ข่าวในราวสองสามวันที่ผ่านมานี้ คงไม่มีเรื่องไหนจะใหญ่ไปกว่า ข่าวการเสียชีวิตของชายผิวสี George Floyd ที่นำไปสู่การลุกฮือประท้วงในหลายๆ รัฐของสหรัฐอเมริกา และยังทำให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ Spotify ที่ได้เพิ่มไฟล์เสียงแห่งความเงียบ ความยาว 8.46 นาที ลงในแพลทฟอร์มเพลงออนไลน์ของตัวเอง เพื่อเป็นการต่อต้านความรุนแรงของตำรวจ, การเหยียดผิว และไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนาย George Floyd ด้วย
ทำไมต้อง 8.46 นาที
เพราะว่า 8.46 นาที เป็นความยาวของช่วงเวลาที่อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าง Derek Chauvin กระทำเกินกว่าเหตุต่อ George Floyd โดยในขณะจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวได้ใช้เข่ากดไปที่ต้นคอของ George Floyd เป็นเวลานานถึง 8 นาที 46 วินาที โดยไม่มีการสนใจ หรือใส่ใจถึงแม้ว่าเค้าจะพูดออกมาว่า “ผมหายใจไม่ออก” ก็ตาม จึงเป็นเหตุให้นาย George เสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากขาดอากาศหายใจนั่นเองค่ะ
ข่าวการจับกุมนาย George Floyd จากสำนักข่าว The New York Times
แคมเปญ BlackOut Tuesday
การเพิ่มไฟล์เสียงแห่งความเงียบนี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวของ Spotify โดยเป็นแคมเปญที่มีชื่อเรียกว่า BlackOut Tuesday ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อต่อต้านการกระทำที่รุนแรงและการเหยียดผิว โดยแคมเปญนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนหนึ่งนาที (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยแคมเปญ BlackOut Tuesday นี้จะถือเป็นการสะท้อน ตระหนัก และสนับสนุนความเท่าเทียมให้แก่ชาวผิวสีค่ะ
นอกจากนี้ ทาง Spotify ยังพร้อมจะสนับสนุนทั้งกลุ่มพนักงาน เพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน ศิลปิน และ Creator คนอื่นๆของบริษัท เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านการเหยียดผิว ความไม่เท่าเทียม ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมครั้งนี้ด้วย
— Spotify (@Spotify) May 30, 2020
อีกทั้งจะหยุดการโฆษณาสื่อโซเชียลทั้งหมดชั่วคราว เปลี่ยนการพาดหัว Podcast รูปภาพเพลย์ลิส และโลโก้ด้วยภาพสีดำสนิท นอกจากนี้ยังจะโปรโมทศิลปินหรือ Podcaster ชาวผิวสีทั้งหมด แล้วก็จะรวบรวมเงินบริจาคจากพนักงานเพื่อไปมอบให้กับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ
We stand in solidarity against racism and violence. When members of our community hurt, we all hurt. We’re pledging $1M in support of efforts to address social injustice.
— YouTube (@YouTube) May 30, 2020
แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ เพราะว่าอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงอื่นอย่าง Apple Music, YouTube และ Amazon ก็ได้มีส่วนร่วมในแคมเปญ Blackout Tuesday เช่นกัน ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีวิธีแสดงออกที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็พร้อมใจที่จะสนับสนุนชาวผิวสีอย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ
ที่มา The Verge
Comment