Snapdragon 8 Gen 2 เปิดตัวมาสักพักจนเราได้เห็นมือถือที่ใช้ชิปรุ่นนี้กันบ้างแล้ว และคงจะเป็นมาตรฐานชิปเรือธงสำหรับปี 2023 ไปยาว ๆ ดังนั้น จึงน่าสนใจว่าชิปตัวนี้มีประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร ใช้งานทั่วไป เล่นเกม เครื่องร้อนหรือกินแบตขนาดไหน และก็มีคะแนนทดสอบเปรียบเทียบกับชิปรุ่นที่แล้วอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 และ Snapdragon 8 Gen 1 ด้วย
ข้อมูลทดสอบชิปคราวนี้มาจาก Androidcentral ใช้มือถือ iQOO 11 ทดสอบชิป Snapdragon 8 Gen 2, มือถือ ASUS Zenfone 9 ทดสอบ 8+ Gen 1, และสุดท้ายมือถือ Samsung Galaxy S22 Ultra ทดสอบ 8 Gen 1
เปรียบเทียบสเปค Snapdragon 8 Gen 2 กับ 8+ Gen 1 และ 8 Gen 1
สเปค | Snapdragon 8 Gen 2 | Snapdragon 8+ Gen 1 | Snapdragon 8 Gen 1 |
ซีพียู | 1 x 3.2GHz Cortex X3, 2 x 2.8GHz Cortex A715, 2 x 2.8GHz Cortex A710, 3 x 2.0GHz Cortex A510 | 1 x 3.19GHz Cortex X2, 3 x 2.75GHz Cortex A710, 4 x 1.8GHz Cortex A510 | 1 x 3.0GHz Cortex X2, 3 x 2.5GHz Cortex A710, 4 x 1.8GHz Cortex A510 |
จีพียู | Adreno 740 | Adreno 730 | Adreno 730 |
จอแสดงผล | 4K at 60Hz, QHD+ at 144Hz | 4K at 60Hz, QHD+ at 144Hz | 4K at 60Hz, QHD+ at 144Hz |
หน่วยความจำ RAM | LPDDR5X | LPDDR5 | LPDDR5 |
โมเด็ม และการเชื่อมต่อ | Snapdragon X70 5G modem, up to 10Gbit downlink, FastConnect 7800 with Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 | Snapdragon X65 5G modem, up to 10Gbit downlink, FastConnect 6900 with Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.2 | Snapdragon X65 5G modem, up to 10Gbit downlink, FastConnect 6900 with Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.2 |
ถ่ายภาพ | 200MP single shot, 108MP zero shutter lag, 64MP + 36MP zero shutter lag, 10-bit HEIF | 200MP single shot, 108MP zero shutter lag, 64MP + 36MP zero shutter lag, 10-bit HEIF | 200MP single shot, 108MP zero shutter lag, 64MP + 36MP zero shutter lag, 10-bit HEIF |
ถ่ายวิดีโอ | 8K HDR video at 30fps, 4K at 120fps, 720p at 960fps | 8K HDR video at 30fps, 4K at 120fps, 720p at 960fps | 8K HDR video at 30fps, 4K at 120fps, 720p at 960fps |
Decode | AV1, H.265, VP9 | H.265, VP9 | H.265, VP9 |
สถาปัตยกรรม | TSMC 4nm | TSMC 4nm | Samsung 4nm |
จะเห็นได้ว่า Snapdragon 8 Gen 2 ใช้โครงสร้างแกนเป็นแบบ 1 + 4 + 3 เน้นมาเพิ่มแกนประสิทธิภาพมากขึ้น (จากเดิมที่ใช้โครงสร้าง 1 + 3 + 4) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลชนิด Multi-core ขึ้นมา
ตัว GPU ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นรุ่น Adreno 740 ที่รองรับการประมวลเงาแสงตกกระทบวัตถุ Ray Tracing แปลว่าจะมีโอกาสได้เห็นเกมที่ใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ตัวชิปยังมีโมเด็มที่รองรับ Wi-Fi 7 เผื่อสำหรับอนาคต ใช้งานไปได้ยาว ๆ
เปรียบเทียบคะแนน Snapdragon 8 Gen 2 กับ 8+ Gen 1 และ 8 Gen 1
การทดสอบ | Snapdragon 8 Gen 2 | Snapdragon 8+ Gen 1 | Snapdragon 8 Gen 1 |
CrossMark (Overall) | 1074 | 1008 | 999 |
Productivity | 968 | 967 | 980 |
Creativity | 1148 | 1042 | 990 |
Responsiveness | 1202 | 1036 | 1087 |
Geekbench 5.1 (single-core) | 1474 | 1311 | 1005 |
Geekbench 5.1 (multi-core) | 4760 | 4286 | 3152 |
3DMark Wild Life Extreme (score) | 2838 | 2801 | 2098 |
3DMark Wild Life Extreme (FPS) | 17 | 16.75 | 12.55 |
จะเห็นได้ว่าพอปรับแกนข้างในแล้ว Snapdragon 8 Gen 2 มีคะแนน multi-core สูงขึ้นมาใช้ได้ ส่วนคะแนน Single-core ที่ใช้แกน Cortex X3 ก็ทำได้ดีสูงขึ้นมากว่า Cortex X2
ร้อนน้อย เหมาะเล่นเกมยาว ๆ
ตัวชูโรงการประมวลภาพกราฟิก Adreno 740 ใน Snapdragon 8 Gen 2 ทำได้ดี จับทดสอบแล้วเครื่องร้อนน้อยลงมาก ๆ ทำให้ได้คะแนนไปสูงกว่า Snapdragon 8 Gen 1 ที่มักมีปัญหาเครื่องร้อนจัดจนกระตุก ในขณะเดียวกัน รุ่น 8+ Gen 1 คะแนนยังดีใกล้เคียง Gen 2 เพราะจัดการปัญหาเครื่องร้อนได้เช่นกัน
แต่คะแนนสูงก็ใช่ว่าจะเห็นผลในการใช้งานจริง ทางผู้ทดสอบเค้าบอกว่า ทั้งการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม ไม่ได้เห็นว่าความเร็วจะต่างกันมากขนาดนั้น เพราะชิปในปัจจุบันนั้นมีความแรงมาก ๆ เกินการใช้งานอยู่แล้ว จะต่างกันก็เรื่องความร้อนนี่แหละ
แบตอึดมาก
จุดเด่นอีกด้าน คือเรื่องการประหยัดพลังงาน ที่เค้าบอกว่ารุ่น iQOO 11 ใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่นเดิมอย่าง iQOO 9 Pro อย่างมาก และมือถือรุ่นอื่นที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ก็จะอึดกว่ารุ่นเก่า ๆ อีกเหมือนกัน ดังนั้นใครสนใจมือถือรุ่นใหม่ และใส่ใจเรื่องอายุแบต เลือกซื้อรุ่นที่ใช้ SD 8 Gen 2 รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ
สำหรับชิปรุ่นอื่น ๆ จาก Qualcomm สามารถอ่านข้อมูลสรุปได้ที่นี่
ที่มา : androidcentral
Comment