เนื่องจากช่วงปีนี้ผมได้ไปแวะเวียนไปที่ญี่ปุ่นมา แล้วพบว่าระหว่างช่วงที่ผมไปนั้นโซนี่ได้ปรับสถานที่ที่เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ที่กินซ่าเป็นเหมือน community park ขนาดย่อม หลังจากมีการทุบอาคารไปทิ้งไปเมื่อปี 2017 แล้วเตรียมสำหรับสร้างอาคารใหม่ในตำแหน่งเดิม ตัวบริเวณนั้นถูกตั้งชื่อว่า Ginza Sony Park ที่นอกจากจะมีร้านค้ามาเปิดกันชั่วคราวแล้ว ยังมีอีเวนท์ต่างๆ ทั้งโชว์ห้องกระจายเสียงเหมือนจัดรายการวิทยุตรงนั้น โชว์นิทรรศการจากเทคโนโลยีต่างๆ ของโซนี่ มีเจ้าหมา AIBO รุ่นใหม่เดินอยู่ภายในให้คนแวะมาเล่นด้วย แล้วก็มีบูธจัดจำหน่ายของที่ระลึกอยู่ตรงนั้นด้วยครับ

รถที่ดัดแปลงกลายเป็นสถานีวิทยุ

หนึ่งในของที่เตะตาและน่าสนใจสำหรับผมก็คือ Sony Building Commemorative Louvers หรือก็คือบานเกล็ดอะลูมิเนียมจากตึกโซนี่ ที่เดิมจะถูกติดไว้รอบตัวอาคาร เพื่อความสวยงาม และมีลูกเล่นในเชิงของแสงสีที่ลอดผ่านมันออกมาในยามค่ำคืน และด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว แม้จะถูกสร้างขึ้นในปี 1966 แต่ก็ยังดูเก๋ไก๋อยู่จนถึงทุกวันนี้

อันนี้คือหน้าตาของบานเกล็ดที่ว่าครับ นี่คือตอนที่ยังอยู่บนอาคาร แต่พอมาเป็นของที่ระลึกเค้าได้ตัดให้เหลือไซส์กะทัดรัดเรียบร้อยแล้ว

สเปคของเจ้าบานเกล็ดก็มีดังนี้ครับ

  • CPU: ไม่มี
  • GPU: ไม่มี
  • RAM : ไม่มี
  • ความจุ : ยังไม่ได้ลองคำนวณปริมาตรภายใน
  • กล้อง: ไม่มี
  • เซนเซอร์ : ไม่มี
  • ขนาด : กว้าง 6 x สูง 10 x ลึก 10 ซ.ม.
  • น้ำหนัก: 160 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ : ไม่มี
  • สีที่วางจำหน่าย: สีอะลูมิเนียม ออกเงินๆ
  • ราคา 5000 เยน (ราวๆ 1400-1500 บาท)
  • ตัวที่นำมาขายนั้นเป็นของที่ผลิตในปี 1992 แต่ดีไซน์เหมือนกับตัวที่ใช้ตั้งแต่ 1966

ในเชิงแพคเกจ ถือว่าสวยงามตามสไตล์ของที่ระลึกครับ เป็นกระดาษลังปั๊มโลโก้โซนี่ และมัดด้วยเชือกเอาไว้ พอแกะออกมาก็จะพบกับของ 2 สิ่งภายใน อย่างแรกก็คือตัวบานเกล็ด และแผ่นพับที่เป็โน้ตให้ผู้ซื้ออ่าน ซึ่งพอผมเปิดออกมาก็พบข้อความดังนี้

เป็นข้อความขอบคุณที่สนับสนุนโซนี่เสมอมา และขอบคุณที่มามีส่วนร่วมกับ Ginza Sony Park ที่นี่ นับเป็นเวลาร่วม 50 ปีแล้วนับจากตึกนี้ถูกสร้างขึ้น ก็หวังว่าจะให้การสนับสนุนโซนี่ต่อไป ลงชื่อโดยผู้บริหารโซนี่ นั่นก็คือคุณ Kazuo (Kaz) Hirai อดีต CEO นั่นเอง ซึ่งตอนนี้เค้าขึ้นไปนั่งเป็นกรรมการบริษัทแล้ว สำหรับคนที่ติดตามโซนี่มานับสิบปีน่าจะทราบดีกว่า Kaz นั่นเป็น CEO ที่น่าจดจำคนหนึ่งของโซนี่ เพราะสามารถกอบกู้บริษัทจากช่วงขาดทุนย่อยยับ กลับมากำไรในแทบทุกแผนกได้ (ยกเว้นมือถืออะนะ)

กลับมาที่หน้าตาของบานเกล็ด ถ้ามองจากด้านหน้าเข้าไปในรู จะเห็นมันผิวด้านในที่ขัดมาแล้วด้วย แอบเหมือนลายไม้เลยทีเดียว และที่มุมหนึ่งของมันจะมีรอยสลักคำว่า Sony Building 1966-2017 อยู่ด้วยครับ ผิวสัมผัสจะไม่ได้เรียบเนียนเท่าไร เพราะเป็นของใช้งานจริง ผ่านการใช้งานมาหลายสิบปีแล้ว แต่ภาพรวมก็ดูสะอาดสะอ้าน และยังดูสวยอยู่เลย ผิวสีเงินคล้ายสีอะลูมิเนียม แต่จริงๆ น่าจะมีการพ่นสีทับมาแล้วทำให้ดูนวลตาขึ้น ไม่ค่อยติดลายนิ้วมือเท่าไร ยกเว้นเวลานิ้วมันๆ มาป้าย จะติดเห็นชัดอยู่ครับ

มุมที่ถูกตัดนั้นไม่คม ถือว่าเก็บงานได้ดีครับ อันนี้ยกให้จริงๆ และเนื่องจากทรวดทรงที่มีความเว้า เวลาเคาะในแต่ละส่วนจะได้เสียงที่แตกต่างกันไป

อีกหนึ่งความหัศจรรย์ก็คือ นอกจากว่างให้ทรงเหมือนหอคอยได้แล้ว ยังสามารถพลิกมาวางอีกมุมให้อ่านคำว่า Sony Building ชัดๆ ได้ด้วย และยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถพลิกเอายอดของบานเกล็ด (ฝั่งมีผิวสัมผัสน้อยสุด) มาวางได้อีกเช่นกัน เรียกว่าอรรถประโยชน์จริงๆ ครับ

ที่ผมบอกว่าเป็นของลิมิเต็ดมาก ก็เพราะว่าเจ้าบานเกล็ดนี่วางขายแค่ช่วงสิงหาคมจนถึงแค่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเท่านั้นครับ และได้นำรายได้จากส่วนนี้ไปบริจาคให้มูลนิธิช่วยเหลือเด็กประสบภัยพิบัติในญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ได้ยอดไปประมาณ 1.7 ล้านเยนครับ

ในส่วนของสถานที่นั้น Ginza Sony Park จะเปิดให้บริการไปอีกพักใหญ่กว่าจะมีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมด้านบน ใครที่มีโอกาสไปเที่ยวละแวกนั้นก็แวะเวียนไปได้ครับ เพราะจะมีนิทรรศการแนว Interactive Art ของโซนี่มาจัดเวียนเปลี่ยนเป็นประจำและสามารถเดินชมได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเลยด้วยครับ

 

อ้างอิง: Ginza Sony Park