ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนที่เคยเลือกตัดช่อง microSD Card ออกไป อาจกำลังพิจารณานำวิธีเพิ่มความจุตัวเครื่องที่ใช้ต้นทุนไม่สูงกลับมาใหม่อีกครั้ง หลังเจอปัญหาหน่วยความจำ DRAM มีราคาแพงขึ้นแบบยืดเยื้อ และไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดแพงขึ้นเลย
หากจำกันได้แต่ก่อนสมาร์ตโฟนหลาย ๆ รุ่น ซึ่งรวมไปถึงรุ่นเรือธง มักจะมาพร้อมกับช่องใส่ microSD Card ให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความจุได้ด้วยตนเองในราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่กลับกลายเป็นว่าในช่วงหลัง ๆ มานี้ผู้ผลิตหลายราย ก็เริ่มที่จะตัดช่องใส่ microSD Card ออกไปกันแล้ว

เหตุผลที่จะนำช่อง microSD Card กลับมาเป็นเพราะอะไร
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในเรื่องของความทนทาน (ป้องกันไม่ให้มีช่องหรือจุดที่น้ำจะเข้าไปได้) หรืออะไรก็ตาม แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ “ผู้ใช้ต้องยอมควักเงินจ่ายเยอะกว่าเดิมเพื่อให้ได้ความจุเยอะ ๆ” เพราะราคาของ microSD Card ถูกกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน
ข้อมูลล่าสุดจากผู้ใช้งาน Weibo ซึ่งมีนามว่า Repeater 002 ให้ข้อมูลว่า ณ ปัจจุบันผู้ผลิตสมาร์ตโฟนหลาย ๆ รายในประเทศจีน กำลังเจอกับวิกฤตขาดแคลนชิปหน่วยความจำ DRAM จนทำให้ราคาต่อหน่วยพุ่งสูงขึ้นแบบน่าขนลุก และอาจจะลากยาวไปจนถึงช่วงปลายปี 2027

ตัวอย่างเช่น LPDDR5X ขนาด 12GB ของ Samsung จากที่ปกติราคาต่อหน่วยจะอยู่ที่ 33 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ปัจจุบันราคาพุ่งไปมากถึง 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว
ดังนั้นเมื่อส่อแววว่า “ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้น” ผู้ผลิตเลยจำเป็นจะต้องเลือกหรือกำหนดแนวทางว่า จะขึ้นราคาสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ต่อจากนี้ให้อิงตามต้นทุนที่สูงขึ้นไปด้วย หรือจะไปเน้นขายสมาร์ตโฟนในความจุเริ่มต้น แล้วผลักให้ลูกค้าไปซื้อ microSD Card มาใส่เพิ่มแทน
จะได้เห็นช่อง microSD Card กลับมาเมื่อไหร่

เบื้องต้นสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว คาดการณ์ว่าอย่างน้อยเราอาจจะยังไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเร็ว ๆ นี้ เช่น Samsung Galaxy S26 Series เพราะผ่านขั้นตอนการออกแบบและการผลิตมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเป็นไปได้มากที่สุดก็คือต้องรอดูช่วงครึ่งหลังของปี 2026 ครับ
เพราะในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงที่สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งอยู่ในกระบวนการการออกแบบหรือการผลิตในช่วงนี้ที่ DRAM มีราคาที่พุ่งสูงขึ้นอยู่พอดี
ที่มา : WCCFTECH

Comment