ถ้าหากว่าใครกำลงมองหา เกมมือถือ แนว Action RPG ภาพสวยแบบเบิ้ม ๆ จัดจ้านไปด้วยตัวละครและสกิลนับร้อยก็ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะวันนี้เราจะมารีวิว Torchlight Infinite เกมผจญภัยจากค่ายทอร์ชไลท์ ที่มีระบบการเล่นให้สาวกเกมได้หวดมอนเตอร์อย่างเมามัน ถ้าอยากรู้ว่าจะสนุกเหมือน Diablo Immortal หรือป่าว หรือว่าจะน่าสนใจขนาดไหนตามมาค่ะ
สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเกมนี้มีมาตั้งแต่ตอนไหน เราจะไล่ลำดับให้ฟัง Infinite เป็นเกมที่ 4 ในซีรีส์ Torchlight รายการแรกเปิดตัวในปี 2009 ตามด้วย Torchlight II ในปี 2012 ต่อมา Torchlight III เปิดตัวในปี 2020 ล่าสุดได้ถือกำเนิดเป็น Torchlight: Infinite นั่นเอง
รูปแบบการเล่น
เมื่อเราเข้ามาหน้าหลัก จะพบกับการเลือกตัวละคร ซึ่งภายในเกมนี้จะมีตัวละครให้เลือกมากถึง 6 สายอาชีพ ได้แก่ อาชีพ Berserker ฮีโร่สายบ้าคลั่งต่อสู้ในระยะประชิด, อาชีพ Divineshot ฮีโร่สายมือปืนศักดิสิทธิ์, อาชีพ Frostfire ฮีโร่สายเวทมนตร์ใช้ไฟและน้ำแข็ง, อาชีพ Trap Master ฮีโร่สายระเบิด, Spacetime Witness ฮีโร่สายเวทมนตร์ใช้พลังเวลาและอวกาศเข้าสู้, Commander ฮีโร่สาย Summoner ใช้พลังบังคับหุ่นยนต์ได้, Oracle Thea ฮีโร่สายเทพแห่งปัญญา ถัดมาคนสุดท้าย Hunters Erika ฮีโร่สายนักล่า
ให้เราทำการเลือกตัวละครที่อยากเล่นมากที่สุดลงสนามได้ทันที พร้อมกด ปลดล็อกคู่มือ โดยภายในเกมจะมีฮีโร่ให้แต่ว่าตัวละครใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาจะไม่สามารถใช้งานได้ฟรีนะคะ ถ้าอยากเล่นจริง ๆ ต้องใช้เงินซื้อตัวละครไปก่อน
เมื่อเข้าสู่หน้าหลักได้ตัวเกมจะพาเราไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อสอนให้เราเคลื่อนไหว พร้อมเรียนรู้สกิลสำหรับการต่อสู้ และแนะนำให้ผู้เล่นได้เข้าใจได้ง่าย เพื่อสู้กับฝูงมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนตามเนื้อเรื่องต่อไป มันง่ายมากในการกำจัดฝูงมอนตามทาง
แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ แล้วต้องเจอมอนสเตอร์บอสนี่ก็เอาเรื่องอยู่ไม่น้อย ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ จัดการสกิลและการอัพเกรดความสามารถของตัวละครได้ไม่ดีอาจจะตายได้ทันที ซึ่งในระหว่างทางเราจะได้เจอกับภารกิจรองจากตัวละครของเรา หรือตัวละครอื่นอยู่เสมอ รวมถึงการเก็บ Loot ไอเทมใหม่ ๆ หรืออุปกรณ์ที่จะมาช่วยให้ฮีโร่ของเรามีพลังที่แข็งแร่งขึ้น ทั้งความเร็ว, ความทนทาน และการคูลดาวน์
ระบบการต่อสู้
ระบบการต่อจะเป็นการเล่นแบบ Action-RPG ที่เน้นการต่อสู้ทั้งระยะประชิดและระไกล ทำให้ผู้เล่นสามารถถ่ายทอดพลังมหาศาลใส่ฝูงมอนได้แบบไม่มีหยุดพัก แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่าเกมนี้เหมือนเกมอะไร ต้องบอกว่าวิธีการเล่นคล้ายคลึงกับ Diablo ค่อนข้างมาก จึงไม่มีรูปแบบที่ซับซ้อนจนเกินไป แค่ลากเดินไปโจมตีและใช้สกิลเพื่อทำลายศัตรู อีกอย่างถ้าใครชอบเปิดระบบระบบออโต้ช่วยวิ่งเควสนี่หมดสิทธิ์แน่นอน เพราะเกมนี้ต้องเล่นเองค่ะ รู้สึกว่าระบบการย้ายแผนที่ไปมาภายในเกมก็ทำออกมาได้ดี เมื่อเล่นไปไม่นานทุกคนก็จะเข้าใจตัวเกมได้อย่างรวดเร็ว
ระบบสกิลจัดเต็ม ต้องบอกเลยว่าสกิลภายในเกมมีให้เลือกใช้เยอะมาก แต่ว่าก็ยังจำกัดการใส่ช่องสกิลได้แค่จำนวน 3 ช่องเท่านั้น ซึ่งแต่ละสกิลเพื่อน ๆ ต้องเลือกใช้ให้ดี เพราะแต่ละทักษะสามารถเพิ่มความแรงและสร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์ได้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวทย์ แช่แข็ง สายฟ้า หรือการทำให้มอนสเตอร์ติดสถานะต่างๆ จนสู้เราไม่ได้นั่นเอง ยิ่งค่าพลังมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งแข็งแกร่งเป็นทวีคูณ
พรสวรรค์ เป็นระบบเสริมให้ผู้เล่นได้สร้างสรรค์พลังให้เหมาะกับฮีโร่ของเราเป็นจำนวน 3 ช่อง และจะมีการปล็ดลอคตามเลเวล ตั้งแต่เทพีแห่งปัญญาจนถึงเลเวล 21 ต่อมาปลดล็อคเลเวล 45 โดยจะมีพรสวรรค์ให้เลือก 6 หมวด ประกอบไปด้วย เทพผู้ยิ่งใหญ่, เทพีแห่งการล่า, เทพีแห่งปัญญา, เทพแห่งสงคราม, เทพีแห่งกการหลอกลวง และเทพแห่งจักรกล
ระบบไอเทมสวมใส่ ต้องบอกว่าเกมนี้มีระบบดรอปไอเทมที่ไม่อยากเกินและไม่ทำร้ายผู้เล่นสักเท่าไหร่ ทุกอย่างดรอปง่ายไปหมด แต่ก็ต้องมาคอยลุ้นอยู่ดีว่าจะได้ของระดับยากหรือง่าย อีกอย่างสามารถผสมผสานให้เกิดการเล่นที่แตกต่างไปได้หลากหลายด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่จุดเด่นก็ยังมีจุดด้อยปะปน เพราะเกมนี้ไม่สอนเราให้รู้จักกับไอเทมแต่ละชนิดมากสักเท่าไหร่ แถมไอเทมยังกระจายคละชิ้นตลอดเวลา ไม่ได้มีดันเจี้ยนให้ลงไปตะลุยค้นหาไอเทมขนาดนั้น
ส่วนเสริม ระบบแฟชันภายในเกมมีให้เลือกหลากหลายหมวด อาทิสกินเสื้อผ้า, สกินอาวุธ, ผ้าคลุมหลังหรือแบบปีก, เอฟเฟครอยเท้า และเอฟเฟคร่างกาย ที่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อมาตกแต่งตัวละครได้อย่างสวยงาม แต่ใครเป็นสายฟรีไม่จำเป็นต้องเติมก็ได้นะ เน้นเล่นเพลิน แต่ถ้าชอบเกมนี้แล้วอยากสนับสนุนผู้พัฒนาได้ตามความเหมาะสมเล้ยย😉
สรุป Torchlight Infinite เหมาะกับใคร ?
Torchlight Infinite เป็นเกมที่มีรูปแบบคล้าย Diablo Immortal ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนไปซะหมด แต่ถ้าใครชอบแบบ Diablo แล้วมาลองเล่นเกม Torchlight เพื่อเป็นการทดแทนก็ยังได้ ความเห็นส่วนตัวเราว่าตัวเกมทำออกมาให้เล่นง่าย แต่ดันมีรูปแบบซ้ำซากจำเจไปหน่อยในการตะลุยดันเจี้ยน ดูไม่ค่อยมีอะไรสดใหม่เท่าที่ควร เพราะตอนเปิด CBT 2 ให้ทดสอบแทบจะไม่ต่างกันมาก แถมสกิลในการใช้มีแค่ 4 สกิล ถ้าใครเป็นแฟนเกม Torchlight ในภาคแรกอาจจะผิดหวังอยู่บ้าง
ในส่วนที่อยากจะชื่นชมภาพทำออกมาได้ดีสวยจัดจ้าน ดูสบายตาเล่นง่าย คัตซีนก็ไม่นานเกินไป และถ้าถามว่าเหมาะกับใครคงจะต้องเป็นคนที่ชื่นชอบแนว Action RPG ตะลุยดันเจี้ยนมันส์ ๆ แบบไม่มีพัก โดยตลอดทั้งเกมนักล่าจะได้หวดมอนตามทางเดินทุกที่เลยก็ว่าได้ถือเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจสำหรับสายล่ามอนโดยเฉพาะ
ซึ่งตัวเกมมือถือเพิ่งจะเปิดตัวไปทั่วโลกในวันที่ 9 พฤษภาคม 2023 นี้เอง ใครที่สนใจอยากไปลองเล่น สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีบนระบบ PC ทั้ง Steam และระบบ Android, iOS
เหตุผลหลักที่ทำให้เลิกเล่น Diablo Immortal ก็เพราะมอนสเตอร์เลเวลตามผู้เล่น ทำให้การเก่งขึ้นแทบไม่รู้สึก ก็แค่เลขดาเมจหลอกๆ กับค่าสถิติหลอกๆ เพราะมอนฯ มันก็เก่งตามเราอยู่ดี แค่เอฟเฟกต์สกิลใหม่ๆ ดูอลังการเฉยๆ กับเน้นขายของเติมเงินให้ตัวละครเราเก่งขึ้นกว่าที่ควรเป็นเท่านั้นล่ะ ถ้าเกมนี้ยังเป็นแบบนั้นอีก ก็ไม่เล่นเหมือนกัน