พลังงานแบตเตอรีเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้วสำหรับคนยุคนี้ที่ต้องพกพาสมาร์ทโฟนและแกดเจ็ทต่างๆมากมาย เราได้เห็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาเรื่องแบตมาหลายปี ทั้งความพยายามในการเพิ่มความจุ ลดขนาด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความยาวนานในการชาร์จไฟ ที่แม้ล่าสุดเราได้เห็นแต่ละแบรนด์เปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จไฟเร็วจี๋ แต่ทุกรุ่นก็ยังอยู่ในระดับชม.กันทั้งสิ้น วันนี้เดี๋ยวมาทำความรู้จักเจ้า StoreDot ที่จะทำให้เราชาร์จไฟให้เต็มได้ภายใน 1 นาทีเท่านั้น!!
ก่อนหน้านี้เราเคยเสนอข่าวของ StoreDot แบตเตอรี่ชาร์จไว 30 วินาทีเต็ม ไปเมื่อช่วงต้นปี 2014 ซึ่งหลายๆคนก็ให้ความสนใจและรอคอยว่ามันจะเป็นจริงขึ้นเมื่อไหร่ นี่ก็ถือว่าเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมของเจ้า StoreDot ว่าผ่านไปเกือบปี มีอะไรคืบหน้าบ้างครับ
StoreDot เป็นบริษัท Startup จากประเทศอิสราเอล
ค้นพบจากการทำวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัย Tel Aviv ระหว่างค้นหาการรักษาโรคอัลไซเมอร์
นักวิจัยค้นพบโมเลกุลเปปไทด์ที่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้ แถมยังเก็บได้แบบรวดเร็วกว่าชาวบ้านทั้งหมด
แต่ข้อเสียคือโมเลกุลที่ว่าคือจะเก็บไฟฟ้าได้น้อยกว่าเทคโนโลยีปัจจุบันอย่าง Li-Ion หรือ Li-Po คิดเป็น 2 ใน 3 เท่านั้น แต่ว่าชาร์จแค่นาทีเดียวเต็มนี้ก็น่าจะทดแทนจุดด้อยนี้ลงได้
ปีที่แล้วเราได้เห็น StoreDot กับแบตขนาดใหญ่เบิ้ม แต่ปีนี้เค้าทำให้มันบางลงพอจะยัดลงมือถือได้แล้ว
เทคโนโลยี StoreDot ไม่สามารถเอามาใช้แทนที่แบตเตอรี่ทั่วไปได้ทันที ต้องมีการปรับปรุงหลายอย่างเพื่อให้สามารถทำงานได้ เช่น Charger จะให้กำลังไฟสูงถึง 80A!! (ปกติที่ใช้ๆกันแค่ 2A)
บริษัทก็ได้คุยกับผู้ผลิตมือถือไปแล้วกว่า 15 เจ้า ซึ่งกำลังจะมีคนเซ็นสัญญาด้วยอยู่ 1-2 เจ้า
สิ่งที่ทำให้ผู้ผลิตหลายๆเจ้าไม่อยากเอาเจ้า StoreDot ไปใช้ก็เพราะต้องมีต้นทุนเพิ่ม และราคาขายที่แพงขึ้นราว $50 (ราวๆ 1500 – 2000 บาท)
เราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีนี้พร้อมใช้อย่างเร็วก็ ธันวาคม ปีหน้าเลย (คริสมาสต์ 2016)
ทีมพัฒนาหวังกันว่า ณ วันที่วางขายจะสามารถทำให้ตัวแบตมันเองเก็บไฟได้เพียงพอต่อการใช้งาน Smartphone ใน 1 วัน
ปัจจุบัน StoreDot ได้รับเงิน Funding มาแล้วราว 48 ล้านเหรียญ จากนักลงทุนหลายราย รวมถึง Samsung และ โรมัน อิบราโมวิช!! (อ่านไม่ผิด…เค้าคือเจ้าของสโมสรเชลซีนั่นแหละ)
นอกจากนี้ เทคโนโลยีของ StoreDot เตรียมเอาไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ซึ่งการชาร์จเพียง 5 นาที ก็เพียงพอที่จะทำให้รถวิ่งได้ไกลราว 240 กิโลเมตร!! (150miles) และต่อยอดเอาไปพัฒนาด้านอื่นๆได้อีกมากคาดว่าจะสร้างยอดขายได้มหาศาล กำจัดปัญหาแบตหมดไว ไม่พอใช้งานในหนึ่งวัน และบำบัดโรคติดเสาของผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้หมดสิ้นไป
เอ่อ ไม่ทราบว่ามีให้ซื้อหุ้นหรือแบคมั้ยครับ…ขอทุ่มเงินหมดตัว ขายบ้าน ขายรถ ขายทุกสิ่งอย่างไปลงทุนด้วย ณ บัดเดี๋ยวนี้เลย 😛
ที่มา The Guardian via BGR
เนี้ยหละที่ตามหามานาน
ถ้าแบต 3000 MAh แล้วใช้เวลาสักไม่เกิน 5 นาทีก็โอเคแล้ว 😀
1 นาทีนี่ สุดยอด แค่เดินไปล้างมือก็กลับมาถอดปลั้กใช้งานได้เลย
ถ้าเอาเทคโนโลยีนี้+กับ wireless charging ล่ะก็ …
มันจะระเบิดง่ายไหม
แต่ถ้าไวขนาดนี้ ประหยัดเวลาได้เยอะเลยในแต่ละวัน
ที่ชาร์ต น่าจะใหญ่และหนัก เหมือนหม้อแปลงเลยนะ
ไม่อยากคิดถึง ถ้าลัดวงจรขึ้นมานี่เหมือนระเบิดขนาดย่อมๆ
กับมือถือคงใช้เวลาอีกซักพัก เพราะเรื่องของขนาด และ กำลังไฟในการชาร์ต
แต่ถ้ากับรถยนต์ ยิ่งถ้าจับมือกับ tesla motors นี่ อะไรจะเกิดขึ้นกับรถยนต์สันดาป ในปัจจุบัน น่าคิดมาก
แบทน้อยไม่กลัวเลย ถ้าชาท 1 นาที 555+
แต่มันจะชาทได้สะดวกกับทุกอุปกรณ์หรือเปล่า หรือว่าต้องชาทอุปกรณ์เฉพาะ
เดี๋ยวก็พัฒนาไปอีก
80A เฮือก!!
ท่าทางคงต้องเสียบตรงอย่างเดียว เพราะปลั๊กสามตามันไม่น่าเอื้อ
ขนาดของผมเป็นแบบแพงยังเขียนว่า เสียบรวมกันได้ไม่เกิน 16A
ถ้าซื้อตามท้องตลาดทั่วไป คงจ่ายไฟรวมกันไม่เกิน 10A
ถ้าเทคโนโลยีนี้มาจริง คงต้องเสียบตรงอย่างเดียว
80A จริงๆ ต้องดูว่าที่กี่โวลท์ด้วยครับ
หรือพูดง่าย ๆ ว่าต้องดูว่ากี่ Watt
ไอ้ปลั๊กที่คุณบอกว่า 16A อ่ะเค้าคิดที่ 220V หรือรวมแล้วไม่เกิน 220V x 16A = 3520 Watt
ถ้าคิดเท่าความจุของ Li-on คือ 3.7V เพื่อให้มือถือทำงานได้โดยไม่ต้องแก้ไขแรงดันพื้นฐาน
80A * 3.7V ~ 300 Watt โดยประมาณ ดูแล้วอย่าเรียกว่าชาร์ทเลยเถอะ เรียกว่าวิธีอัดประจุดีกว่า แบบถีบตูมเดียว เข้าไปเต็มก้อนเลยประมาณนั้น มันก็จะเกิดความร้อนขึ้นเยอะอยู่
ในทางปฏิบัติ ถ้าเพิ่มระยะเวลาแต่ ลดกระแสที่อัดเข้าไปลง สัก 5 เท่า ให้เหลือสัก 5 นาที ก็ใช้พลังงานแค่ 60 Watt หรือ 16A เท่านั้นเอง รอนานขึ้นนิดแต่ลดขนาดอุปกรณ์ลงได้ ต้นทุนการผลิตเครื่องชาร์ทก็จะลดลงได้อีก สุดท้ายก็ต้องดูว่าออกจาก Lab วิจัยแล้วมันจะเอาไปใช้เชิงปริมาณได้อย่างไรบ้าง
อ่านแล้วโอเลยครับ วิชาการดี
จริงครับ นานขึ้นแต่ยังอยู่ในช่วง 5-15 นาทีนี่ผมก็ยังว่าโอเคอยู่นะ คงไม่ต้องรีบกันขนาดไหน เน้นปลอดภัย, ราคา, ปริมาณแบตน่าจะตอบโจทย์มากกว่านะ
เข้าใจว่า
ปกติ จะหมายถึง 5V x 2.1A = 10.5W
ดังนั้น 80A ก็คูณ 5V = 400W
ถ้าไฟบ้าน 220V
ก็จะเป็น 400W / 220V = 1.81A เท่านั้น
ที่อ้างอิง 5V กันเพราะว่า ต้องการใช้ไฟจาก USB ได้ไงครับ
แต่ถ้าจะสร้างระบบขึ้นมาใหม่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอ้างอิง 5V ครับ
3.7 คือแรงดัน cell li-on ที่ใช้งานปกติอยู่ ไม่จำเป็นต้องออกแบบโทรศัพท์ใหม่ แก้ไขเฉพาะส่วนชาร์ทก็พอ
แค่ note4 ก็ ชาจน์ เร็วพอเเร๊วว พี่….
เราคงจะได้เห็นอาซาและคอสต้าฟิตปั๋งหลังจากชาร์ตไฟไม่กี่วิแล้วสินะ
ถ้าตดเหม็นมากๆอ่ะ
เค้ากลัววระเบิดด
แปลกๆ นะ.. ที่เสี่ยหมีที่เป็นคนขายน้ำมัน… แล้วมาสนับสนุนนักพัฒนาสิ่งที่จะมาทดแทนน้ำมัน…
เค้าคิดอะไรอยู่?
เพราะเค้ามองการไกลอะจิครับ ปิโตเลียมวันนึกก็ต้องหมดไป
ถ้าเทคโนโลยีโซล่าเซลล์ สร้างพลังงานไฟฟ้าและอัดประจุได้เร็วแบบนี้ด้วยก็คงดีนะ
คงไม่มีวันที่อุปกรณ์ต่างๆจะหมดกำลังไฟฟ้าแน่ ขอแค่มีพลังงานจากแสงอาทิตย์