เป็นที่สงสัยและถกเถียงกันเป็นวงกว้างว่า ผู้นำอารยธรรมอย่างโซนี่ใช้วิธีไหนในการสร้างเทคโนโลยี Floating Touch ขึ้นมา ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไปเพราะวิศวกรของโซนี่ได้ออกมาอธิบายเองว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

ย้อนไปสมัยเมื่อสิบล้านปีก่อน สมัยที่อารยธรรมยังไม่เข้าถึงมนุษย์มากนัก ไดโนเสาร์สายพันธุ์คอยาวได้ค้นพบแร่ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเก็บประจุไฟฟ้าลอยอยู่บนอากาศได้โดยบังเอิญ …… ไม่ใช่สินะ ถ้ายังพูดต่อสงสัยได้โยงเข้าโกโก้ครั้นซ์ เอาใหม่ๆ จริงๆแล้วมันเป็นเทคนิคที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของหน้าจอ Touch Screen สองอัน ชิ้นแรกเป็น Capacitive Touch Screen ทั่วไปที่ใช้ในการแตะจอ แต่อีกอันเป็นจอ Capacitive ที่สามารถรับสัมผัสได้ไวเป็นพิเศษ สามารถรับรู้การ “จะ” สัมผัสได้ห่างจากจอถึง 20 มิลลิเมตรหรือ 2 เซนติเมตรเลยทีเดียว ข้อดีคือทำให้สามารถนำมาใช้ทำอะไรหวือหวาๆอย่าง Floating Touch ได้ แต่ข้อเสียคือใช้ Multi Touch ไม่ได้นะจ๊ะ

สรุปแล้วมันคือการทำงานที่ “แยก” ขาดจากกันโดยสิ้นเชิง จอทัชสกรีนก็ทำงานของมันไป จอ Floating Touch ก็ทำงานของมันไป แต่ส่วนตัวมองมันง่ายกว่านั้นนิดหน่อย เพราะผมมองมันเป็น “S-Pen ที่เป็นของฟากโซนี่” เนื่องจากซัมซุงก็ใช้เทคโนโลยีคล้ายๆกันในการทำหน้าจอที่สามารถเขียนด้วย S-Pen ได้ เพราะเบื้องหลัง Galaxy Note จริงๆแล้วมี Touch Screen อยู่สองเลเยอร์เช่นกัน อันนึงสำหรับแตะจอ อีกอันสำหรับอ่านค่า S-Pen นั่นเอง

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้แอพฯทั่วไปสามารถใช้งานได้อย่างปกติและไม่มีการรบกวนของ Floating Touch แน่นอน เพราะการที่แอพฯใดๆจะใช้ Floating Touch ได้ ต้องเขียนโปรแกรมมาเฉพาะเท่านั้น เชื่อว่าอีกไม่นานทางโซนี่ก็คงปล่อย API สำหรับเข้าถึง Floating Touch มาให้นักพัฒนาเล่นกันแน่นอน แต่ถ้าให้มองในแง่ร้าย มันก็ถือเป็นอีก Fragmentation นึงที่ทำให้เทคโนโลยีแอนดรอยด์มิอาจไปทางเดียวกันได้ ปวดหัวนักพัฒนากันต่อไป เอ้า เฮ~~~~~

ส่งท้ายด้วยวีดีโอโชว์ว่า Floating Touch ทำอะไรได้บ้างและสะดวกแค่ไหน มาดูมา

Play video

Source: Sony Developer World via TalkAndroid