งานนี้ต้องบอกว่าเป็นคราววซวยของ Samsung จริงๆ เพราะรัฐบาลเกาหลีสั่งแบนผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ค่ายคือ SK Telecom, Korea Telekom (KT) และ LG U+ ช่วงวันเปิดวางจำหน่าย Galaxy S5 พอดี
สาเหตุที่รัฐบาลเกาหลีใต้มีมาตรการแบนค่ายมือถือทั้ง 3 ห้ามขายหรือให้บริการอัพเกรดรุ่นมือถือในครั้งนี้ก็เพราะทั้ง 3 ค่ายมีการละเมิดให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้บริการเกิน 700,000 วอนที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้สูงสุดนั่นเอง แล้วการแบนห้ามจำหน่ายห้ามเปลี่ยนเครื่องดันมาตรงกับช่วงที่ Galaxy S5 เปิดวางขายในวันที่ 11 เมษายนซะอย่างงั้น
แน่นอนครับว่า Samsung เจอผลกระทบเต็มๆ ในเรื่องของยอดขายช่วงเปิดตัว เพราะปกติจะมีการรายงานตัวเลขและทุบสถิติ 1 วัน 3 วัน 5 วัน ขายได้กี่เครื่องอะไรแบบนี้กันมาตลอด เพรา่ะที่เกาหลีการขายมือถือนั้นจะทำผ่านตัวแทนของผู้ให้บริการเท่านั้น
- SK Telecom นั้นโดนสั่งปิดร้านช่วงวันที่ 5 เมษา – 19 พฤษภา
- KT โดนปิดช่วง 12 มีนา – 26 เมษา
- LG U+ โดนปิดช่วง 13 มีนา – 4 เมษา แล้วไปโดนปิดอีกทีตอน 27 เมษา – 18 พฤษภา
source : phonearena
ตั้งหัวข้อ เล่นเอาผมอ่านผิดเป็น"ซัมซวย" 🙂
งานเข้าแล้ว….ยอดหายไปหลายเลย
ต่างชาติโดนเพราะให้ส่วนลดเยอะเกิน ประเทศหนึ่งในเอเชียส่วนลดน้อยสัญญาแบบทาสแต่ไม่โดนอะไร ไปล่ะฟิ้ววววว~
หน้าตา S5 มันไม่หล่อก็น่าสงสารละ ยังเจองี้อีก สองเด้งเลย
เกาหลีนี่ subsidize ทีนึงเหลือเครื่องละ 4 พันบาทเองนะครับ (Galaxy S4)
จริงๆค่ายเค้าแอบทำครับ ไม่ได้โจ่งครึ่มหรอก แต่รัฐก็รู้ (ขายผ่านออนไลน์ช่องทางอื่น)
งงกับตัวเลข ทำไมถึงให้ลดให้ได้ถึง 700,000 วอน หว่า ถ้าลดขนาดนั้น
อย่าขายเลยดีกว่า ตามที่ผมเคยได้ยินมา ลิมิตมันแค่ไม่เกินประมาณ $250
หรือเกือบๆ 3 แสนวอนเองนี่ครับ หรือว่าเค้าเปลี่ยนกฎหมายใหม่
หรือว่าผมรู้มาผิด หรือ Droidsans แปลมาผิด คงเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งแหละครับ
เท่าที่ไปอ่านในตัวต้นฉบับคิดว่าน่าจะใส่ตัวเลขผิดครับ เพราะต้นข่าวบอก $249 หรือประมาณ 270,000 วอนครับ
ผมขอถามแบบคนโง่หน่อยครับ ทำไม่ลดเยอะแล้วโดนแบนละครับ คือไม่ค่อยเข้าใจการตลาดแบบนี้
มันเป็นเหมือนการทุ่มตลาดครับ ขายของราคาขาดทุนแต่ตัวเองอยู่ได้เพราะสายป่านยาว แต่รายเล็กรายน้อยจะอยู่ไม่ได้และตายจากไป
ต้องย้อนกลับไปหน่อย คือเรื่อง subsidies เกินข้อกำหนดกฏหมายของ 3 ค่ายมือถือเกาหลีนี้มีมานานแล้ว และทาง KCC (เหมือน กสทช ของไทย) ก็เตือน และปรับเงิน รวมถึงสั่งหยุดรับลูกค้าใหม่มาแล้ว แต่ว่าค่ายมือถือก็ไม่ปรับปรุงตัว ยังคงทำพฤติกรรมเดิมๆ เผลอๆ subsidies หนักกว่าเดิมด้วย ทำให้เกิดมาตรการโหดครั้งนี้ (ถือว่านานมาก สั่งหยุดรับลูกค้า 45 วัน / ปรับเกือบพันล้านบาท)
ส่วนถามว่าทำไมทำแบบนี้ทำไปทำไม และไม่ดียังไงใช่ไหมครับ
คนเกาหลีใช้มือถือกันเยอะมาก และส่วนใหญ่เล่นตัวแฟลกชิพ พอมันเล่นกันเยอะมาก ถึงจุดนึงคนก็ไม่อัพเกรดมือถือแล้ว พอคนไม่อัพเกรดมือถือ ค่ายที่ผลิตมือถือก็ใช้ความสัมพันธ์กับค่ายมือถือ (จากการจำหน่ายแบบผูกขาด) ด้วยการ offer rebate (จากการตั้งราคาจำหน่ายมือถือในประเทศ "ตัวเอง" ที่โคตรแพงอะนะ -*-) ทำให้การ subsidies แบบมหาโหดเกิดขึ้นได้ เรียกได้ว่าบางที support ค่ามือถือให้กว่า 80% แต่การหามือถือที่ถูก subsidies แบบมหาโหดก็ไม่ใช่จะหาได้ตามช้อ มันต้องไปช่องทางใต้ดิน พวกออนไลน์ช้อปปิ้งที่ต้องขุดคุ้ยเอาหน่อย หรือพวกร้านตู้ที่คนพวกนี้รู้กันดี
ทั้งหมดฟังดูเหมือนจะดีในแง่ของลูกค้า ใช่ แต่ว่า…ในตลาดมือถือเกาหลี ถ้าซื้อผิดที่ (เข้าช้อป) ก็โดนฟันขี้แตก (หมายถึงราคาเต็ม) แต่ถ้ารู้แหล่งก็จะได้ของถูกมากกก ซึ่งบางแหล่งคนทั่วไปไม่รู้… ถ้าพวกนั้นไม่ใช่กีก หรือพวกเล่นเน็ตหนักๆ ลองนึกถึงชาวบ้าน คุณแม่บ้าน คุณป้า คุณยาย ที่อาจจะเล่นเน็ตพอเป็น แต่ไม่ได้บ้าเสิชมากนัก ก็จะได้มือถือในราคาที่เกือบปกติ (หรือ subsidies ไม่เกิน 2.7 แสนวอนตาม กฏหมายกำหนด)
แล้วถ้ามือถือไม่ลงมาเล่น price war แบบเกินหน้าเกินตากฏหมาย ชาวเกาหลี เขาก็ไม่เปลี่ยนมือถือกันหรอกครับ ไม่สังเกตเหรอว่าทำไมค่ายมือถือเกาหลีมันถึงแข่งกันบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็น การ subsidies แบบโรคจิต การอัพเครือข่ายเน็ตเวิร์คที่โคตรแรงแล้วแรงอีก (กรกฏาคมนี้ จะเปิด LTE-A 300 Mbps กันอีกแล้ว) ก็เพื่อดูดคนจากค่ายอื่น (NMP) ให้ได้มากที่สุด จะว่าไปมันก็คือการแข่งขันแบบสุดขั้วนั่นแหละ
ถามว่าถ้างั้น KCC (กสทช เกาหลี) สั่งปรับสั่งหยุดรับลูกค้าเพื่อ?
ก็เพื่อหวังที่ว่าค่ายมือถือจะลดค่าบริการรายเดือนไงครับ ! เพราะว่าตอนนี้ค่าบริการมือถือของเกาหลีไม่ใช่ถูกๆเลย นับว่าค่อนข้างแพงสำหรับประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี (บ้านเราถือว่าถูกมาก แต่ถ้าเทียบกับค่าครองชีพ ก็ไม่รู้สินะ) ซึ่งตอนนี้ทีมงานของ KCC ก็กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ครับ (ที่จะทำให้ค่าบริการลดลง)
แต่ผมเชื่อว่าพอมาตรการจบลง ค่ายมือถือมันก็เล่น price war เหมือนเดิม 555
ปล.ตัวอย่างราคาอุดหนุนตอน Galaxy S III ราคาหน้าร้าน 994,000 วอน แต่ถ้าซื้อด้วยสัญญา 2 ปี จะเหลือเครื่องละ 170,000 วอนเท่านั้น (จ่ายรายเดือนขี้แตกแทน)
ข้อมูลเเน่นเปรี๊ยะๆ เลย 555 ขอบคุณมากครับ
+11
ไม่ใช่แค่ถูกสั่งห้ามรับลูกค้าใหม่อย่างเดียวนะครับ
โดนปรับอีกเป็นเงินรวมกัน 3 หมื่นล้านวอนด้วย (903 ล้านบาท)
ฮาภาพ 2 555