งานนี้ท่าทางจะมีดราม่าแน่นอนถ้าเป็นเรื่องจริง เมื่อทาง PhoneArena ได้ให้ข่าวออกมาว่า Samsung Galaxy Note 4 มีการเลือกใช้โมดูลกล้องสองตัว โดยเครื่องที่ใช้ชิพเซท Qualcomm Snapdragon จะใช้เป็นเซนเซอร์ของ SONY_IMX240 ส่วนตัวที่เป็น Samsung Exynos จะใช้ ISOCELL ของ Samsung เอง ซึ่งแน่นอนว่าคุณภาพของสองตัวนี้ไม่เหมือนกัน และ ISOCELL ที่ถูกใช้บน Galaxy S5 ก็โดนตั้งคำถามอยู่บ่อยครั้งว่ามันทำได้อย่างที่โฆษณาเอาไว้หรือเปล่า
เริ่มเห็นคนใช้ Samsung Galaxy Note 4 กันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยจะมาขอแชร์ Tips ในการใช้งานเครื่องนี้กันสักหน่อย เนื่องจากตอนนี้ก็ใช้งานเจ้าสมาร์ทโฟนสมุดจดรุ่นที่ 4 นี้อยู่เช่นกันและมีการปรับแต่งค่าหลายๆตัวบางอย่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งานอีกมาก โดย Tips ที่เอามาแชร์นี้บางข้อสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับของ Samsung Galaxy เครื่องอื่นๆ หรือ Android แบรนด์อื่นได้เหมือนกันนะครับ ยังไงลองดูผ่านๆกันได้
Antutu เจ้าของ App ชื่อดัง Antutu Benchmark ที่ใช้ทดสอบประสิทธิภาพอุปกรณ์มือถือต่างๆ ได้ทำการประกาศ "10 อันดับสมาร์ทโฟนสุดแรงแซงทางทางโค้งประจำไตรมาสที่ 3 ของปีนี้" ออกมาแล้ว สมาร์ทโฟนที่จัดว่าแรงที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้คือ Meizu MX4 ตามมาด้วย Samsung Galaxy Note 4 ที่ได้อันดับสองและ Samsung Galaxy Alpha ที่ได้อันดับสามไป โดยคะแนน benchmark ของทั้ง 3 รุ่นถือว่า "สูสีกันมาก" โดยห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยคะแนน ในขณะที่อันดับ 4 ลงไปถือว่าห่างพอสมควร โดยคะแนนทั้งหมดมาจากการเฉลี่ยผล benchmark ที่ผู้ใช้ส่งเข้ามาให้นั่นเอง
ในปีนี้นอกจากความพยายามในการเพิ่มความจุของแบตเตอรี่จากแบรนด์ต่างๆ เช่น Huawei Ascend Mate 7 ที่ให้แบตมาเยอะถึง 4100mAh อีกวิธีการแก้ปัญหาเรื่องแบตหมดไวก็จะเป็นเทคโนโลยีการชาร์จแบตเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีโทรศัพท์จากสองค่ายที่กำลังโปรโมตความสามารถนี้อยู่ นั่นคือ Oppo Find 7 ที่ใช้ VOOC กับ Samsung Galaxy Note 4 ที่ใช้ Fast Charge ซึ่งวันนี้เดี๋ยวจะลองมาทดสอบกันว่าทั้งสองตัวนี้ชาร์จได้ไวแค่ไหน โดยเปรียบเทียบกับ iPhone 6 ที่ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จไวมาให้ด้วยครับ
หลังจากที่ Samsung Galaxy Note 4 วางขายไปได้ราวๆ 1 เดือน ก็มีรายงานข่าวจากทางเกาหลีว่า Samsung สามารถทำยอดขายจาก Galaxy Note 4 ไปได้ราวๆ 4.5 ล้านเครื่องจากทั่วโลกหลังจากวางขายเป็นครั้งแรก (26 กันยายน) ต่ำกว่าตอนที่ Galaxy Note 3 ทำได้ในเดือนแรกราว 5 แสนเครื่อง ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากที่ Galaxy Note 4 เริ่มวางขายในเกาหลีและจีนเป็นหลัก และเพิ่งขยายไปประเทศอื่นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
หลังจากที่วางขายแบบให้พอเป็นกระสัยเมื่อช่วง Mobile Expo ต้นเดือนที่ผ่านมา ในที่สุด Samsung ก็ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ GALAXY Note 4 มาสักที โดยจะเริ่มขายในวันเสาร์นี้ (18 ตุลาคม) ใน Samsung Brand Shop 141 สาขาทั่วประเทศก่อน ส่วนร้านอื่นๆจะค่อยๆทยอยส่งไปวางจำหน่ายภายใน 1 สัปดาห์ และสีมีเพียงสี ขาวและดำ ให้เลือกเท่านั้น และอีกข่าวสุดช็อคคือ Galaxy Alpha ที่เพิ่งวางจำหน่าย ประกาศลดราคา 2,000 บาทไปแบบสายฟ้าแลบ แต่ไม่ต้องโกรธกริ้วไปสำหรับคนที่ซื้อไปเป็นคนแรกๆ เพราะทาง Samsung เค้ายินดีคืนเงินส่วนต่างให้จ้า :)รายละเอียดเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ข่าว #BendGate ฟีเจอร์งอได้ของ iPhone 6 Plus ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกจากการทดสอบของช่อง Unbox Theraphy บน YouTube ซึ่งก็มีเหล่าแฟนบอยของ Apple เข้าไปแซะผู้ทดสอบว่าทำไมเล่นแต่ฝั่งของ iPhone 6 ทำไมไม่ยอมทดสอบ Galaxy Note 4 บ้าง ทำไมทดสอบแค่เพียง Galaxy Note 3 ที่เป็นรุ่นเก่าเท่านั้น ทำให้นาย Lewis Hilsenteger ต้องไปควักเงินไปซื้อ Galaxy Note 4 มางอให้ดูตามกันไป ซึ่งผลการทดสอบก็ออกมาว่า Samsung Galaxy Note 4 ก็สามารถงอได้ เพียงใช้มือเปล่าดัน ไม่ต่างจาก iPhone 6 Plus เหมือนกัน แต่...มีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต่างกันไป ส่วนมันคืออะไรเราไปชมพร้อมๆกันเลยครับ
สำหรับใครที่พลาดการซื้อ Galaxy Note 4 จากงาน Thailand Mobile Expo เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วอยากจะเดินหาซื้อตามร้านบอกเลยว่ายังไม่ต้องรีบนะครับ เพราะของยังไม่มี ตรวจสอบแล้วกับทาง Samsung Thailand โดยล็อตที่เข้ามาขายในงานนั้นเป็นล็อตพิเศษจำนวนจำกัดจริงๆเท่านั้น ซึ่งเจ้า Galaxy Note 4 จะเริ่มเปิดขายในประเทศไทยอีกทีราวๆปลายอาทิตย์หน้านู่นเลย ตรงกับภาพ Infographic ด้านล่างที่ Samsung เคยปล่อยเอาไว้ก่อนหน้านี้ครับ
กลับไปดูบทสรุปเรื่องกล้อง http://goo.gl/XZKznxกลับไปดูภาพอีกเซท http://goo.gl/AwibbUกล้องหน้า iPhone 6 Plus vs Galaxy Note 4กล้องหน้า iPhoneกล้องหน้า Galaxy Note 4 : Beautify-0, Beautify-4, Beautify-8
สามารถโหลดภาพความละเอียดสูง ไฟล์ต้นฉบับได้จาก Dropbox เลยครับภาพแรกจะเป็นภาพของ iPhone 6 Plus และภาพที่ 2 จะเป็นของ Galaxy Note 4องศาของภาพที่รับได้ทั้ง iPhone 6 Plus และ Galaxy Note 4 จะพอๆกัน แต่ภาพทั้งสองดูต่างกันเพราะสัดส่วนของเซนเซอร์ Galaxy Note 4 ทำมาเป็น 16:9 ส่วน iPhone 6 Plus ทำมาเป็น 4:3ภาพทั้งหมดไม่ได้ผ่านการ Process ใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแค่ย่อขนาดลงมาเท่านั้น และตอนถ่ายก็เน้นไปที่ point&shoot จำลองการถ่ายให้ใกล้เคียงกับคนทั่วไปให้มากที่สุด
