เที่ยวประเทศจีน เรียกได้ว่าต้องเตรียมตัวต่างจากประเทศอื่นพอสมควร ด้วยความที่มีการปิดกั้นการใช้งาน Google, Facebook, LINE, และอื่นๆ ที่เป็นแอปต่างประเทศเกือบทั้งหมด การจ่ายเงินก็จะไม่รับบัตร VISA, Master เงินสดก็ไม่เต็มใจจะให้จ่ายอีก ต้องผ่านแอป Alipay WeChat หรือ UnionPay เป็นหลักเท่านั้น ด้วยความที่เพิ่งไปจีนมา เจอปัญหาหลายๆอย่าง เลยรวมข้อควรรู้ด้านที่เกี่ยวกับ Tech & Payment โดยเฉพาะมาให้เพื่อนๆได้ทราบกัน

เนื้อหาใน blog นี้จะเป็นการถอดบางส่วนออกมาจากคลิปข้างต้น ที่พวกเรามานั่งเล่าข้อมูลประสบการณ์ที่เจอหลังไปเที่ยวจีนกันมาร่วม 20 คน และเอาประสบการณ์ที่เจอกันจากหลายๆด้านมาแชร์บอกต่อ ซึ่งจะมีทั้งคนชอบเที่ยวสายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายช็อป, สายชมเมือง, สายธรรมชาติ, สายประวัติศาสตร์ เนื้อหาก็จะเจ้มจ้น ปนฮาแบบเต็มๆ มีที่ไม่ได้เขียนบอกใน blog นี้อีกพอสมควร เช่น รีวิวที่เที่ยวในฉงชิ่ง อันไหนน่าไปไม่น่าไป, ห้องน้ำเป็นยังไง, ของที่ต้องเตรียมไป, และอีกเพียบ สามารถกดเข้าไปดูกันได้ มั่นใจว่าจะพร้อมสำหรับการไปเที่ยวจีนขึ้นมาก

อินเตอร์เน็ต

  • โรมมิ่ง TrueMove ดีสุด, AIS สู้ไม่ได้
  • โรมมิ่งอาจจะดีกว่าที่เรื่องสลับสัญญาณหลายเครือข่ายได้ แต่เรื่องความเร็วความเสถียร จะสู้ซิมโลคอลไม่ได้เลย
  • ซิมจีนราคาจะอยู่ที่ราว 90 – 120 หยวน ได้เน็ตเยอะ 10-20 GB
  • ซิมจีนเข้าใช้งานนอกประเทศแทบไม่ได้ อยากใช้ต้องผ่าน VPN
  • อยากใช้บริการต่างๆในแอปจีน เช่น Baidu, Dianping ได้สมบูรณ์ ต้องมีเบอร์ที่จีนเท่านั้นเนื่องจากเพิ่งมีกฎหมายบังคับให้ทุกคนที่ออนไลน์ต้องมีการยืนยันตัวตนก่อน

VPN

  • ผู้ให้บริการที่ใช้งานได้ เปลี่ยนไปเรื่อย
  • ที่ลองมาล่าสุดว่าพอใช้ได้คือ BullVPN, Thunder VPN, Astrill
  • Astrill เหมือนจะดีสุด แต่ตัดทุก 15-20 นาที

การจ่ายเงิน

  • WeChat Pay (เวยซิ่น) มีร้านค้าและคนรับจ่ายเงินเยอะสุด
  • Alipay (จือฟู่เป่า) ได้เกือบเท่า WeChat แต่ที่ไกลๆ หรือจ่ายเงินให้ร้านข้างถนนจะไม่ได้
  • TrueMoney เป็นการจ่ายผ่าน Alipay อีกที ทำให้จ่ายได้หลากหลาย
  • K PLUS เป็นการจ่ายผ่าน Union จะรองรับร้อยกว่า
  • แนะนำมีช่องทางการจ่ายเงินให้ครบ Alipay, WeChat Pay, TrueMoney, K PLUS และเงินสด
  • เราไม่รู้เลยว่าตอนไหนอะไรมันจะใช้งานไม่ได้ โดยเฉพาะซิมโรมมิ่งที่สัญญาณไม่เสถียร ทำให้จ่ายเงินไม่ได้เลย
  • แต่ส่วนตัวไม่พกเงินสด เอาไปก็ไม่ได้ใช้
  • หลายร้านไม่รับเงินสด จ่ายไปมีหน้าเบ้
  • แนะนำสมัครและลงทะเบียน Alipay หรือ WeChat ให้เสร็จตั้งแต่อยู่ไทย เอกสารที่ต้องใช้
    • Passport
    • บัตรเดบิต
  • ต้องสมัครและผูกบัตรจนสามารถกดแสดง QR ได้ ไม่งั้นไปถึงจีนจะเสียเวลาทำใหม่และอาจงงว่าทำไมใช้ไม่ได้
  • แนะนำใช้บัตรเดบิตผูกจ่ายเงินกับ Alipay และ WeChat
  • อย่าใช้บัตรเครดิต เพราะเรตแพงและโดนชาร์จค่ารูดเพิ่ม 2%
  • บัตรเดบิตแนะนำ
    • SCB Planet ใช้ดีไม่มีปัญหา แต่เวิร์คกว่าใครเพราะแลกเงินหยวนล็อคเรตไว้ได้เลย
    • YouTrip โฆษณาเยอะ ใช้ดีไม่มีปัญหา แต่แลกเงินหยวนไม่ได้ แต่เรตไม่แย่
    • แนะนำเช็คเรตก่อนเสมอ เปลี่ยนแปลงตลอด

การเดินทาง

  • Google Maps เปิดใช้งานได้ แต่ข้อมูล POI จะเก่าไม่อัปเดตมาหลายปี หาสถานที่ใหม่ๆไม่เจอ
  • ใช้ตอนวางแผง ปักหมุดที่ไทย พอไหว ไปถึงจีนดูอ้างอิงได้ แต่ตำแหน่งเราจะไม่ค่อยแม่น หลุดบ่อย
  • Apple Maps ใช้งานได้ดีมาก ไม่ได้ทะเลาะกับรัฐบาลเหมือน Google
  • ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษค่อนข้างครบ แต่หาชื่อเป็นภาษาจีนไม่เจอ และข้อมูลไม่เยอะเท่า Baidu
  • Baidu Map เก่งมาก มีข้อมูลเยอะ ทั้งแผนที่ 2D, 3D, จราจร, ไฟแดงข้างหน้ากี่วิยังรู้
  • แต่ปัญหาคือเป็นภาษาจีนล้วน
  • แต่สำหรับคนใช้ Android (Samsung) ที่มี Circle Search จะไม่มีปัญหา เพราะแปลให้ทั้งหน้าได้
  • ปัญหาของการวางแผนเที่ยวคือ Apple Maps และ Baidu Map เปิดตอนอยู่ไทย จะโหลดแผนที่และ POI ต่างๆไม่ขึ้น แต่พอถึงจีนเท่านั้น ข้อมูลต่างๆ จะขึ้นมาพรึ่บ
  • ดังนั้นแนะนำว่า ลิสต์สถานที่ที่จะไป ทั้งอังกฤษและจีน พอไปถึงจะได้ค้นหาเจอ

การแปลภาษา

  • คนพูดอังกฤษไม่ได้จริงจัง แม้แต่พนักงานโรงแรม
  • ถ้าพูดจีนได้นิดหน่อยอย่าพยายามพูดจีนกลับ เพราะเค้าจะพ่นเป็นไฟกลับมา
  • Google translate พอช่วยได้ แต่ไม่มาก คนเห็นแล้วงงว่าใช้ยังไง
  • Google Lens ช่วยได้มากกว่า
  • แนะนำใช้ Translation บน Alipay คนเห็น UI แล้วเข้าใจง่ายกว่า ว่าเราจะคุยแบบแปลภาษา
  • ตอนพูดเพื่อให้แอปมันแปล เอาเป็นคำๆ พอได้ แต่เป็นประโยคแล้วจะไม่เวิร์คเท่าไหร่

การสั่งอาหาร

  • ถ่ายเมนู แล้วยกให้แม่ค้าดู อันนี้สะดวกสุดแล้ว
  • แนะนำแสกน QR เพื่อสั่งอาหาร ถ้าร้านมีให้สแกน สามารถดูเมนูและสั่งอาหารจากบน Alipay และ WeChat ได้เลย
  • เจ๋งตรงที่ไปหลายคน สามารถกดสั่งได้พร้อมกัน ซิงค์ข้อมูลกันแบบเรียลไทม์
  • แนะนำใช้ Alipay มากกว่า WeChat เพราะว่าในตัวแอปจะมีฟีเจอร์แปลภาษาให้ด้วย

เป็นบางส่วนละกัน ถ้าพิมพ์จะยาวมาก ยังไงไปดูต่อในคลิปละกันนะครับ