เพื่อนๆคงจะคุ้นชินกับโหมด HDR ในการถ่ายภาพกันไปบ้างแล้ว ซึ่งโหมดนี้ถูกนำเอาไปใช้ในการถ่ายภาพที่มีความต่างของแสงสูง เช่น ภาพถ่ายย้อนแสงนั่นเอง แต่ว่าบางคนน่าจะยังไม่เคยได้คุ้นชินชื่อนี้ในจอโทรทัศน์ ซึ่งตอนนี้ทาง Sony ได้นำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ใน BRAVIA รุ่นใหม่ สามารถแสดงผลภาพเป็นแบบ HDR พร้อมความละเอียดจอระดับ 4K เลยครับ
สำหรับคนที่ติดตามข่าว Sony BRAVIA น่าจะเคยได้ยินข่าวนี้กันตั้งแต่เมื่องาน CES เดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่อาจจะไม่มีการพูดถึงเท่าไหร่นัก พอดีได้ไปงานเปิดตัว และเห็นว่ามันเป็น Android TV เลยขอเอามาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกันถึงเจ้า BRAVIA series ใหม่นี้
อย่างแรกเลยก็ตามชื่อ Theme ในปีนี้เลยครับ HDR4K – โทรทัศน์ที่แสดงภาพเป็น 4K ในโหมด HDR ให้ได้แสงสีที่แจ่ม สมจริงขึ้นกว่าเดิม มาลองดูภาพตัวอย่างเปรียบเทียบกัน
จากภาพก็จะเห็นได้ว่าภาพที่แสดงผลเป็น HDR จะมีสีที่ค่อนข้างสดและได้รายละเอียดเยอะกว่าค่อนข้างมาก มากจนตัวผมเองต้องสงสัยว่ามันใช้ภาพคนละไฟล์กันรึเปล่าเลยทีเดียว…
ส่วนด้านล่างนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทาง Sony เอามาอธิบายไว้ว่าการแสดงผลเป็น HDR จะดีกว่าการแสดงผลทั่วไปที่จะได้สีสันจะสวยสดสมจริงอย่างที่ตาเห็นมากกว่าหน้าจอปกติ
นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องการแสดงผลที่มืดที่สว่างที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี Slim Backlight Drive (มีเฉพาะรุ่นท็อปสุด ราคาเป็นแสนเท่านั้น) ซึ่งตัวประมวลผลจะทำให้มีแสงสว่างเฉพาะจุดได้ เท่าที่ลองดู Contrast ดีไม่แพ้หน้าจอ OLED เลยทีเดียว ส่วนมืดส่วนสว่างทำออกมาได้ต่างชัด ตอนลองทดสอบในห้องมืด และเปิดภาพที่ถ่ายย้อนแสงพระอาทิตย์แล้วจะเหมือนเราเห็นดวงอาทิตย์สว่างวาบแบบสถานการณ์จริงเลยทีเดียว
ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องดีไซน์ก็มีอยู่เล็กน้อย ภาพด้านล่างนี้จะเป็นของรุ่น 2015
แต่ในปี 2016 จะมีการเปลี่ยนฐานใหม่ และปรับด้านหลังรวบสายสำคัญๆให้ซ่อนอยู่ ไม่โผล่ออกมาระเกะระกะด้วยครับ เรียกว่าใส่ใจในรายละเอียดการดีไซน์ดี แต่ถึงเวลาใช้จริงไม่รู้ว่าจะใช้ยากขึ้นกว่าเดิมรึเปล่าเพราะต้องแกะออกมาก่อนใส่ด้วย และด้านหลังปกติก็ไม่น่าจะมีใครสังเกตอยู่แล้วนะว่ามันสายเยอะขนาดไหน (ฮา)
สำหรับ Sony BRAVIA 4K TV ในปี 2016 นี้ มีรุ่นต่างๆให้เลือกอยู่หลายแบบตามด้านล่างซึ่งผมขอเอามาเปรียบเทียบกับรุ่นเมื่อปีที่แล้วให้ได้เห็นความต่างกันดังนี้ครับ
รุ่น | X9300D | S8500D | X8500D | X9300C | X9000C | X8500C | |
ขนาดหน้าจอ | 65/55 | 65/55 | 75/65/55 | 65 | 65/66 | 55 | |
Picture | ความละเอียด | 4K | |||||
4K Processor | Sony X1 Processor | ||||||
Clarity | 4K X-Reality Pro | ||||||
Colour | TRILUMINOS Display | ||||||
Contrast | X-tended Dynamic Range Pro | Dynamic Contrast Enhancer | X-tended Dynamic Range Pro | Dynamic Contrast Enhancer | |||
Slim Backlight Drive | yes | – | – | – | – | – | |
Motionflow | Motionflow XR 800/960 | Motionflow XR 1200 | Motionflow XR 800 | ||||
HDR Compatible | 4K HDR | – | – | – | |||
3D | 3D | – | – | 3D | 3D | 3D | |
Sound | Digital Sound Processing | Clear Audio+ DSEE | |||||
Speaker | Bass Reflex Speaker | ||||||
UX | Sony’s Android TV | androidtv | |||||
Phto Sharing Plus | yes | ||||||
WiFi / Bluetooth | yes |
อย่างที่เห็นคือส่วนต่างหลักจะเป็นฟีเจอร์ 4K HDR นั่นเอง ส่วนที่เหลือก็จะค่อนข้างคล้ายเดิม ถ้าใครจะซื้อรุ่นของปีที่แล้ว และได้ราคาดีๆ ก็น่าจะยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะครับ
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือทาง Sony มีการถอดเอาฟีเจอร์ 3D ออกไปในบางรุ่น ซึ่งทางทีมงาน Sony ก็ให้ข้อมูลว่าเพราะเทรนด์ของฟีเจอร์นี้ดูจะไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เช่นเดียวกับฟีเจอร์หน้าจอโค้งที่บอกว่าทาง Sony ก็สามารถทำได้แต่ทางบริษัทไม่ได้โฟกัสเท่าไหร่ เพราะจากตอนแรกที่เชื่อว่าจอโค้งจะทำให้มองภาพได้ดีขึ้น แต่ความจริงแล้วกลับทำให้ผู้ชมปวดหัวมากขึ้นแทนซะงั้น (สวนทางกับอีกเจ้าที่พยายามโปรโมทจอโค้งสุดๆไปเลย)
ส่วนเรื่องความเป็น Android TV เท่าที่ดูคร่าวๆ ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ฟีเจอร์ต่างๆเช่น UI ที่เหมาะกับรีโมทและทีวี, การโหลดแอพต่างๆ, หรือ voice search ยังมาแบบครบครัน ไว้ต้องรอมีโอกาสเอาของมาลองแกะ และดูตัว processor ด้านในอีกทีว่าเปลี่ยนตัวใหม่ใส่เข้าไปแล้วหรือยัง หรือยังใช้ตัวเดิมกับปีที่แล้วอยู่ครับ
สำหรับคนที่ไม่ทราบ ปัญหาเรื่องลอยแพใน Android TV จะไม่มีนะ ขึ้นชื่อว่าใช้ได้แล้วก็จะสามารถอัพเดทโดยตรงจากทาง Google ได้เลยนะ หมดห่วงปัญหาน่าปวดหัวไปได้เลย (แต่อาจจะมีอาการช้า หรือหน่วงในเครื่องรุ่นเก่าๆ เวลาเล่นเกม หรือแอพหนักๆได้บ้างนะ
สำหรับใครที่สนใจจะหา Android TV สักเครื่องนึง ผมได้เคยลองเอามาจับและรีวิวไปแล้วสำหรับรุ่นในปี 2015 กลับไปอ่านกันดูได้นะครับ
จัดว่าเด็ด
สาวกโซนี่อย่างผม จัดแน่นอนครับ ทุกวันนี้ทั้งสะสมแผ่นบูลเรย์ ทั้งกดเกมส์PS 4มาดอง ทั้งถ่าย 4K กับ Z5P รอเปิดรุ่น X8500D อยู่ครับ
ปล. เห็นว่าจอย Dualshock 4 เชื่อมต่อเล่นเกมส์ได้ง่ายด้วยนะครับ
แขวนผนัง ถึงกับต้องถอดออกมาก่อนแล้วใส่ใหม่เลยทีเดียว
ไม่ทำ android รุ่นเล็ก ๆ แล้วสินะ
รอขนาดหลัก 4x " 1080 P ก็พอครับ
คิดว่า Sony เองน่าจะแอบ UP Grade CPU ทุกปีเหมือนกัน
ต้องเก็บเงินรอจัด X9300D 65" ตอนลดราคาตกรุ่นซะหน่อยแล้ว
(กว่าจะเก็บเงินครบ ก็ตกรุ่น เลหลัง ลดราคาพอดี)
ผมไปสอยรุ่น w800c 50" มาแล้วใรนราคา 29,xxx บ ช่วงจัดโปรมีแถมคูปอง 5,000 บ อีกด้วย เมื่อนำมาใช้งานรู้สึกประทับใจในความคมชัดมากครับ แต่ยังไม่ใด้ลองทดสอบระบบ 3D เพราะรุ่นนี้ไม่แถมแว่นผมเลยไปสั่งซื้อใน lazada มา1คู่ ในราคา 1,640 บ. หลังจากใด้แว่นมาแล้วก็รีบเปิดหนัง3Dแต่เจ้ากรรมแว่น 3Dไม่ยอมซิงค์กับ TV ผมงมทั้งวันก็ยังไม่ใด้แว่นที่ผมซื้อมาเป็นรุ่น TDG-BR250 ผมก็เลยเข้าไปสอบถามทางศูนย์ sony เลยใด้ข้อมูลมาว่าแว่นไม่ตรงรุ่น ที่ใช้ใด้ต้องเป็น TDG-BR500A ซึ่งรุ่นนี้ราคาแพงมากผมนี่เซ็งเลยในคู่มือ TV ก็ไม่บอกเอาใว้ว่าต้องใช้กับแว่นรุ่นไหนเซลขายก็ไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ผมส่งแว่นที่ขึ้นไปขายในเว็บ kaidee แล้วใครที่สนใจหรือมี TV ที่ใช้กับแว่นรุ่น TDG-BR250 ก็สามารถเข้าไปชมใด้นะครับสภาพนางฟ้าราคายาจกครับ เพราะยังไม่เคยใช้งานเลยแค่แกะออกมาลองกับ TV สรุปนี่ผมมาอวย TV sony หรือมาขายแว่นนะ อ่ออีกอย่างเรื่อง joy สำหรับเล่นเกมส์จอย xbox 360 ก็สามารถใช้ใด้นะครับใช้แทนรีโมทใด้เลยเหตุผลที่ผมจัด TV เครื่องนี้ก็เพื่อเอามาเล่นเกมส์ xbox360 และเอามาใว้ดูหนังและดูบอลสำหรับราคานี้แลกกับ.ขนาด.ความคมชัด.ลูกเล่น.ผมว่าคุ้มครับเสียอย่างเดียวไม่แถมแว่น 3D และไม่บอกในคู่มือด้วยว่าต้องใช้กับรุ่นไหน รึผมอ่านไม่เจอ
สเปคจัดมาแบบเอาตลาดบนลูกเดียวเลย
คนเราบางทีก็ไม่ได้ต้องการสเปคเทพอะไรขนาดนั้นหรอกนะ
ต่อให้มีตังซื้อก็ตาม บางทีผมก็อยากได้แค่แอนดรอยด์ทีวี Full HD
ซัก 32" ไว้ตั้งในห้องนอนก็พอแล้ว