สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Nothing กำลังจะเปิดระดมทุนรอบใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อขยายการทำตลาดในประเทศต่าง ๆ ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมขยายไลน์อัปสินค้าในเครือ เพิ่มเติมจากสมาร์ตโฟน สมาร์ตวอตช์ และหูฟังไร้สาย ตรงตามแผนเดิมที่ซีอีโอ Carl Pei เคยให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ไว้ตั้งแต่ 3 ปีก่อน แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าเป็นสินค้าประเภทใด
Carl Pei ซีอีโอของ Nothing ส่งอีเมลหาพนักงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แจ้งให้ทุกคนเตรียมกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่า ต้องการให้พนักงานมีการทำงานร่วมกันระหว่างทีม เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าให้เหนือกว่าบริษัทคู่แข่ง ขณะเดียวกัน Pei ก็แนะนำว่า หากพนักงานรายใดไม่สะดวกใจต่อนโยบายใหม่นี้ ก็ควรเปลี่ยนงานใหม่ที่เอื้อต่อความก้าวหน้าของตน
แม้ปีนี้ Nothing Phone (3) มือถือเรือธงของค่ายมีอันต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไปเป็นปีหน้า เนื่องด้วยเหตุผลด้านความพร้อมของฟีเจอร์ด้าน AI แต่ Nothing OS 3.0 ที่เป็นฝั่งระบบปฏิบัติการ ยืนยันแล้วว่าไม่เลื่อน ล่าสุด Carl Pei ผู้เป็นซีอีโอ จัดสปอยล์ล่วงหน้าออกมา 1 โพสต์ เผยให้เห็นถึง UI ใหม่บางส่วน พร้อมบอกขอโทษ (ทีมพัฒนา) โดยให้เหตุผลว่ารู้สึกตื่นเต้นจนอดไม่ไหวจริง ๆ
Nothing เปิดตัว phone (1) มือถือรุ่นแรกของแบรนด์เมื่อปีที่แล้ว มีความโดดเด่นในส่วนของฝาหลังแบบโปร่งใส และไฟ LED ที่เรียกว่า Glyph interface ก่อนจะถ่ายทอดมายัง phone (2) ในปีนี้ ซึ่งถูกผู้ผลิตมือถือและผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมหลายราย นำดีไซน์ดังกล่าวไปเป็น ‘แรงบันดาลใจ’ ในการออกแบบ โดยที่ Nothing ไม่ยินยอม – อย่างไรก็ดี ล่าสุด Nothing ได้ประกาศจับมือ CASETiFY ทำเคสลาย Nothing สำหรับ iPhone ออกมาขายเองแล้ว
แน่นอนว่าเมื่อมีสินค้าใหม่ ๆ ที่ล้ำหน้าเกินใครในตลาด ก็อาจสร้างแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ แบรนด์ทำตาม และล่าสุด Infinix แบรนด์มือถือสุดคุ้มที่ช่วงนี้ฮอตเป็นพิเศษ ก็ได้ซุ่มพัฒนามือถือซีรีส์ใหม่สำหรับคอร์เกมโดยเฉพาะภายใต้ชื่อซีรีส์ GT ซึ่งก็มีรูปโครงร่างดีไซน์เครื่องรุ่นที่ว่าออกมาแล้ว แต่หน้าตามันดันคุ้น ๆ คล้ายมือถือของอีกแบรนด์ซะงั้น…
Carl Pei อดีตผู้ก่อตั้ง OnePlus ที่ออกมาทำแบรนด์ Nothing ของตัวเอง ก็ไม่เคยอายที่จะออกมาคอมเมนต์และรีวิวมือถือค่ายต่าง ๆ อย่าง iPhone ของ Apple แถมล่าสุดยังออกมารีวิวมือถือจากบริษัทเก่าตัวเอง OnePlus 11 ที่เพิ่งเปิดตัวไป ออกปากชมหลายด้าน แต่ก็ยังไม่วายเหน็บเล็กน้อยว่าเครื่องสวย แต่ไร้ตัวตนที่ชัดเจน
Nothing phone (1) ปล่อย Android 13 Beta 2 ออกมาแล้ว โดยเปิดให้อัปเดทในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งการอัปเดทครั้งนี้ มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่จำเป็นต่อเครื่องลงไป อย่างแอปสภาพอากาศ การปรับหน้าล็อกสกรีน หรือการเพิ่มลูกเล่นเสียงริงโทนชุดใหม่เข้ามา นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกให้สามารถปรับปรุงอายุแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
Nothing เปิดตัว ear (stick) หูฟังไร้สายรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศราคา 99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,799 บาท — ในแง่ดีไซน์คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก เนื่องจากตัวหูฟังถูกเผยโฉมให้ดูล่วงหน้ามาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว แต่ภายในมีการเปลี่ยนแปลงหลายส่วน ตรงตามที่ Nothing เคยระบุว่า ear (stick) จะเป็นสินค้าใหม่หมดจด ไม่ใช่การนำ ear (1) รุ่นเดิมมาเปลี่ยนเคสอย่างที่บางคนเข้าใจ
Carl Pei ประกาศปรับราคาหูฟังไร้สาย Nothing ear (1) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกภายใต้แบรนด์ Nothing จากเดิม 99 ดอลลาร์ เพิ่มเป็น 149 ดอลลาร์ โดยจะมีผลตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป — ตัว Pei ระบุเหตุผลการขึ้นราคาด้วยปัจจัยด้านต้นทุน แต่มีการวิเคราะห์กันว่า ปัญหาหลักคงมาจากภาวะเงินเฟ้อเสียมากกว่า ซึ่งบริษัท Nothing ที่จดทะเบียนในกรุงลอนดอนนั้นได้รับผลกระทบจากเงินปอนด์อ่อนค่าไปเต็ม ๆ
ในขณะที่ผู้ผลิตมือถือหลายค่ายต่างเตรียมความพร้อมไปสู่ Android 13 และดูมีความเคลื่อนไหวที่จับต้องได้และเป็นรูปธรรม ตรงข้ามกับ Nothing ที่ยังดูนิ่งเงียบอยู่ แต่ถึงกระนั้น phone (1) ก็ได้รับการอัปเดตย่อยมา 4 หน จนถึง Nothing OS 1.1.4 แล้ว ซึ่งรวม ๆ จะเน้นไปที่ประสิทธิภาพกล้องเป็นหลัก — ทาง Nothing จึงถือโอกาสนี้ออกบล็อกโพสต์เพื่อแสดงให้เห็นว่า กล้องของ phone (1) ดีขึ้นเพียงใด เมื่อเทียบเฟิร์มแวร์แรกกับเฟิร์มแวร์ปัจจุบัน
