ในเหตุฉุกเฉินที่ผ่านมา ไม่ว่าจะน้ำท่วมฉับพลัน สึนามิ แผ่นดินไหว ที่มีการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินมากมาย ทุกครั้งจะมีคนพูดถึงระบบ Cell Broadcast หรือระบบแจ้งเตือนภัยจากทางเครือข่าย ที่จะส่งข้อความไปยังสมาร์ทโฟนทุกเครื่องได้ทันที ซึ่งเป็นมาตรฐานที่หลายประเทศทำได้ และในวันนี้ทางเครือข่ายร่วมกับ กสทช.และหน่วยงานรัฐ ก็ได้เริ่มทำการทดสอบความเป็นไปได้ (PoC) ของระบบ Cell Broadcast เพื่อให้ใช้งานได้จริงในปีหน้า

แจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ดีอย่างไร

Cell Broadcast เป็นการแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ ผ่านระบบเครือข่าย โดยผู้ใช้ไม่ต้องลงแอปเพิ่ม และข้อความจะมีความสำคัญสูงสุด ขึ้นเตือนเสมอไม่ว่าเราจะใช้งานอะไรอยู่ โดยข้อความจะมีขึ้นกำกับว่า “การแจ้งเตือนระดับสูง” ตัวระบบสามารถส่งข้อความไปได้สูงสุด 1 ล้านเลขหมาย ภายใน 1 นาที ตอบโจทย์การแจ้งเตือนเมื่อเกิดภัยพิบัติ เหตุด่วนเหตุร้ายในพื้นที่ ได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที โดยผู้ใช้ทุกเครือข่ายทั้ง AIS, true, dtac, NT สามารถใช้งานได้

ขั้นตอนการแจ้งเตือน

เมื่อไหร่ที่เกิดเหตุ ก่อนจะแจ้งเตือนต้องผ่านขั้นตอนส่วนใดบ้าง

เกิดเหตุภัยพิบัติ >> คนแจ้งเหตุ >> ปภ. >> ส่งคำสั่งไปเครือข่าย >> กระจายสัญญาณไปยังคนในพื้นที่

ปัจจุบัน ระบบของแต่ละเครือข่ายมีความพร้อมที่จะใช้งานได้ทั่วประเทศ แต่จะแจ้งเตือนได้เร็วขนาดไหน จะขึ้นกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งก็คือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย หรือ ปภ. ที่รับผิดชอบ และเป็นคนกดปุ่มสุดท้ายก่อนทำการแจ้งเตือน โดยเครือข่ายจะรับข้อมูลข้อความที่ต้องการส่ง และตำแหน่งแจ้งเตือน มาและกระจายต่อต่อไป

ระดับการแจ้งเตือนภัย มี 5 ระดับ

  1. แดง ระดับ 5 อันตรายสูงสุด ประชาชนต้องอพยพไปที่ปลอดภัย และปฏิบัตตามข้อสั่งการ
  2. ส้ม ระดับ 4 เสี่ยงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมสถานการณ์ ปชช.ควรอพยพ
  3. เหลือง ระดับ 3 เสี่ยงอันตราย มีแนวโน้มจะรุนแรง ปชช.ควรเตรียมพร้อม
  4. น้ำเงิน ระดับ 2 สถานการณ์เฝ้าระวัง ปชช.ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดทุก 24 ชม.
  5. เขียว ระดับ 1 ภาวะปกติ

ข้อมูลน่ารู้

  • ข้อมูลแจ้งเตือนจะเร็วขนาดไหน ขึ้นกับการแจ้งภัยจากที่เกิดเหตุด้วย
  • ยังไม่มีการยืนยันว่าจะต้องโทรแจ้งภัยไปที่ไหน
  • หน่วยงานสามารถเลือกพิกัดการแจ้งเตือนได้
  • ปภ. ได้มีการพัฒนาซอฟท์แวร์ ในการยิงข้อความแจ้งเตือนตรงนี้เอง
  • เครือข่ายต้องทำการเตรียม API ขึ้นมาตาม Requirements ของปภ.

ข้อจำกัด

  • ปัจจุบันยังเป็นแค่การทดสอบความเป็นไปได้ (Proof of Concept) เท่านั้น ยังไม่เริ่มใช้งานจริง
  • กำหนดใช้งานจริงราวไตรมาส 2 ปี 2568 ในบางพื้นที่
  • เฉพาะ Android 11 และ iOS 10  ขึ้นไป

ที่มา ข่าวประชาสัมพันธ์ และงานแถลงข่าว