จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวเผยว่ากูเกิลปล่อย Gemini Live ให้ใช้งานฟรีแล้ว เริ่มที่ Android ก่อน ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าเรายังไม่เคยพูดถึงเรื่องของตัวแอป Gemini บน Android เลย จึงได้หยิบมาพรีวิวให้ทุกคนดูว่าแอปนี้จะใช้งานง่ายขนาดไหน แล้วทำอะไรได้บ้าง จำเป็นต้อมีติดเครื่องมั้ย หรือใช้ Google Assistant เหมือนเดิมก็ได้ เข้ามาดูพร้อมกันเลยจ้า
MediaTek กำลังนำการสนับสนุน Gemini Nano มาสู่โปรเซสเซอร์ของบริษัทครับ โดยจะเริ่มจาก Dimensity 9400 ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Gemini Nano ได้ขยายการรองรับออกไปอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมบริษัท OEM และนักพัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้น และ AI แบบหลายโหมด ช่วยให้ Generative AI ของ Google สามารถทำงานในระดับที่เล็กลงได้บนทุกซีรีส์ของมือถือ Pixel และอุปกรณ์อื่นๆ
กูเกิลเริ่มปล่อยฟีเจอร์ Gemini Live ให้ผู้ใช้งาน Android ทั่วไปเข้าถึงได้ฟรีผ่านแอป Gemini แล้ว จากที่ในช่วงเปิดตัวเคยสงวนไว้เฉพาะผู้เป็นสมาชิก Gemini Advanced บน Google One ราคา 750 บาทต่อเดือนเท่านั้น
กูเกิลเปิดตัว Pixel Weather ในงาน Made by Google เป็นแอปพยากรณ์อากาศแบบสแตนด์อะโลนเต็มตัว ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแอป Google อีกต่อไปแล้ว พร้อมจุดเด่นคือ การผสานการทำงานร่วมกับ Gemini Nano เพื่อช่วยรายงานสภาพอากาศในแต่ละวัน แอปนี้มาพร้อม Pixel 9 series เป็นกลุ่มแรก และกูเกิลก็ยืนยันว่า Pixel Tablet ก็จะได้ใช้งานด้วยเร็ว ๆ นี้ พร้อมปรับ UI การแสดงผลเป็นสองคอลัมน์ ให้เหมาะกับหน้าจอขนาดใหญ่
สัปดาห์นี้ กูเกิลเปิดตัวมือถือในซีรีส์หลักสามรุ่น คือ Pixel 9, Pixel 9 Pro และ Pixel 9 Pro XL พร้อมอีกหนึ่งมือถือจอพับ Pixel 9 Pro Fold ในแต่ละรุ่นมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ โดยที่อย่างหลังจะเน้นหนักไปที่ Google AI และฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพเป็นหลัก ทั้งการอัปเดตของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทำงานได้ดีขึ้น และการใส่ของใหม่เข้าไปเพิ่มอีกหลาย ๆ อย่าง หากใครที่ไม่ทันดูเนื้อหาในงาน Made by Google ที่จัดค่อนข้างดึกก็ไม่เป็นไร เพราะ DroidSans สรุปฟีเจอร์เด่น ๆ ทั้งหมดมาให้แล้ว ในบทความนี้
Google เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ Google Pixel 9 ในรอบนี้ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอขนาดเท่าเดิมที่ 6.3 นิ้ว แต่จะมีการเปลี่ยนการออกแบบเล็กน้อย ตรงขอบตัวเครื่องมีความเหลี่ยมมากขึ้น และอะลูมิเนียมในตัวเครื่องยังผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100% รักษ์โลกมากกว่าเดิม และนอกจากนี้ มีการเปลี่ยนระบบเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ จากเดิมที่เป็นแบบออปติคอล เปลี่ยนมาเป็นแบบอัลตราโซนิค ทำให้มีความแม่นยำและมีความปลอดภัยมากกว่าเดิม
กูเกิลประกาศเพิ่มแท็บ Collections ในแอป Google Photos แทนที่ Library ของเดิม (ที่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว) แท็บนี้เป็นแท็บที่รวมอัลบัมต่าง ๆ ไว้ด้วยกันในที่เดียวให้สะดวกต่อการค้นหา ทั้งอัลบัมจากบนเครื่อง อัลบัมที่แชร์กับคนอื่น และอัลบัมรวมรูป คน สถานที่ เอกสาร หรืออื่น ๆ ที่แอปจับกลุ่มมาให้โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้คาดว่าเป็นการอัปเดตเพื่อให้รองรับการทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Ask Photos ที่โปรโมตไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
เมื่อ 3 ปีก่อน Google เคยมีแผนช่วยลดโลกร้อนอันยิ่งใหญ่ ตั้งเป้าหมาย Net Zero หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการต่าง ๆ อาจยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะรายงานด้านสิ่งแวดล้อมล่าสุดของ Google ในปี 2023 ระบุว่าบริษัทได้ปล่อยมลพิษสูงขึ้นถึง 13% เมื่อเทียบกับเมื่อปี 2022 และพุ่งขึ้นถึง 48% จากจุดเริ่มต้นในปี 2019 ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้พุ่งสูงขึ้นขนาดนี้มาจาก Data Center ที่ใช้เทรน AI นี่แหละ
กระแส AI ที่กำลังบูมไปทั่วโลก ณ เวลานี้ เกิดจากพัฒนาการด้านการทดลอง งานวิจัย และบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งนอกจากการทุ่มแรงกายและแรงเงินเพื่อพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ให้ฉลาดขึ้นแล้ว ยังต้องทุ่มเทกับการโฆษณาเพื่อดึงความสนใจจากคนทั่วไป ให้เกิดการรับรู้ และความอยากที่จะใช้เหล่าสินค้าและบริการ AI ด้วย จนหลายครั้งกลายเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค เมื่อคำโอ้อวดคุณสมบัติของ AI จากบริษัทเหล่านี้ กลับไม่ใช่ความจริงของสินค้า
Galaxy AI ของฝั่ง Samsung เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่เข้ามาพลิกหน้าวงการสมาร์ทโฟน เป็นหนึ่งในผู้เปิดประตูให้เข้าสู่ยุค AI Phone อย่างเป็นทางการ และในงาน WWDC 2024 ผ่านมา Apple ก็ไม่ยอมตกขบวน โดยได้เปิดตัว Apple Intelligence ฟีเจอร์ AI ที่เปิดให้ใช้ครอบคลุมทั้งบน iPhone, iPad และ macOS เราเลยลองจับ AI จากทั้งสองฝั่งมาเปรียบเทียบให้ดูกันว่าทั้งสองค่าย มีอะไรที่เหมือน หรือต่างกันยังไงบ้าง