สวัสดีเพื่อนๆสมาชิก Droidsans ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Sony Xperia M5 มือถือที่มาเติมช่องว่างระหว่างตลาด mid-end และ high-end ของ Sony ดังนั้นผมขอเรียกมือถือแบบนี้ว่า Super mid-range ละกัน ด้วยสเปกหลายๆ อย่างที่ค่อนไปทางมือถือเรือธง แต่ก็ยังพยายามรักษาราคาไว้ให้อยู่ในรุ่นท็อปของตลาดกลางด้วยราคา 14,990 บาท หลังจากคราวที่แล้วผมได้ปล่อย พรีวิวของ Sony Xperia M5 ให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันไปพอสังเขป คราวนี้เรามาดูรีวิวเต็มของ Sony Xperia M5 กันดีกว่า
Sony Xperia M5 เป็นมือถือรุ่นล่าสุดในตระกูล Xperia M ซึ่งเป็นไลน์ของมือถือ Mid-range จาก Sony ที่เดินทางมาแล้วหลายรุ่น โดย Xperia M5 เป็นรุ่นล่าสุดต่อจาก Xperia M4 Aqua ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว และตัดคำว่า Aqua ออกจากชื่อไปด้วย เพื่อความสั้นและกระชับ แต่ Xperia M5 ยังคงคุณสมบัติการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ไว้เหมือนเดิม ซึ่ง IP68 นั้นหมายความว่า ตัวมือถือสามารถอยู่ในน้ำได้ที่ระดับความลึกสูงสุด 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที
Xperia M5 นั้นมีอยู่ 2 รุ่นด้วยกันคือ รุ่น SIM เดียวที่จำหน่ายในประเทศไทย และรุ่น 2 SIM ที่ชื่อว่า M5 Dual ซึ่งเป็นรุ่นที่ทาง Sony ส่งมาให้รีวิวในครั้งนี้ แต่โดยรวมแล้วทั้งสองรุ่นมีสเปกเหมือนกันเป๊ะๆเลย ยกเว้นเรื่องรองรับ 2 SIM เท่านั้น ดังนั้นรีวิวนี้ผมจะไม่พูดถึงเรื่อง 2 SIM มากนัก เพื่อให้เหมาะสมกับเครื่องที่ขายในประเทศไทยนะครับ
สเปกของ Sony Xperia M5 Dual
หากเปรียบเทียบพัฒนาการของสเปกในตระกูล Xperia M ด้วยกันเอง Xperia M5 จะยังคงมีหน้าจอขนาด 5 นิ้วเหมือนเดิม หน้าตาและขนาดก็ดูคล้ายๆของเดิม นอกนั้นคือการอัพเกรดสเปกจากของเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นเป็น FullHD, RAM ขนาด 3GB, กล้องหลัง 21.5MP และกล้องหน้า 13MP นอกจากนั้นนี่ยังเป็น Xperia M รุ่นแรกที่ Sony เลือกใช้ CPU จากเจ้าอื่นที่ไม่ใช่ Qualcomm
ชื่อและรหัสเครื่อง : Sony Xperia M5 Dual (E5663)
สัดส่วน : 145 x 72 x 7.6 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 142.6 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
หน้าจอ : IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full-HD 1080p พร้อม Mobile BRAVIA® Engine 2
เครือข่ายที่รองรับ:
4G FDD LTE : 2100/1800 (รองรับทุกเครือข่ายในประเทศไทย)
3G : HSPA 850/900/1900/2100 (รองรับทุกเครือข่ายในประเทศไทย)
2G : GSM 850/900/1800/1900
SIM : 2 SIM แบบ Nano-SIM (รุ่นของไทยเป็น 1 SIM)
CPU : MediaTek Helio X10 (MT6795) Octa-core 2GHz
GPU : PowerVR Rogue G6200
RAM : 3 GB
หน่วยความจำภายใน : 16 GB (เพิ่ม microSD card ได้สูงสุด 200GB)
กล้องหน้า : 13 ล้านพิกเซล Exmor RS พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ
กล้องหลัง : 21.5 ล้านพิกเซล Exmor RS พร้อมโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริด F2.2 และ LED flash
แบตเตอรี่ : 2,600 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)
OS : Android 5.0 Lollipop พร้อม Xperia UI
NFC : มี
OTG : มี
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP65/68
การเชื่อมต่ออื่นๆ:
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot
Bluetooth v4.1, A2DP, LE, apt-X
GPS/A-GPS/Glonass
USB 2.0
หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
เซ็นเซอร์:
เซ็นเซอร์หมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
เซ็นเซอร์เปิดปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity sensor)
เซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอ (Light sensor)
เซ็นเซอร์แม่เหล็ก (Magnetic Field sensor)
เข็มทิศระบบดิจิตอล (Compass)
งานออกแบบภายนอกและวัสดุที่ใช้
Sony Xperia M5 ยังคงงานออกแบบในสไตล์ Omnibalance ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของ Sony เหมือนเดิม ซึ่งก็ใช้งานออกแบบแบบนี้มาแล้วรุ่นต่อรุ่น ถ้าใครที่เป็นแฟนของ Xperia อยู่แล้วจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี หลายคนอาจจะบอกว่าเบื่อแล้วดีไซน์แบบนี้ แต่ผมว่ามันยังคงความสวยและคลาสสิกอยู่ สำหรับตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นกระจกประกบตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนกรอบเป็นพลาสติกชุบโครเมียม แตกต่างจากรุ่นท็อปอย่าง Xperia Z5 ที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ ซึ่งก็พอเข้าใจได้เพราะนี่มันมือถือ mid-range
ถึงแม้ตัวกรอบจะทำด้วยพลาสติกแต่ขอบมุมทั้ง 4 ด้านของตัวเครื่องนั้นทำมาจาก “สแตนเลส” โดยเราจะรู้สึกได้ชัดเจนตอนที่เครื่องโดนความเย็น ตรงมุมของเครื่องนั้นจะเย็นกว่าบริเวณอื่น
ว่าแล้วก็มารอบๆตัวเครื่องกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง?
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียง
ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วยพอร์ต USB อยู่ตรงกลางและลำโพงอยู่ทางด้านซ้าย
ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power อยู่บนสุดเป็นสีเงินแตกต่างจากสีของตัวเครื่องชัดเจน ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับเสียง และด้านล่างสุดเป็นปุ่ม shutter สำหรับถ่ายรูป ซึ่งต้องบอกว่าน่าจะถูกใจสำหรับคนเล่นกล้อง เพราะปุ่มแบบนี้มันได้ feel สุดๆ นอกจากนั้นยังใช้ถ่ายรูปใต้น้ำได้ด้วย
ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับใส่ SIM และ microSD card อยู่โดยต้องแกะฝาเปิดออกมาก่อน ซึ่งฝานี้ต้องปิดให้ดีเพราะจะเป็นตัวช่วยในเรื่องการกันน้ำด้วยครับ
พอแกะฝาปิดออกมาก็จะสามารถแงะเอาถาด SIM และถาด microSD ออกมาได้ ขอย้ำอีกครั้งว่าเครื่องรีวิวเป็นรุ่น 2 ซิมแต่ “เครื่องขายจริงจะมีซิมเดียวนะครับ”
มาดูด้านหน้าของตัวเครื่องกันบ้าง ส่วนบนที่เห็นเป็นวงกลมใหญ่ๆนั่นคือ “กล้องหน้า” ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล selfie จัดเต็ม ส่วนร่องด้านบนที่ติดกับขอบจะเป็นลำโพงสำหรับสนทนา นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์ต่างๆซ่อนเอาไว้อีกมากมาย เช่น เซ็นเซอร์วัดแสง และ Proximity เป็นต้น
ส่วนล่างของหน้าจอจะเป็นแถบดำๆไม่มีปุ่มอะไร และร่องที่สมมาตรกับส่วนบน ซึ่งร่องตรงนี้จะเป็นไมค์สำหรับสนทนานั่นเอง
ได้เวลาพลิกมาด้านหลังก็จะเห็น “สีทองอร่าม” ไปทั่วทั้งแผ่นหลังของ Xperia M5 ซึ่งสีทองแบบนี้ใครเห็นก็สะดุด แต่ส่วนจะได้คำวิจารณ์ยังไงก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับผมคิดว่ามันสวยโอเคดี เสียอย่างเดียวพอเป็นกระจกแล้วลายนิ้วมือและคราบมันก็พร้อยเลยล่ะ
ซูมเข้ามาด้านบนสักนิดจะเห็นกล้องหลังอยู่มุมบนซ้ายและถัดไปเป็นไฟแฟลช
ตรงกลางจะมีโลโก้ NFC และ Sony อยู่ ยืนยันว่ารุ่นนี้มี NFC มาให้ด้วยแน่นอน
ส่วนด้านล่างนั้นจะมีโลโก้ Xperia แสดงความขลังของรุ่นนี้อยู่
Sony Xperia M5 มันเป็นมือถือหน้าจอ 5 นิ้วที่มีขนาดพอดีๆไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่ ด้วยงานออกแบบ Omnibalance ที่มีการปรับปรุงให้ตัวเครื่องมีขนาดบางลงจากเดิม ส่วนที่เห็นได้ชัดคือขอบหน้าจอด้านข้างที่บางลงชัดเจน ทำให้ขนาดเครื่องไม่ใหญ่จนเกินงาม น้ำหนัก 142.5 กรัมนั้นถือว่าไม่เบา แต่ก็ไม่หนักมาก โดยส่วนตัวคิดว่าการที่มือถือมีน้ำหนักสักหน่อยจะทำให้รู้สึกว่ามันแข็งแรงและพรีเมียมกว่ามือถือที่น้ำหนักเบากว่า การจับถือก็เข้ามือดีครับ ส่วนเรื่องกันน้ำนั้นหลายคนอาจจะสงสัยว่า ตัวเครื่องมีรูให้น้ำเข้าตั้งหลายแห่ง ทำไมมันถึงกันน้ำได้? นั่นเป็นเพราะ Sony เคลือบสารกันน้ำแบบพิเศษที่บริเวณเหล่านี้นั่นเอง
ส่วนเรื่องวัสดุที่ใช้ถึงแม้กรอบจะเป็นพลาสติกแต่การเคลือบโครเมียมสีทองมันวาวก็ทำให้มันดูดีได้เหมือนโลหะเลยล่ะ เหลือแค่ต้องมาลุ้นว่าใช้นานๆไปมันจะลอกหรือเปล่านะครับ ^_^
ว่ากันด้วยเรื่อง Software
Xperia M5 นั้นมาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop ครอบทับด้วย Xperia Home ซึ่งเป็น Custom UI ที่ทาง Sony ทำขึ้นมาเอง ถ้าใครเคยใช้มือถือ Sony มาก่อนจะรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี ยิ่งมาจากมือถือที่เป็น KitKat มาก่อนยิ่งไม่ได้มีอะไรแตกต่างมาก แต่สำหรับมือใหม่ Xperia Home ไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้งาน เพราะโดยรวมมันยังคงยึดตามหลักการของ Android รวมไปถึง Material Design ด้วย ลองมาดูเป็นส่วนๆกันดีกว่า
Homescreen
หน้า Homescreen เริ่มต้นนั้น Xperia M5 เตรียมมาให้ทั้งหมด 5 หน้า โดยมี widget และ app วางไว้ให้แล้วบางส่วน การจัดการหน้า Homescreen ก็เหมือนกับหน้าจอมาตรฐาน Android ทั่วไป เราสามารถแตะค้างที่หน้าจอเพื่อเพิ่มลด widget และ app ได้ และยังสามารถเพิ่มลดจำนวนหน้าจอและตั้งค่าหน้า Home ได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นเรายังสามารถปรับเพิ่มลดสัญลักษณ์ไอคอนที่จะปรากฎอยู่บน Status bar ด้านบนของหน้าจอได้ เช่น นาฬิกา, แบตเตอรี่, เปอร์เซ็นต์แบต, Bluetooth, Wi-Fi และ GPS
Theme
Xperia Home มาพร้อมกับระบบ Theme ที่จะช่วยเปลี่ยนหน้าตาของ UI ให้เป็นในแบบที่เราชอบได้ โดย Theme จะมีทั้งแบบที่มากับเครื่องและ download ได้เพิ่มเติม การเปลี่ยน Theme จะเป็นการเปลี่ยนทั้ง Wallpaper และหน้าตาของ UI ให้เป็นแบบเฉพาะของ Theme นั้นๆ
ตัวอย่าง Theme ที่สามารถ download มาได้เพิ่มเติม
Kitsune Summer
LEGO Ninjago Tournament Theme
Mad Max
Pixels Nerd
Lockscreen
หน้าจอ Lockscreen ของ Xperia Home จะเหมือนกับหน้าจอ Lockscreen มาตรฐานของ Android เลย การปัดไปทางซ้ายจะเป็นการเปิดกล้อง การปัดไปทางขวาจะเปิดหน้าโทรศัพท์ ส่วนนาฬิกาแนวตั้งตรงกลางนั้นก็เป็นเอกลักษณ์ของ Xperia เลยล่ะ ถ้าไม่ชอบก็ให้แตะค้างที่นาฬิกาเพื่อเปลี่ยนรูปแบบได้เช่นกัน ส่วน Widget สำหรับ Lockscreen นั้นถูกตัดออกไป ไม่มีให้ใช้
Notification
ในส่วนของแถบแจ้งเตือนหรือ Notification Shade นั้นจะเหมือนกับแบบมาตรฐานของ Android ไม่มีอะไรพิเศษ ส่วนของ Quick settings นั้นสามารถเพิ่มเติมหรือจัดเรียงใหม่ได้ โดยมีให้เลือกทั้ง 13 อัน แต่สามารถเลือกมาใช้งานได้ไม่เกิน 9 อัน
App Drawer
สำหรับ “หน้ารวมแอพ” หรือ App Drawer นั้นจะมีเมนูพิเศษอยู่ทางซ้ายสุด โดยเราสามารถจัดเรียงแอพตามตัวอักษรหรือความถี่ในการใช้งาน, สั่งลบแอพที่ไม่ใช้ และยังสามารถค้นหาแอพได้โดยแตะที่กล่องค้นหาด้านบน
Small Apps
ส่วนนี้เป็นฟีเจอร์ multi-tasking ของ Xperia Home โดยเราสามารถเปิดหน้าต่างเล็กๆของ App บางอย่างเพื่อทำงานได้พร้อมกัน ได้แก่ Active Clip, Bookmarks, Browser, Calculator, Calendar, Gmail, Timer และ Touch Block การเรียกใช้งาน Small Apps ทำได้ผ่านทางหน้า Recent Apps จะมีลูกศรให้กดอยู่ด้านล่างครับ
Simple Home
หน้า Homescreen แบบพิเศษสำหรับคนที่ชอบความง่ายในการใช้งาน ไม่มีความซับซ้อนเรื่องการจัดวาง App หรือ Widget อะไรมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น Simple Home นั้นจะเหมาะกับผู้ใหญ่และคนชราที่ถนัดใช้งานมือถือฟีเจอร์โฟนมากกว่าสมาร์ทโฟน การเปิดใช้งาน Simple Home ผ่านทาง Settings แล้วเลือกเมนู Home ซึ่งจะมี Simple Home ให้เลือกเปิดใช้งานได้
หน้าตาของ Simple Home นั้นก็ง่ายสมชื่อ โดยจะมีเพียงหน้าจอหลักหน้าจอเดียวและก็จะมี App พื้นฐานวางไว้ให้เรียกใช้งานได้เลย เช่น Phone, Messaging, Speed dial, Contacts หรือ Camera ในส่วนของ “My Apps” นั้นจะให้ผู้ใช้สามารถเพิ่ม App ที่ตัวเองชอบเข้ามาเก็บไว้ได้เอง นอกจากนั้นก็จะมีส่วนของ “Apps” ที่จะเป็นรายการของ App ทั้งหมดที่มีในเครื่องจัดในแนวตั้ง ให้เลื่อนหาและเรียกใช้งานได้
Xperia keyboard
Xperia M5 นั้นมาพร้อมกับ keyboard ที่ทาง Sony ทำขึ้นมาเอง ชื่อว่า “Xperia keyboard” รองรับการพิมพ์ได้หลายภาษารวมถึง ภาษาไทย ด้วย และก็มีการ Emoji ให้เรียกใช้งานได้อีก
นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติมคือ สามารถเปลี่ยนหน้าตา keyboard ได้ หรือส่วนของ “Gesture input” ที่เป็นการลากนิ้วไปตามตัวอักษรแทนการพิมพ์เป็นตัวๆ หรือ Swype นั่นเอง อีกฟีเจอร์หนึ่งคือ “Use my writing style” ที่ keyboard จะไปอ่านข้อมูลจาก Gmail และ SMS ของเราเพื่อเรียนรู้แนวทางการพิมพ์ของเราเอง ดังนั้นตอนที่เราพิมพ์ก็จะมีคำที่เราใช้บ่อยๆแนะนำขึ้นมาด้วย
Album
ตัว Gallery ของ Xperia Home นั้นเรียกว่า “Album” โดยจะมีการจัดเรียงรูปภาพตามวันและเวลาจากใหม่สุดไปเก่าสุด และเราสามารถปรับขนาด thumbnail ที่โชว์ตัวอย่างของรูปได้ด้วยการใช้นิ้ว 2 นิ้วถ่างเข้าถ่างออก เหมือนตอน Zoom ดูรูปนั่นเอง ถ้าเราอยากดูรูปตาม folder ก็ทำได้โดยเลือกจากเมนูด้านซ้าย นอกจากนั้นตัว Album ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Facebook, Picasa และ Flickr เพื่อแสดงภาพจาก Social netork เหล่านี้ได้ด้วย
นอกจากนั้นตัว Album ยังมาพร้อมกับเครื่องมือสำหรับแต่งภาพให้สวยงามมากขึ้นและดูสนุกมากขึ้นได้ โดยจัดฟีเจอร์พื้นฐานมาครบทั้ง Crop, Rotate หรือการใส่ Filter แบบต่างๆ สำหรับรูป Portrait ก็มี effect แบบแปลกๆให้เล่นกันด้วย
Walkman
หากพูดถึงมือถือ Sony ในยุคปัจจุบันแล้วจะไม่พูดถึง Walkman คงไม่ได้ เพราะ Walkman คือสัญลักษณ์ของการฟังเพลงบนมือถือ Sony ยุคหลังแทบทุกรุ่น และคุณภาพเสียงของ Xperia M5 ก็ไม่ทำให้ให้เสียชื่อ Walkman เลย สำหรับการใช้งานนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน ตัว Walkman มีการจัดกลุ่มเพลงตามชื่อศิลปิน, ชื่ออัลบั้ม และประเภทของเพลง ให้เรียบร้อย นอกจากนั้นยังสามารถเลือกดูตาม Folders ทีเราเป็บเพลงไว้ก็ได้โดยเลื่อนไปซ้ายสุดจะมีเมนูออกมาให้เลือกเพิ่มเติม
ฟีเจอร์เสริมในเรื่องปรับแต่งเสียงก็มีมาให้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ClearAudio+ ที่จะปรับคุณภาพของเสียงเพลงตามเพลงที่เล่นในขณะนั้น, Equalizer แบบพื้นฐาน 5 band และ Surround sound ที่เป็นการปรับแต่งเสียงตามแบบจำลองสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น Studio, Club และ Concert hall
โดยรวมแล้วส่วนตัวผมว่า Xperia Home เป็นหนึ่งใน Custom UI จากผู้ผลิตที่ทำได้ดีที่สุด ด้วยหน้าตาที่มีสีสันแต่ไม่ฉูดฉาด, การใช้งานที่รวดเร็วและเข้าใจง่าย, ระบบ Theme รวมไปถึงฟีเจอร์แอพต่างๆที่เพิ่มเข้ามา ล้วนมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทั้งสิ้น ที่สำคัญคือ Xperia Home สร้างบนพื้นฐานการใช้งาน Android ตามมาตรฐานทั่วไป ทำให้คนที่ใช้ Android อยู่แล้วจากยี่ห้ออื่นสามารถปรับตัวได้ไม่ยาก
กล้องถ่ายภาพพร้อมโฟกัสอย่างไว
Xperia M5 นั้นมาพร้อมกับกล้องหลัง Exmor RS ความละเอียดสูงสุด 21.5 ล้านพิกเซล ค่า aperture F/2.2 พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Autofocus) ที่สามารถโฟกัสได้ไวถึง 0.25 วินาที ซึ่งภาพความละเอียดสูงสุด 5312 x 3984 พิกเซลหรือ 21.1MP นั้นจะเป็นการถ่ายในอัตรส่วน 4:3 ในขณะที่ค่าเริ่มต้นของกล้องจากโรงงานจะตั้งค่าไว้ที่ 5334 x 3008 พิกเซลหรือ 16MP ซึ่งเป็นอัตราส่วนแบบ wide 16:9 จะเห็นว่าความละเอียดสูงสุดจริงๆไม่ได้ถึง 21.5MP อย่างที่ Sony โฆษณาไว้แต่ก็ต่างกันไม่มาก หยวนๆไปละกัน ส่วน flash นั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ Sony ให้มาเป็น Single LED ไม่ใช่ Dual LED อย่างที่เห็นกันเกลื่อนในมือถือรุ่นใหม่ๆ
จุดเด่นอย่างหนึ่งในการถ่ายภาพของ Xperia M5 คือ การที่ Sony เตรียมปุ่ม shutter มาให้สำหรับถ่ายรูปโดยเฉพาะ ซึ่งปุ่ม shutter ก็เป็นแบบ 2 step คือกดลงไป step แรกเป็นการโฟกัส แล้วค่อยกดลงไปอีก step เป็นการถ่ายรูป เหมือนกับปุ่มของกล้องจริงๆ
สำหรับคนที่ใช้กล้องของ Xperia มาก่อนจะคุ้นเคยกับโหมดถ่ายรูปที่มีมาให้เล่นมากมายหลายแบบ โดยโหมดหลักคือ Superior Auto ที่จะเลือกโหมดย่อยในการถ่ายภาพให้เองจากสภาพแสงในขณะนั้น ซึ่ง Sony บอกว่ามีถึง 52 แบบเลยทีเดียว แต่เท่าที่เห็นบ่อยๆก็มี Landscape, Macro, Low Light และ Gourmet ครับ แต่การใช้ Superior Auto นั้นเราจะปรับอะไรไม่ได้มาก ดังนั้นสำหรับคนที่ชอบปรับแต่งค่าต่างๆได้เอง Sony ก็มีโหมด Manual มาให้ครับ
ในโหมด Manual นั้นเราสามารถปรับค่าต่างๆได้อย่างอิสระ โดยใน viewfinder ของกล้องจะมีค่า EV และ WB ให้ปรับ ส่วนใน settings จะเอาไว้ปรับค่าความละเอียดรูปถ่าย, focus mode, HDR, ISO, metering รวมไปถึง Image stabilization ระบบกันสั่นแบบใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลเอา
โหมด Manual ของการถ่ายวิดีโอก็สามารถปรับค่าบางอย่างได้เช่นกัน
คุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องของ Xperia M5 นั้นถือว่าได้ตามมาตรฐานใหม่มือถือ Sony ในยุคหลังที่หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ต้องบอกว่า พลิกจากหน้ามือเป็นหลัง..มือ เลยทีเดียว แต่หากเทียบกับมือถือในราคาระดับเดียวกัน ต้องบอกว่าของคู่แข่งหลายเจ้าก็ยังมีดีกว่า เอาน่า! อธิบายกันมายืดยาวเราลองมาดูภาพตัวอย่างจากกล้องของ Xperia M5 กันดีกว่า
ชุดแรกไปเป็นการถ่ายด้วยโหมด Superior Auto ทั้งหมด ซึ่งน่าจะโหมดที่ผู้ใช้ทั่วไปเลือกกันอยู่แล้ว
กลางวัน
กลางคืน
อัลบั้มเต็ม
คราวนี้ลองมาดูเทียบกันระหว่างโหมด Manual ความละเอียด 21MP และโหมด Superior Auto 16MP
21MP
16MP
21MP
16MP
ภาพ Sweep Panorama
ส่วนกล้องหน้าของ Xperia M5 นั้นถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล แต่ต้องปรับเป็นโหมด Manual ก่อนถึงจะเลือกได้ ส่วนค่าที่มาจากโรงงานคือ Superior Auto ซึ่งจะถ่ายที่ 8MP ครับ
13MP
8MP
สำหรับภาพวิดีโอนั้น Xperia M5 ปรับขนาดมาตรฐานไว้ที่ FullHD 1080p 30fps ส่วนเสียงนั้นอัดออกมาเป็นระบบสเตอริโอ และ Sony ก็มีระบบ SteadyShot มาให้เพื่อกันภาพสั่นตอนถ่ายนะครับ ลองมาดูตัวอย่างวิดีโอกันครับ
นอกจากนั้น Xperia M5 ยังสามารถถ่ายวิดีโอ FullHD 60fps ได้และถ่ายวิดีโอ 4K 30fps ได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ไฟล์วิดีโอนั้นเป็น codec H.265 ทำให้ไม่สามารถ upload ขึ้น Youtube ได้ ถ้าเพื่อนสมาชิกสนใจอยากดูสามารถ download ไปดูได้จาก link ด้านล่าง แต่ในเครื่องก็ต้องมี Player ที่รองรับ H.265 ด้วยนะครับ สำหรับเหตุผลที่ Sony เลือกใช้ H.265 ในการบันทึกวิดีโอแบบนี้ก็เพราะไฟล์วิดีโอมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ทำให่ไม่สิ้นเปลืองเนื้อที่ในการเก็บไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงแบบนี้
ประสิทธิภาพและความอึดของแบตเตอรี่
อย่างที่บอกไปว่า Sony Xperia M5 นั้นจัดเป็นมือถือระดับ Super Mid-range ด้วยสเปกหลายๆอย่างที่ก้าวข้ามมือถือระดับกลางทั่วไป ทั้ง CPU MediaTek MT6795 Helio X10 ที่เป็น 8 core แบบแท้ๆ ความเร็ว 2.0GHz มาพร้อม GPU PowerVR G6200 และ RAM ถึง 3GB ซึ่งจากการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ Benchmark 2 ตัวคือ Antutu, Geekbench และ 3DMark ได้ผลคะแนนออกมาดังนี้
Antutu Benchmark
Geekbench 3
3DMark : Ice Storm Extreme (1080p)
จากผลคะแนนนั้นถ้าเทียบกับมือถือหลายๆรุ่นที่ใช้ CPU รุ่นเดียวกัน จะเห็นว่าคะแนนทดสอบของ Sony Xperia M5 นั้นออกมาค่อนข้างน้อย ถึงแม้มันจะมาพร้อมกับสเปกที่สามารถเบียดมือถือเรือธงหลายๆตัวได้ก็ตาม คะแนนยังอยู่แถวๆมือถือ Mid-range ทั่วไปเหมือนเดิม ต้องบอกว่า “น่าผิดหวัง” สำหรับคนที่คิดว่าจะได้มือถือประสิทธิภาพระดับเรือธง ต้นเหตุที่เป็นไปได้คือ ตัว software ของ Xperia M5 นั้นยังไม่สามารถรีดพลังของ hardware ที่มีอยู่ในเครื่องออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ มองด้านดีคือ Sony ยังโอกาสที่จะทำให้มันดีขึ้นได้ในอัพเดตถัดๆไป อาจจะรอดูอัพเดต Android 5.1.1 อีกทีว่า จะมีอะไรดีขึ้นหรือไม่
แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปเท่าที่ทดสอบมา ไม่พบว่า Sony Xperia M5 จะมีอาการกระตุกหรือสะดุดอะไรมากนัก การเล่น internet, social network หรือแอพ chat ซึ่งเป็นเรื่องหลักของคนไทย ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลในทุกแอพ ส่วนเรื่องการเล่นเกมส์ก็ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะเกมส์ 3D เพราะ PowerVR G6200 นั้นสามารถจัดการเรื่องนี้ได้สบายเช่นกัน อาการกระตุกที่พบจะเป็นตอนใช้กล้องถ่ายรูปซะมากกว่า เมื่อมีการใช้กล้องไปสักพักจะเห็นชัดเจนว่ามันช้าและเริ่มกระตุกให้เห็น
สำหรับความอึดของแบตเตอรี่ 2600 mAh นั้น ต้องบอกว่ายังไม่ดีอย่างที่คาด เท่าที่ลองใช้งานมาพบว่า จากการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันคือ เล่น social, internet และดู Youtube เล่นเกมส์บ้างเล็กน้อย Xperia M5 จะใช้งานได้ระหว่าง 12-13 ชั่วโมง ถือว่าพอดีสำหรับ 1 วัน แต่ Xperia M5 ก็มีโหมดประหยัดพลังงาน STAMINA และ Ultra STAMINA เข้ามาช่วยสำหรับคนที่ต้องการความอึดที่มากขึ้น โดยไม่ซีเรียสกับการที่อาจจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากแอพต่างๆแบบทันที เพราะแอพจะถูกปิดการทำงานตอนที่หน้าจอปิดอยู่ จนกว่าเราจะเปิดหน้าจอ แอพเหล่านี้ถึงจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
บทสรุป
Sony Xperia M5 จัดเป็นมือถือในระดับ Super mid-range ที่มาเติมเต็มช่องว่างระหว่างมือถือระดับกลางและมือถือระดับเรือธง หากนำมันไปเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Xperia M4 Aqua นั้นต้องบอกว่าเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของตระกูล Xperia M ทั้งงานออกแบบ,วัสดุ,สเปก, กล้อง และซอฟต์แวร์ฟีเจอร์ต่างๆ ที่ยืมเอามาจากมือถือระดับเรือธงอย่าง Xperia Z5 เลย ถึงแม้คะแนนทดสอบประสิทธิภาพออกมาดูไม่สมกับสเปกของเครื่องเท่าไหร่นัก แต่คาดว่า Sony น่าจะต้องมีการปรับปรุงในซอฟค์แวร์อัพเดตเวอร์ชันถัดไป ส่วนตัวคิดว่า Xperia M5 เป็นมือถือที่ค่อนข้างลงตัวและคุ้มค่ากับการซื้อหามาใช้งาน แต่ราคาช่วง 14,xxx – 15,xxx บาทก็มีคู่แข่งค่อนข้างเยอะเหมือนกัน สำหรับผู้บริโภคก็ต้องเปรียบเทียบตามความต้องการของตัวเองให้ดีนะครับ สุดท้ายถ้าเลือก Xperia M5 ผมว่าคุณไม่เสียใจหรอก
ข้อสังเกตจากการใช้งาน
Xperia Home ทำออกมาได้ดี การใช้งานลื่นไหลดีมาก ฟีเจอร์ที่ให้มาก็มีประโยชน์
RAM 3GB ถือว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป
งานออกแบบตัวเครื่องดูสวย ถึงแม้จะไม่ได้ใช้วัสดุพรีเมียม แต่มันก็ดูพรีเมียม
กล้องสามารถโฟกัสได้ไว
การบันทึกภาพถ่ายทำได้ช้ามาก ต้องรอให้บันทึกเสร็จถึงจะลั่นชัตเตอร์ต่อได้
เวลากดถ่ายจะมีการ refocus ทุกครั้ง
- แบตเตอรี่ไม่อึดอย่างที่คิดไว้ ใช้งานได้พอดีวัน แต่ STAMINA mode ช่วยยืดระยะเวลาได้อีก 2-3 ชั่วโมง
Sony Xperia M5 นั้นเปิดให้สั่งจองทาง Sony Store Online และงาน TME 2015 ที่ผ่านมา ในราคา 14,990 บาท ซึ่งตอนนี้ผู้ที่สั่งจองเริ่มได้รับของกันแล้ว ส่วนการวางจำหน่ายตามร้านค้าน่าจะมีสินค้าวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2558 ใครที่สนใจอยู่อาจจะต้องรอสักหน่อยนะครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
เยี่ยม
รุ่นนี้ ดีเกือบทุกอย่างละ ติดนิดเดียว ยั่งไม่ไว้ใจ MTK เท่าไร แต่ถ้า ใส่ Snap 808 มามันก็แทบจะขึ้นไปชนกับ Z5 / Z5 compact ด้วยซ้ำ
ห่วงแต่เรื่องแบต..น้อยไปหน่อย
ใช้จอใหญ่กว่า5.5มานาน ดูเล็ก
แปลกใจกับคะแนนที่น้อยมาก
ปกติ helio x10 น่าจะอยู่ที่ 42000-48000
แต่นี่ต่ำเตี้ยกว่า 6592 บางรุ่น ที่ได้เฉลี่ย 28000-34000
6595 ไปถึง 45000-52000
6752 นี่โดดไป 41000-46000
6753,6735 ก็ยังไปถึง 33000-36000
แสดงว่า อาจจะทำ ROM มาไม่ดีพอ หรือคะแนนไม่ใช่ตัวชี้วัด
หวังว่า update version ใหม่ๆ จะดึงความสามารถเพิ่มขึ้นมา
สาธุ…
ผมจะซื้อรุ่นนี้ ^ ^"
ได้แน่นอน ชอบตรงที่ UP ยาวๆ เหมือน IOS นี้แหละ ไม่เหมือนหลายๆยี่ห้อที่เลือก UP เฉพาะรุ่นกลาง กับ รุ่นท็อป เอาใจช่วยน่ะ Sony HTC Blackberry และ Nokia ที่กำลังจะ Come Back To Device
ตอนที่ได้มาลองเล่นก็คาดไว้ว่าประมาณนี้เหมือนกันครับ เข้าใจว่า Sony เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ MediaTek อาจจะต้องให้เวลาเค้าหน่อย 55
ผมไปลอง Test Antutu มา คะแนนได้แถวๆ 38,000-39,000 นะครับ
ไปดูเว็บอื่น ก็มี 40,000 ให้เห็น แต่ทำไมรีวิวนี้ได้ แค่ 33000 เอง
ผมก็ไม่ซีเรียสกับคะแนนเท่าไหร่สำคัญที่การใช้งานจริง ลื่น เร็ว ก็โอแล้ว แหะๆ
นั่นสิครับ ผมก็ลองรัน 3 รอบ นี่คะแนนมากสุดละ หรือเพราะเครื่องรีวิวซอฟต์แวร์ยังไม่สมบูรณ์หนอ
ทามไมไม่ใส่แฟลช กล้องหน้ามาด้วย ให้เหมือนรุ่น C5 Ultra จิงๆอยากได้แฟลชแบบ truetone ด้วย จิงๆราคา น่าจะเรียงกันน่ะ ตามนี้น่ะ Z5 Z5C Z5P อยากได้ราคา ตามนี้
Z5C 18990 บาท
Z5 20990 บาท
Z5P 24990 บาท
หวังว่า Sony TH คงจะลดราคาในอีกไม่ช้าน่ะ เดี่ยวสมาร์ทโฟนสแกนลายนิ้วมือ ราคาหมื่นต้นๆ เริ่มมีกันแล้ว ต่อให้เป็นนวัตกรรมที่ไว้ Touch ID ด้านข้างก็เถอะ อีกอย่างเดี่ยวนี้สมาร์ทโฟน จอใหญ่ๆ ราคาเอื้อมถึงก็มีถมไป เดี่ยวนี้ สมาร์ทโฟนหน้าจอ 4.5 4.6 นิ้ว ราคาถุกๆมีถมไปอยากให้ Sony THช่วยพิจารณาเรื่องราคาใหม่จัง มาถูกทางแล้วสำหรับ ตระกูล C M แต่มาตกม้าตายกับ ตระกูล Z ซี่งเป็นเรือธง เหมือนกับ HTC ที่ตั้งราคาตระกูล One M สูงเกินจริง เดี่ยวนี้ตลาดบน ถ้าไม่ใช่ Samsung Apple ก็ไม่มียี่ห้อไหนที่สามารถต่อกรได้
ราคาแบบนั้น ต้องรอแหละครับ ค่าเงินเราก็อ่อน อีกอย่าง เรือธง ราคาดีดมา249-259นานแล้วนะ ด้วยค่าเงินที่อ่อนลง ไม่เพิ่มก็ดีแล้วหล่ะครับ
ครับผม เมื่อไรค่าเงินเราแข็ง เราคงได้ใช้ สมาร์ทโฟนราคาถูกกว่านี้
Sony เหมือนจะไม่อัพเดต 5.1.1 ให้ตัวนี้แล้วครับ ข้ามไป 6.0 เลย
ขอรณรงค์ให้ทดสอบความเร็ว RAM และ ROM ด้วยครับ
จะใช้ Androbench หรือ App อื่นก็ได้ครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
Mediatek ตัวแรกของ Sony ไม่ใช่ Xperia M5 แต่เป็น Xperia C ซึ่งวางขายเมื่อสองปีที่แล้วครับ
http://www.thaimobilecenter.com/spec/Sony-Xperia-C.asp
XPERIA M5
ผมใช้งานมาประมาณ 2 สัปดาห์ ตอนนี้พบปัญหาคือไม่สามารถเปิด Settings –> Power Management –> Battery usage ได้ พอแตะเพื่อเปิด จะเกิดข้อความ "Unfortunately, Setting has stopped." ทุกครั้ง
ไม่ทราบจะแก้ไขอย่างไรบ้างครับ ลองค้นหาใน Google เห็นว่ามีคนเริ่มพบปัญหากันหลายคนเช่นกัน
ลองต่อคอม ใช้โปรแกรม Sony PC Companian สั่ง Repair รอมดูครับ (อย่าลืม Backup ข้อมูลก่อนด้วย)
ในราคา สมาร์ทโฟนกันน้ำ กันฝุ่น ผมว่า ยังไง ก็ยังแพ้ HTC Desire EYE ในด้าน Hardware เสียดาย กล้องหน้า 13 ล้านเท่ากัน แต่ลืมใส่แฟลช ขยายหน้าจอ 5.2
Stamina นี่ แนะนำว่าให้เปิดทิ้งไว้ได้เลยครับ ไม่ได้ลดการแจ้งเตือนอะไร ไม่ใช่โหมดเซฟแบตมหากาฬอะไรขนาดนั้นครับ ผมเปิดตลอด เวลาเพื่อนทักมา Line มามันก็ขึ้นปกติครับ หรือจะตั้งให้เตือน FB ตลอดเวลาก็ได้ไม่มีปัญหา เลือกเฉพาะ App ที่ไม่ให้ปิดก็ได้ ในนั้นมีอะไรให้ปรับเยอะมาก
ถ้าอันนี้ตัดเน็ต ตัดทุกอย่าง ก็มี Ultra Stamina ให้ใช้อีกทีครับ
ปกติผมใช้งานผมเปิดตลอดได้เลย Z ก็อยู่ได้ราวๆ 12+ ชม คือโหมดนี้มันทำงานคล้ายๆยืดระยะเวลา Standby และถ้าเข้าไปในเมนูลึกๆ มีให้ปรับลดพลังความแรงของมือถือ (ผมปรับลดดู ก็ใช้งานลื่นปกติ แต่ได้อายุแบตเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าคุ้ม)
ก็ถ้าไม่ได้เล่นหนักหนา แชตบ้างฟังเพลงบ้าง วันนึง วันครึ่ง ชาร์จทีอะครับส่วนใหญ่ ยกเว้นนั่งเล่นเน็ตยาวๆทั้งวัน เล่น FB ตลอดไม่ได้ทำอย่างอื่น (แบบตอนนั่งรถทัวร์) อันนี้ก็อยู่ได้วันนึงพอดีๆ
ถ้าไม่ได้ไปยุ่งกับมัน มันไม่ลดเลยแบบ macbook อะครับ คือล็อคหน้าจอแทบจะเหมือนปิดเครื่อง แบตแทบจะไม่กระติก วันนึงอาจจะลดสัก 3-5 % อะไรงี้ (แต่ผมตั้งเปิดแจ้งเตือน LINE + FB ไว้นะครับ)
่สวนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า เพราะ sony มันว่างขายช้ามาก รอจนเบื่อ จนมีอย่างอื่นที่ดีกว่า
วางจำหน่าย ปลายเดือนพฤศจิกายน 2558
ชน Nexus 5X พอดี -_-"
HR-Vin
สอบถามหน่อยคับ รุ่นนี้มีโหมด screen mirroring ไหมคับ
เพราะอยากจะเอามาใช้กับรถ
ผมขอสอบถามเพิ่มเติมครับ ผมได้มองหาปัญหาหลักๆของ M5 พบว่า เครื่องดับกันเยอะ ผมอยากร้ว่าตอนนี้ มีการแก้ปัญหานี้ได้หรือยัง