ชีวิตคนเราวันๆ นี่แทบจะต้องมีมือถือติดตัวอยู่ตลอดเวลาจนจะกลายเป็นอวัยวะส่วนนึงในร่างกายไปแล้ว และแน่นอนว่าการจิ้มมือถือเล่นนานๆ แบตจะหมดต้องเสียบสายชาร์จทีนี้ก็จะไม่สะดวกกันล่ะ เพราะต้องคอยระวังสายจะไปเกี่ยวกับอะไรเข้า ขยับมากหน่อยสายหลุดอีก จะใช้แท่นชาร์จไร้สายก็หมดสิทธิ์เล่นเพราะต้องวางไว้กับที่ วันนี้เราจึงขอเสนอ The MotherBox ที่ชาร์จไร้สายระยะไกล
[youtube https://www.youtube.com/watch?v=HYUlsjSU3HY]
The MotherBox ไม่เหมือนที่ชาร์จไร้สายทั่วๆไป ที่ต้องวางเอาไว้บนแท่นเพื่อทำการชาร์จมือถือแบบนิ่งๆ ขยับออกมาห่างนิดนึงก็ชาร์จไม่ได้แล้ว แต่ The MotherBox นั้นจะเป็นที่ชาร์จมือถือรูปร่างทรงกลมหลายเหลี่ยม (ไม่รู้จะเรียกยังไงดี) แค่เราเสียบสายไฟจากที่ชาร์จตัวนี้เข้ากับปลั๊กไฟบ้าน วางไว้บนหัวเตียง หรือโต๊ะทำงาน ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับมือถือที่อยู่ในระยะ 20 นิ้ว ได้โดยที่ไม่ต้องเสียบสายเข้ากับมือถือ และไม่ต้องวางบนแท่น จะขยับ จะหมุน จะเล่นเกม ท่าไหนก็ได้ขอแค่อยู่ในระยะ 20 นิ้วก็พอ แถม The MotherBox 1 ตัว ยังสามารถชาร์จมือถือได้ 3 – 4 เครื่องพร้อมกันอีกด้วย
The MotherBox ต้องใช้งานร่วมกับแผงรับสัญญาณไฟฟ้าที่เป็นแผ่นบางๆเท่ากระดาษซ้อนกัน 2 – 3 แผ่น เสียบเข้ากับช่องชาร์จ USB พับซ่อนเอาไว้หลังเครื่องแล้วใส่เคสทับได้สบายๆ แถมยังใช้งานได้หมดทั้ง Android และ iOS
หรือถ้าจะออกไปข้างนอกก็ยังมี The MotherBox Mini ที่เป็นแบตเตอรี่สำรองไร้สายขนาดเล็กที่สามารถชาร์จมือถือแบบไร้สายได้เช่นกัน แต่จะลดระยะทางการชาร์จลงเหลือที่ประมาณ 10 นิ้ว และยังมี app สำหรับเตือนบนหน้าจอมือถือว่าพลังงานใน The MotherBox Mini เหลืออยู่เท่าไหร่ (ความจุ 7,000 mAh)
และหากใครคิดว่าการปล่อยคลื่นจาก The MotherBox ออกมาชาร์จเพื่อชาร์จมือถือจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงในระยะยาวรึเปล่า ก็หายห่วงได้ เพราะเทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุของ The MotherBox นั้นได้รับรองความปลอดภัยตามมาตรฐาน SAR (Specific Absorption Rate) ที่กำหนดเอาไว้ไม่ให้เกิน 1.6w ต่อเนื้อเยื่อร่างกาย 1 กก. แต่ The MotherBox นั้นส่งคลื่นออกมาเพียง 0.01w ต่อเนื้อเยื่อ 1 กก. เท่านั้นเอง
ตอนนี้ The MotherBox นั้นได้รับการระดมทุนทะลุไปกว่า 581% แล้วจากที่ตั้งเป้าเอาไว้ ถ้าใครสนใจจะเข้าไปช่วยระดมทุนก็เข้าไปได้เลยที่เว็บไซท์ Indiegogo โดยระดมทุน 89 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,115 บาท) จะได้รับ The MotherBox + สาย USB + แผงรับสัญญาณ และจะเริ่มส่งของในช่วงเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ที่มา : Indiegogo
ยังคงสงสัยครับ
เราต้องการประหยัดพลังงาน
ต้องการลดโลกร้อน
แต่ใช้ชาร์จไร้สาย
ตัวส่งสมมติปล่อยไป10Watt แต่วางเครื่องไว้ระยะใกล้ คิดตามพื้นที่ผิวตามแนวรัศมีอาจรับได้แต่0.4Watt ที่เหลือคือปล่อยทิ้งไว้เปล่าๆในอากาศ
มันควรเป็นแบบนี้จริงๆหรอ
เริ่มต้นเทคโนโลยี่ใหม่ ย่อมสิ้นเปลืองมากเป็นธรรมดาครับ
ดูอย่างรถยนต์รุ่นเก่าๆกินน้ำมันเยอะ ก็ค่อยๆพัฒนาให้กินน้อยลง
โดรนรุ่นแรกๆ สองสามปีก่อนบินได้ 2-3 นาที ตอนนี่ต่ำๆก็ 10 นาทีละ
เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆก็เช่นกัน อะไรที่ออกมาแรกๆกินไฟทั้งนั้น แล้วค่อยต่อยอดไปเรื่อยๆ
คือมันรองรับ Qi มั้ย
ไม่รับครับ Qi มันใกล้มาก