ไมโครซอฟท์ทยอยเลิกแถมอะแดปเตอร์แปลงไฟมาในกล่อง Surface Pro 11 ที่วางจำหน่ายในประเทศในเครือสหภาพยุโรป หรือ EU แล้ว พร้อมเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่เป็นกล่องที่มีขนาดบางลง (ขายในราคาเดิม) คาดว่าความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการกระทำเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามแนวทาง common charging ภายใต้กฎ Radio Equipment Directive ของ EU ที่จะมีผลบังคับใช้กับสินค้ากลุ่มแล็ปท็อปในเดือนเมษายนปีหน้า
EU มองว่าการบังคับใช้พอร์ต USB-C เป็นมาตรฐานกลางเพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้แนวทาง common charging บรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ ตราบใดที่ผู้ผลิตสินค้ายังแถมหัวชาร์จของใครของมันอยู่ เนื่องจากหัวชาร์จเป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้ซ้ำได้ และลูกค้าส่วนใหญ่มักจะมีหัวชาร์จในครอบครองอยู่แล้ว EU จึงออกคำแนะนำให้ผู้ผลิตเลิกแถมหัวชาร์จมาในกล่อง

หากสั่งซื้อ Surface Pro 11 ใน EU ผ่านเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์โดยตรง ไมโครซอฟท์จะเสนอหัวชาร์จ 65W เป็นตัวเลือกเสริมในราคาหั่นครึ่ง จาก 80 ยูโร เหลือ 40 ยูโร (ของเดิมเป็น 39W) ตรงส่วนนี้ก็เป็นไปตามกฎของ EU เช่นกัน ในข้อที่กำหนดให้ผู้ผลิตต้องแทรกตัวเลือกหัวชาร์จไว้ในหน้าสั่งซื้อ พร้อมแสดงฉลากให้ชัดเจน กรณีที่ต้องการจำหน่ายแยก
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีเฉพาะ Surface Pro 11 ใน EU เท่านั้นที่ถูกตัดหัวชาร์จออก กรณี Surface Laptop 7 ยังมีแถมให้อยู่ ทั้งรุ่นจอ 13.8 นิ้ว และรุ่นจอ 15 นิ้ว ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่เหลือทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
อ้างอิง : Microsoft | European Commission | European Union
ด่ากันอีกไหม ว่าลดราคาหรือเปล่า เอาหัวออกเนี่ย
ฟังดูสวยหรู แต่ technology gadget นี่แหละตัวสร้างขยะมลพิษ สมัยก่อน product life cycle ยาวมาก เดี๋ยวนี้สั้นสุด ๆ จะเรียกว่าดำเนินธุรกิจแบบ conspiracy theory (ทฤษฎีสมคบคิด) รึป่าว ไม่รู้ เพราะมันสอดรับกันไปหมด
เห็นด้วยครับ ข้ออ้างกากๆที่ทำมาเพื่อลดต้นทุน ราคาขายก็เท่าเดิมและแพงขึ้นแต่ทำลดของ แล้วบอกลดโลกร้อน แถมพังไวแบตเสื่อมไวอีกเพราะชารทไว