หลังจากได้รับเชิญไปงานเปิดตัวของ Smart G-BOOK แอพพลิเคชั่นนำทาง หรือที่เราคุ้นปากกันว่า นาวิเกเตอร์ (Navigator) เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเลยมาขอแชร์ประสบการณ์ในการทดลองใช้เจ้า Smart G-BOOK มาได้ 1 สัปดาห์เต็มๆ บนระบบ Android ว่าลองแล้วเป็นอย่างไร ประทับใจ ไม่ประทับใจตรงไหน สำหรับใครที่กำลังมองหาโปรแกรมนำทางอยู่ ก็ลองเข้ามาอ่านดูได้นะครับ ^ ^
แรกเริ่มเลยเราก็ต้อง download แอพ Smart G-BOOK TH Lite จาก Google Play ก่อน ซึ่งตรงนี้จะเป็นลูกค้า toyota หรือไม่ก็สามารถใช้งานได้เช่นกันครับ ขนาดโปรแกรมก็ไม่ใหญ่มาก ประมาณ 5 MB ครับ แต่พอติดตั้งเสร็จแล้ว ก็เจอปัญหาด่านแรกเลยคือ.. มันไม่มีปุ่มทดลองใช้ 30 วันแบบของ iOS ครับ > < แต่โชคดีที่ผมได้รหัสทดลองใช้จากในงาน meeting ก็เลยสามารถผ่านด่านแรกนี้เข้าไปลงทะเบียนใช้งานได้ (ได้รับข้อมูลมาว่า ตอนนี้ระบบทดลองใช้มีให้เฉพาะใน iOS เท่านั้น)
ลงทะเบียนได้รหัสทุกสิ่งอย่างแล้ว ก็สามารถมาถึงหน้าจอเมนูหลักกันได้เสียที ผมก็จัดการแตะไปที่ปุ่มนำทาง ปรากฏว่าต้อง download แผนที่ หรือ map อีกประมาณ 350 MB . . ก็จัดการโหลดซะให้เสร็จ รอกันนิดนึง
ผ่านไปไม่กี่สิบนาที เราก็ได้แผนที่และระบบนำทางเรียบร้อย แต่เปิดเข้ามาดู โอ๊ะ โอว ในนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลย แปลว่าโปรแกรมมันรองรับภาษาอังกฤษด้วยนั่นเอง ส่วนภาษาไทยนั้นไม่ต้องค้นหาวิธีเปลี่ยนในตัวโปรแกรมนะครับ มันไม่มี เพราะ Smart G-BOOK จะแสดงผลตามภาษาของเครื่อง วิธีการจะใช้เมนูและแผนที่ภาษาไทย เราต้องไปเปลี่ยนภาษาเครื่องเสียก่อน ตามมา ตามมา
จากหน้าจอ android เข้าไปที่ setting > มองหา language and input > เลือกเปลี่ยนเป็นภาษาไทยซะ
อ้อ แล้วก็อย่าลืมไปเปิด GPS และการแจ้งตำแหน่งทั้งหมดทั้งมวลก่อนด้วยนะครับ เดี๋ยวจะนำทางไม่แม่น
กลับเข้ามาดูที่ Smart G-BOOK อีกครั้ง แถ่น แท้น! ได้ทั้งแผนที่ไทยและเมนูไทยเรียบร้อยโรงเรียน android
Navigator
ได้เวลานำทางกันแล้ว แน่นอนว่าในส่วนของการใช้งานเพื่อหาตำแหน่งหรือจุดสนใจ POI (Point Of Interest) ก็สามารถหาได้ตามถนน จังหวัด รหัสไปรษณีย์ หรือจะลองหาตามประเภทของสถานที่เช่น ร้านค้า ปั้มน้ำมัน ธนาคาร หรือร้านอาหารและประเภทต่างๆ อีกเพียบ
เมื่อค้นหาเจอที่ที่เราอยากไปแล้ว ก็จัดการให้ Smart G-BOOK ช่วยนำทางซะเลย นอกจากจะมีเส้นทางแนะนำแล้ว เราสามารถเลือกรูปแบบการเดินทางได้อีก เช่น เลี่ยงทางด่วน, ใช้ทางหลัก, ทางที่สั้นและใกล้ที่สุด หรือจะเลือกเส้นทางอื่นไปเลยก็ได้ จากภาพจะเห็นว่าผมได้ทดลองเลือกไปร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ขอนแก่น มันก็จัดการคำนวนระยะทางและเวลาให้เรียบร้อย ออกจากบ้านตอน 6 โมงเย็น ไปถึงขอนแก่นโน่น ตี 1 พอดีร้านปิด
การตั้งค่าต่างๆ ของระบบนำทางอยู่ที่ปุ่ม MENU ครับ โดยเราสามารถตั้งค่าระดับเสียง การค้นหาเส้นทาง ปรับขนาดไอคอน หน้าตาและตัวอักษรและส่วนอื่นๆ
ส่วนสถานที่ที่เราไปบ่อยๆ ก็สามารถนำมาจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ของ POI ที่เราชอบได้ ส่วนท่านที่สนใจว่าแผนที่ของทาง Smart G-BOOK นั้นใช้ของที่ไหนอยู่ก็เชิญดูได้จากภาพครับ เป็นแบบเดียวกับ TomTom นะเอง
และจากการที่ได้ทดลองค้าหาสถานที่ต่างๆ อยู่สักพัก ก็พบว่า POI บน Smart G-BOOK ยังไม่เยอะเท่าไหร่นัก แต่ก็มีส่วนมาทดแทนนั่นคือบริการ Call Center
Operator Service (Call Center)
อันนี้ถือเป็นจุดขายของ Smart G-BOOK เลยครับ เพราะเป็นบริการแบบ 24 ชั่วโมง ในกรณีที่เราอยากจะเดินทางไปไหน หาไม่เจอ ไม่รู้จัก ขี้เกียจพิมพ์ ก็จัดการกดปุ่ม แล้วโทรหา call center ได้ทันที (เสียค่าโทรตามโปรมือถือนะครับ) โดยเมื่อโทรไปแล้ว เราก็บอกไปเลยว่าอยากจะไปที่ไหนอย่างไร
Inbox
รอสักพักทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการจัดส่งจุดหมายปลายทางมาให้เราทันที เราก็แค่กดตกลง แล้ว Smat G-BOOK ก็พร้อมจะนำทางให้เราไปถึงที่หมายแล้วจ้า โดยเส้นทางที่เราได้รับจาก call center จะถูกจัดเก็บไว้ใน Inbox ให้เราเรียกดูได้ทุกเมื่อ แต่ inbox สามารถรับจุดหมายปลายทางได้เพียง 5 จุดเท่านั้น ถ้าอยากเก็บจุดหมายที่ชื่นชอบต้องย้ายไปเก็บที่ G-Memory
Spot Search & G-Memory
สำหรับ Spot Search คือการค้นหาสถานที่ต่างๆ เพิ่ม ซึ่งแอบงงนิดหน่อยเพราะมีการไปเรียกใช้แผนที่ Online จาก iTIC ซึ่งมีการแสดงสภาพการจราจรด้วย ทำให้ขณะใช้งานต้องต่อ internet และการค้นหาตำแหน่งก็ใช้ POI ของแผนที่ Longdo แทน ส่วนที่ดีคือถ้าหากทาง Longdo มีการอัพเดท POI ใหม่ๆ เราก็สามารถค้นหาได้เจอทันที ไม่ต้องรอแผนที่ off-line จากทาง Smart G-BOOK อัพเดท และเมื่อเราหาสถานที่เจอแล้ว ก็สามารถนำไปเก็บไว้ใน G-Memory เพื่อใช้นำทางได้ทันที
ส่วนของ My Route นั้นเป็นการกำหนดเส้นทางที่ต้องการไปผ่านเว็บไซค์ e-toyotaclub.com ในเมนูที่ชื่อว่า Trip Planner แล้วเราจะสามารถชิงค์เส้นทางดังกล่าวผ่าน smart G-BOOK เพื่อใช้นำทางได้ ซึ่งสามารถกำหนดได้สูงสุด 5 จุดหมายปลายทาง ภายใน 1 ทริปครับ
Traffic Information
จุดเด่นอีกอย่างของ Smart G-BOOK คือการร่วมมือกับทาง iTIC พร้อมรายงานผลสภาพการจราจรได้ทุกเวลา จากระบบจราจรอัจฉริยะ โดยเส้นทางที่รถติดก็จะเห็นเป็นสีแดงๆ ซึ่งข้อมูลการจรารจรนั้นจะถูกเอามาคำนวนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงจุดที่รถติดได้อีกด้วย และยังสามารถกดไปที่กล้องตามจุดต่างๆ เพื่อดูภาพนิ่งที่กล้องจับเอาไว้ล่าสุด
G-Road & G-Life
นี่เป็นบริการให้ความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินจาก Smart G-BOOK ครับ โดยบริการ G-Road คือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เวลาที่รถเราไปเสียตามจุดต่างๆ จะน้ำมันหมด หรือเครื่องพังอะไรก็ตาม (แต่มีค่าบริการนะครับ ^ ^) เมื่อกดแล้วเราก็จะคุยกับ call center แจ้งจุดที่รถมีปัญหา จากนั้นก็รอเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินมาช่วยครับ ส่วน G-Life เป็นการช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ เกิดเหตุฉุกเฉิน เจ็บท้องคลอด เป็นเบาหวาน โรคหัวใจ หรืออาการอะไรก็ตามบนท้องถนน สามารถกดปุ่มนี้และแจ้งสถานที่เกิดเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทันทีเช่นกัน อันนี้ฟรีนะครับ เพราะเป็นความช่วยเหลือจากทาง สพฉ. หรือ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
Tool Box , Information & Setting อันนี้เป็นข้อมูลคำถามทั่วไป, การแจ้งข่าวคราวของ Smart G-BOOK และส่วนที่แสดงเวอร์ชั่นและรายละเอียดของผู้ใช้งานครับ
จากที่ได้ลองกดเล่นๆ อยู่ 3-4 วันและลองให้มันนำทางจริงจัง 2-3 ครั้งก็พบว่าสามารถใช้งานได้จริง และทำงานได้ค่อนข้างเร็วครับ สำหรับการใช้งานแรกๆ ก็ต้องหัดเล่นอยู่สักพักกว่าจะชิน พอชินแล้วก็ใช้งานได้คล่องทีเดียว ลองมาดูข้อดีข้อเสียของ Smart G-BOOK ที่ผมพอจะนับได้กันครับ ว่ามีอะไรบ้างขอเริ่มจากข้อเสียก่อนละกันนะครับ ^ ^
ข้อเสีย
- POI น้อยไปหน่อย ตอนนำทางพูดน้อยไปนิด
- การมีแผนที่ 2 ชุด และ POI จาก 2 ที่ อาจจะทำให้งงๆ และสับสนได้
- ไม่สามารถเปลี่ยนภาษาในโปรแกรมได้ ต้องไปเปลี่ยนจากตัวมือถือ
- เมื่อเปิดโปรแกรมไม่มีการเช็คว่า GPS เราปิดหรือเปิดอยู่
- เมื่อเราใช้รหัสลงทะเบียนบนมือถือแล้ว ไม่สามารถย้ายเครื่องได้
ข้อดี
- ระบบ Operator Service 24 ชั่วโมง อยากไปไหนแค่โทรถาม ใช้งานได้ดี ง่ายและสะดวกมากๆ
- สามารถดูสภาพจราจรได้ทันที ด้วยข้อมูลจาก iTIC
- การคำนวนเส้นทางหลีกเลี่ยงจุดที่รถติด
- ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน (อันนี้คิดว่าเป็นข้อดีนะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้จริง ^^)
เดี่ยวก็เจอสั่งเลี้ยวลงจากทางด่วนหรอกครับ ระวังนะ aahahahahaaha
ตัวนำทางจริงๆ ผมว่าน่าจะยังสู้พวก Speednavi , garmin , Sygic ใช่ไหมครับ
แต่พวกที่ แสดงเส้นทางรถติดหนาแน่น คำนวณ ทางเลี่ยงรถติด ดูกล้องได้ มีบริการ call center และช่วยเหลือต่างๆ
ถ้าตัวโปรแกรม นำทางทำได้ดี เหมือน 3 ตัวข้างบนที่กล่าวมาแล้ว ผมว่าตัวนี้จะน่าใช้มากเลย แต่อาจต้องใช้เวลาซักนิด
ถูกใจที่โทรถามเลย 555+ ตรงนี้อาจดีกว่าโปรแกรมอื่นๆ
ไม่รู้ดีรึป่าวเพราะไม่ได้ลอง ไม่มีรหัส แต่ นั้นมัน OPPO FINDER ใช่ไหมคับ
ก่อนหน้านี้ก็มีแจก license ให้ใช้ฟรีนะครับ ที่เวบ toyotaclub จะได้ใช้ฟรี 1ปี
หรือซื้อรถใหม่ช่วงนี้ถามเซลล์เลยครับ คิดว่าน่าจะได้ licenseที่ดีกว่า
โหลด beta ได้จาก playstore แล้วใส่ license key ได้เลยครับ
ราคาเท่าไหร่คับ
คุณพัดใช้ Finder ทดสอบโปรแกรมซะด้วย ^^
ผมลง app นี้ไว้ที่ HTC Desire HD แต่ย้ายมาที่เครื่อง Finder ไม่ได้ เดี๋ยวลองถอนออกดูก่อน แล้วมาใส่ Code ลงทะเบียนใช้งานอีกที ที่เครื่อง Finder ได้หรือเปล่าไม่แน่ใจ..555
ผมเคยลง app กับ HTC เก่าซึ่งเป็น ver 2.3.5 ต่อพอ up เป็น ICS แล้วมันใช้ไม่ได้ครับ โทรไปหา Toyota ก็บอกว่ายังไม่ support ICS
แต่ใช้บน JB ได้นะครับเนี่ยเปิดโปรแกรมอยู่เลย
ผมลองบน OPPO Finder ก็เป็น ICS นะครับ ใช้ได้เหมือนกัน