งานเปิดตัว Xperia PRO-I ค่อนข้างดำเนินไปแบบรวบรัด เวลาเกือบทั้งหมดที่ใช้ในการนำเสนอจะเป็นในส่วนของกล้องและการถ่ายภาพ แต่อันที่จริงแล้วยังมีฟีเจอร์อีกมากที่ยังไม่ได้ถูกกล่าวถึง เช่นในแง่ของการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป รวมถึงรายละเอียดย่อยบางอย่าง แต่ล่าสุด Sony ได้ปล่อยคลิป Hands on ตามออกมาแล้ว เป็นการพรีวิวให้ชมตัวเครื่องจริงพร้อมเก็บตกรายละเอียดส่วนที่เหลือ
ตั้งชื่อ Xperia PRO-I จากคำว่า “Imaging”
ปกติแล้วตักอักษร “I” ที่ Sony นำมาใช้ในการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์จะมาจากตัวเลขในภาษาโรมัน สื่อถึงเจเนอเรชันในไลน์อัปนั้น ๆ เช่น มาร์กวัน มาร์กทู มาร์กทรี… แต่กับ Xperia PRO-I นั้นต่างออกไปจากที่เคย เพราะรอบนี้มาจากคำว่า “Imaging” สื่อถึงจุดเด่นในด้านนี้ และชื่อของมันก็เปลี่ยนวิธีการอ่านเป็น “เอกซ์พรีเรีย-โปร-ไอ” ด้วย
กล้องหลักใช้เลนส์ ZEISS Tessar T* เซนเซอร์ภาพ 1 นิ้ว
กล้องหลักได้เลนส์ Tessar มีโคตติง T* จาก ZEISS ทั้ง 3 ตัว
Xperia PRO-I มีกล้องหลัง 3 ระยะ คือ 16, 24 และ 50 มม. บนความละเอียด 12MP เรียงตามลำดับจากบนลงล่าง โดยทุกตัวจะได้ประโยชน์จากโคตติง T* ของ ZEISS เหมือน ๆ กันทั้งหมด ไฮไลต์อยู่ตรงกล้องหลักที่หยิบเอาเซนเซอร์ภาพ Exmor RS ขนาด 1 นิ้ว จากกล้อง RX100 VII มาใส่ พร้อมด้วยชิปประมวลผลภาพ แยก BIONZ X นอกจากนี้ชิ้นเลนส์ Tessar ยังเป็นกระจกแท้ ๆ ทำให้ส่งผ่านแสงได้ดี และถูกออกแบบมาเป็นพิเศษทำให้กล้องไม่ค่อยปูด แม้เซนเซอร์จะใหญ่ แถมยังปรับรูรับแสงจาก f/2.0 มาเป็น f/4.0 ได้อีกต่างหาก ซึ่งจะเหมาะกับการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอในลักษณะที่ต้องการความคมชัดตลอดทั้งภาพ
มีปุ่มชัตเตอร์และปุ่มบันทึกวิดีโอแยก
มีปุ่มชัตเตอร์และปุ่มบันทึกวิดีโอแยก แบบเดียวกับ RX100 VII
ปุ่มชัตเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ยังใส่มาให้เหมือนเดิม ปุ่มกลม ๆ ด้านข้าง เดิมทีเป็นปุ่มทางลัดสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant ใน Xperia 1 II และ Xperia 5 II รอบนี้ Sony เปลี่ยนใหม่เป็นปุ่มสำหรับบันทึกวิดีโอ ออกแบบให้มีลักษณะทางกายภาพแบบเดียวกับในกล้อง RX100 VII และขยับมาอยู่ในตำแหน่งที่กดได้ถนัดขึ้น เมื่อกดแล้วจะเข้าสู่ Videography Pro แอปถ่ายวิดีโอตัวใหม่ทันที แต่สามารถตั้งค่ากำหนดเป็นชอร์ตคัตอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ในภายหลัง
แอปถ่ายวิดีโอตัวใหม่ Videography Pro
ฟีเจอร์แน่นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ไมโครโฟน 3 ตัว ด้านหลังเป็นไมโครโฟนโมโน
Xperia PRO-I เน้นการถ่ายวิดีโอ Vlog ทาง Sony จึงจัดวางตำแหน่งไมโครโฟนอย่างสมดุลบริเวณหัวและท้ายเครื่อง มีเพิ่มไมโครโฟนโมโนเข้ามาอีกตัวที่ด้านหลัง ทำให้รับเสียงจากทิศทางด้านหน้าได้ดีขึ้น ส่วนฟอร์แมตการบันทึกทำได้สูงสุดที่ระดับ 4K แบบ HDR ที่ 120 เฟรมต่อวินาที (ในระดับเนทีฟ) เท่ากับ Xperia 1 III และ Xperia 5 III อีกทั้งยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Eye AF และ Real-time Tracking ควบคู่ไปพร้อมกันได้ด้วย
- กล้องทุกตัวรองรับระบบโฟกัสตรวจจับเฟส สูงสุด 315 จุด แบ่งเป็น 21 x 15 จุด ครอบคลุม 90% ของพื้นที่เซนเซอร์ภาพ
- ถ่ายเบิสต์ชอตได้ 20 เฟรมต่อวินาที โดยที่ระบบคำนวณ AE และ AF แบบเรียลไทม์ในอัตรา 60 เฟรมต่อวินาที (เท่ากับภาพ 1 ใบ มีการคำนวณซ้ำ 3 ครั้ง)
– เพิ่มความคมชัดและลดปริมาณนอยส์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ - รองรับ MNR (Multi frame noise reduction) เพื่อขยายขอบเขตไดนามิกหรือลดปริมาณนอยส์ในภาพ โดยการนำภาพมาซ้อนกันสูงสุดครั้งละ 10 เฟรม
- มี Eye AF ระบบโฟกัสติดตามดวงตา ใช้ได้กับทั้งคนและสัตว์
- มี Real-time Tracking ระบบโฟกัสติดตามวัตถุ ใช้ได้กับทุกอย่าง และใช้คู่กับ Eye AF ได้
- มี Anti-distortion shutter ในกล้องหลัก สำหรับป้องกันอาการภาพเบี้ยวจากเอฟเฟกต์ rolling-shutter
- มี OIS ระบบกันสั่นแบบออปติคัลในกล้องหลักและกล้องเทเลโฟโต (ส่วนกล้องอัลตราไวด์ไม่มี เพราะไม่จำเป็น ปกติเลนส์มุมกว้างโอกาสเกิดอาการเบลอน้อยมากอยู่แล้ว)
- รองรับไฟล์ภาพ RAW ที่ 12-bit
- รองรับไฟล์วิดีโอ HDR บนความละเอียด 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
ยกชุดคุณสมบัติเด็ดมาจากรุ่นก่อน ไม่มีตกหล่น
สำหรับฟีเจอร์เดิม ๆ ที่เคยมีและดีอยู่แล้ว Sony ก็จัดมาให้ครบ ๆ ใน Xperia PRO-I ชนิดที่ไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่รายการเดียว เช่น
- Battery Care – แบ่งการชาร์จแบตออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกพักการชาร์จเอาไว้ที่ 80 หรือ 90% แล้วค่อยชาร์จจนเต็ม 100% ในเฟสถัดมาตามช่วงเวลาที่เรากำหนด หรือปล่อยให้อุปกรณ์เรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยถนอมแบตในระยะยาว
- 360 Reality Audio – ฟอร์แมตเสียงรูปแบบใหม่ จำลองตำแหน่งของแหล่งกำเนิดเสียงแบบสามมิติรอบทิศทาง แต่หูฟังที่นำมาใช้งานคู่กันต้องรองรับด้วย
- DSEE Ultimate – ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยประมวลผลยกระดับคุณภาพไฟล์เพลงธรรมดาให้เทียบเคียงกับ Hi-Res
- Dynamic Vibration – ระบบสั่นตามจังหวะเสียงขณะเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง แบบเดียวกับจอย DUALSHOCK ของเครื่องเกม PlayStation
- Game enhancer – ฮับสำหรับรวบรวมชุดเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการเล่นเกม รวมถึงการปรับตั้งค่าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
– เพิ่มอัตรารีเฟรชการแสดงผลได้สูงสุดเป็น 240Hz ด้วยเทคโนโลยีแทรกเฟรมภาพ
– มีตัวเลือก H.S. power control ดึงพลังงานจากแหล่งจ่ายไฟมาใช้โดยตรง ทำให้เวลาเสียบชาร์จแล้วเล่นเกมไปด้วยเครื่องจะไม่ร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
ปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอเพิ่มได้เป็น 240Hz
ฟีเจอร์ลิมิตการชาร์จ Sony เคลมว่า ใช้งาน 3 ปี แบตแทบไม่เสื่อม
เชื่อมต่อมอนิเตอร์และไมโครโฟนแยกได้
หากต้องการยกระดับความโปรไปอีกขั้นสำหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพ สามารถทำได้โดยจับคู่ Xperia PRO-I เข้ากับอุปกรณ์เสริม มีทั้งกริปอเนกประสงค์ มอนิเตอร์ภายนอก และไมโครโฟนแยก
- GP-VPT2BT – กริปอเนกประสงค์ ใช้งานเป็นขาตั้งกล้องในตัวได้ เชื่อมต่อกับ Xperia PRO-I ผ่าน Bluetooth รองรับการควบคุมแอปกล้องทั้งการถ่ายรูป บันทึกวิดีโอ ระดับการซูม และมีปุ่มฟังก์ชันตั้งค่าได้อิสระ
- Vlog Monitor – มอนิเตอร์แยก แปะติดกับกริป GP-VPT2BT ได้ง่าย ๆ ด้วยแม่เหล็ก เชื่อมต่อกับ Xperia PRO-I ผ่านพอร์ต USB Type-C ด้านหลังมีสกรูมาตรฐานสำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์การถ่ายภาพอื่น ๆ มีแจ็ก 3.5 มม. แบบ 3-pole ในตัว ต่อกับไมโครโฟนเสริมได้
ทั้งนี้ Xperia PRO-I จะเริ่มวางจำหน่ายเร็วสุดภายในเดือนธันวาคมศกนี้ในบางประเทศ โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6 หมื่นบาท ไม่รวมภาษี และราคานี้ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
ปล. รูร้อยสายคล้องข้อมือที่หายไปนานหลายปี ตอนนี้ใส่กลับเข้ามาให้แล้วด้วยเหมือนกัน 😁
ที่มา : Sony
หัวข้อพิมพ์ผิดนะครับ "ปล่อน" > "ปล่อย"
.
แอบเสียดายตรงที่โซนี่ใช้ 12MP แทนที่จะใช้ 20MP เต็มขนาดเซนเซอร์ 1.0 ซึ่งพอคำนวณแล้ว กลายเป็นว่าไอโฟน 13 pro max รับแสงได้ดีกว่าอีกซะงั้น (ช่อง Tony & Chelsea Northrup รีวิวไว้ครับ) อันนั้นเฉพาะเรื่องเซนเซอร์นะครับ แต่ถ้าการใช้งานมันคนละสายอยู่ละ
.
ผมว่าเรื่องนี้เป็นไอเดียสำหรับบทความต่อไปได้เลยนะ ยังไงขอฝากไว้พิจารณาดูนะค้าบ
แก้ไขเรียบร้อย ขอบคุณที่แจ้งมาครับ
lens 1 นิ้ว Nokia 808 pureview
เคยมีนี่ครับ