เรียกได้ว่าในงานเปิดตัว Surface รุ่นใหม่ครั้งนี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเพียบ ซึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลท์เด็ดและเป็นตัวท็อปรุ่นใหม่ประจำปีนี้นั่นก็คือเจ้า Surface Laptop Studio ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสและขาตั้งแบบใหม่ Flip-down กางหน้านอนไปกับคีย์บอร์ดได้ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับปากกาได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งสเปคอะไรต่าง ๆ กับอัปเดตใหม่ล่าสุดด้วย ไม่ว่าจะเป็นซีพียู Intel Gen 11 และการ์ดจอแยก NVIDIA RTX 3000 Series


ในส่วนของดีไซน์ Surface Laptop Studio ถือว่าแตกต่างไปจาก Surface Book 3 อดีตรุ่นท็อปเก่าจากเดิมพอสมควร เพราะขาตั้งออกใหม่แบบฉีกกางเป็นจอวางตั้งได้ และสามารถทำแนบติดไปกับคีย์บอร์ดก็ได้เลยเช่นกัน ซึ่งจะให้อารมณ์คล้าย ๆ Acer ConceptD ที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้

สำหรับหน้าจอ Surface Laptop Studio จะมาพร้อมกับขนาด 14.4″ PixelSense สัดส่วน 3:2 เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีอัตรา Refresh Rate สูงถึง 120Hz จัดเต็ม เอามาใช้งานขีดเขียนร่วมกับปากกา Surface Slim Pen 2 หรือทัชไปมาได้อย่างลื่นไหล หรือจะเอามาเล่นเกมทำเฟรมเรทสูง ๆ ภาพก็ไม่มีฉีกขาด

คีย์บอร์ดตัวเครื่องยังใช้ดีไซน์เดิม ไม่มี Numpad การวาง Layout ต่าง ๆ จะเหมือนกับรุ่นอื่นไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ซึ่งส่วนตัวชอบดีไซน์คีย์บอร์ดของ Surface อยู่แล้ว เพราะเขาย้ายปุ่ม Delete ไปมุมขวาสุดแทนปุ่มเปิดเครื่องที่แบรนด์อื่นชอบใส่กัน เวลาพิมพ์จะได้ไม่หวืดไปโดนนั่นเอง กดทีกลายเป็น Sleep ต้องเสียเวลาเปิดอีก

ที่น่าสนใจคือทัชแพดของ Surface Laptop Studio จะมาพร้อมกับ Precision Haptic ขนาดใหญ่กว่าเดิม พร้อมเพิ่มเซ็นเซอร์ในการตรวจจับการใช้งานมัลติทัช ทำให้การใช้งานหลาย ๆ นิ้วพร้อมกันบนทัชแพดสามารถทำงานได้ไหลลื่นขึ้น แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำเพื่อมารองรับการใช้งานใหม่ ๆ บน Windows 11 นั่นเอง

ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ตัวเครื่องถือว่าให้มาค่อนข้างน้อย โดยทางฝั่งซ้ายมือจะมีพอร์ต Thunderbolt 4 ทั้งสองหมด 2 ช่อง และทางด้านขวาจะมีแค่พอร์ต Surface Connect port  ที่ไว้สำหรับชาร์จไฟหรือต่ออุปกรณ์เสริม กับรูเสียบหูฟัง Headset 3.5mm เท่านั้น ตัดพวกพอร์ต USB-A และ SD Card Reader ทิ้งออกจาก Surface Book 3 หมดเลย ส่วนหน้าด้านตัวเครื่องจะเป็นที่เก็บปากกาดูดติดกับเครื่องด้วย

ถัดมาดูดีไซน์ภายในตัวเครื่อง Surface Laptop Studio จะเห็นได้ว่าการวางเลย์เอาท์ต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสวยและแปลกเหมือนกัน โดยเฉพาะตัวพัดลมระบายความร้อน ซึ่งตัวเครื่องให้มาถึง 2 ตัว แต่กลับวางไว้อยู่ที่ด้านล่างคีย์บอร์ดตรงที่วางข้อมือ ถ้าเป็นโน้ตบุ๊ครุ่นอื่น ๆ ปกติจะวางไว้ด้านบนและเปล่าลมออกด้านหลังแทน ซึ่งการใช้งานจริงจะเป็นยังไงคงต้องรอดูรีวิวทดสอบกันครับ

สเปค Surface Laptop Studio

  • หน้าจอ PixelSense Flow Display ขนาด 14.4 นิ้ว ความละเอียด  2400 x 1600 รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz อัตราส่วน 3:2
    • รองรับ Dolby Vision
    • รองรับ Surface Pen
    • สัมผัสได้ 10 จุดพร้อมกัน
  • CPU : Intel Core i5-11300H / i7-11370H (TDP 35W)
  • GPU : Intel Iris Xe Graphic (i5) / NVIDIA RTX 3050Ti (i7)
  • RAM : 16GB / 32GB LPDDR4x
  • ความจุ (SSD) :  256GB / 512GB / 1TB / 2TB
  • Webcam : 1080p / รองรับการสแกนใบหน้า
  • ลำโพง : Quad Omnisonic ระบบเสียง Dolby Atmos
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1
  • พอร์ต : Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต, Surface Connect จำนวน 1 พอร์ต, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 58 Wh (เคลมใช้งานได้สูงสุด 19 ชั่วโมง)
  • น้ำหนัก : 1.74 Kg (i5) / 1.82 Kg (i7)
  • ขนาด : 323.28 x 228.32 x 18.94 mm
  • OS : Windows 11

ราคา Surface Laptop Studio

  • i5 + RAM 16GB + SSD 256GB : ราคา 1,599 เหรียญ (ราว 53,500 บาท)
  • i5 + RAM 16GB + SSD 512GB : ราคา 1,799 เหรียญ (ราว 60,200 บาท)
  • i7 + RAM 16GB + SSD 512GB : ราคา 2,099 เหรียญ (ราว 70,200 บาท)
  • i7 + RAM 32GB + SSD 1TB : ราคา 2,699 เหรียญ (ราว 90,300 บาท)
  • i7 + RAM 32GB + SSD 2TB : ราคา 3,099 เหรียญ (ราว 103,700 บาท)

 

ที่มา : microsoft, tomsguide, digitaltrends