2)
- รองรับ microSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง
- กล้องหลัก 50.3MP (𝑓/1.9), ขนาด 1/1.55 นิ้ว, ระยะ 23 มม., กันสั่น OIS
- กล้องอัลตราไวด์ 50.3MP (𝑓/2.2), ขนาด 1/2.5 นิ้ว, ระยะ 13 มม.
- กล้องหน้า 32MP (𝑓/2.2), ระยะ 25 มม.
- ลำโพงสเตอรีโอ
- เครือข่าย 5G
- รองรับ nano-SIM + eSIM
- การเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 5
- Bluetooth 5.1
- USB Type-C 3.2 Gen 1
- รองรับ DisplayPort 1.4
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- ชาร์จไว 36W
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
- ความทนทาน IP65 / IP68 / MIL-STD-810G
- ระบบปฏิบัติการ Android 14
- อัปเดตระบบปฏิบัติการ 3 รุ่น
- อัปเดตความปลอดภัย 5 ปี
- ขนาด 149 x 73 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก 166 กรัม
ราคาและการจำหน่าย
SHARP จะเริ่มวางขาย AQUOS sense9 ในญี่ปุ่นวันที่ 7 พฤศจิกายน ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายหลายค่ายในประเทศ และมีรุ่นซิมฟรีที่จะวางจำหน่ายเพิ่มเติมในอีก 3 ประเทศ คือ ไต้หวัน อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ คาดว่าจะเปิดราคาเริ่มต้นไม่ถึง 60,000 เยน หรือต่ำกว่า 13,200 บาท ใกล้เคียงกับรุ่นก่อน
ที่มา : SHARP
Comment