บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2568 ออกมาเรียบร้อย โดยมี รายได้รวม 49,596 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิที่ 2.0 พันล้านบาท ผู้ใช้บริการเบอร์มือถือลดลง แต่เน็ตบ้านโตขึ้น พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ พร้อมประกาศแต่งตั้ง Chief Data and AI Officer คนแรก เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-First Company อย่างเต็มรูปแบบ

ทรู

ภาพรวมผลการดำเนินงาน ทรู คอร์ปอเรชั่น ไตรมาส 2 ปี 2568

รายได้ทรู ไตรมาส 2 ปี 2568

รายได้รวม กำไรสุทธิ

ในไตรมาส 2 ปี 2568 ทรูมี กำไรสุทธิที่ 2,031 ล้านบาท โดยรายได้รวมอยู่ที่ 49,596 ล้านบาท ลดลง 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยสาเหตุหลักของการลดลงมาจาก

  • แรงกดดันทางการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • รายได้จากโครงการภาครัฐใน ธุรกิจโทรคมนาคมระหว่างประเทศ NT ที่ยังลดลงต่อเนื่อง
  • การรับรู้ค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 850 MHz แบบล่วงหน้า จากการชำระค่าการใช้งานตลอดอายุใบอนุญาต

รายได้แบ่งตามหน่วยธุรกิจ

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับรายได้และการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้

รายได้ทรู

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 32,432 ล้านบาท ลดลง 1.0% เทียบกับปีก่อน และ 0.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง

จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่

ณ ไตรมาส 2 ปี 2568 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมอยู่ที่ 47.5 ล้านราย

  • ลดลง 5.8% (2.9 ล้านราย) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากเดิม 50.5 ล้านราย
  • ลดลง 2.6% (1.2 ล้านราย) จากไตรมาสก่อนหน้า จากเดิม 48.7 ล้านราย

ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G อยู่ที่ 14.7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยแบ่งตามระบบเติมเงินและรายเดือน ได้ดังนี้
  • ระบบเติมเงิน: 32.4 ล้านราย
    • ลดลง 2.8 ล้านราย คิดเป็น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
    • ลดลง 1.2 ล้านราย คิดเป็น 3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
  • ระบบรายเดือน: 15.2 ล้านราย
    • ลดลง 113,000 ราย คิดเป็น 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน
    • ลดลง 90,000 ราย คิดเป็น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

รวมผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 2.9 ล้านราย หรือร้อยละ 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ARPU (รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ)

  • ระบบรายเดือน: 424 บาท (ลดลง 1.4% จากปีก่อน)
  • ระบบเติมเงิน: 124 บาท (เพิ่มขึ้น 11.1% จากปีก่อน)
  • รวม (Blended ARPU) : 219 บาท (เพิ่มขึ้น 5.6% จากปีก่อน)

โดยรายได้จากการให้บริการได้รับผลกระทบเหตุการณ์ระบบโครงข่ายขัดข้องชั่วคราว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะได้มีการชดเชยลูกค้าทั้งเติมเงินและรายเดือน และทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง

ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการ อินเทอร์เน็ตบ้าน อยู่ที่ 3.8 ล้านราย เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ธุรกิจออนไลน์ (เน็ตบ้าน)

รายได้จากการให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 6,435 ล้านบาท

  • เพิ่มขึ้น 2.8% เทียบกับปีก่อนหน้า
  • เพิ่มขึ้น 1.7% เทียบกับไตรมาสก่อน

จำนวนผู้ใช้บริการออนไลน์ (เน็ตบ้าน) : 3.8 ล้านราย

  • เพิ่มขึ้น 2.3% จากปีก่อนหน้า และ 0.4% จากไตรมาสก่อน

รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการออนไลน์: 526 บาท

  • เพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อน และ 0.3% จากปีก่อนหน้า

ธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก

รายได้จากการให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 1,469 ล้านบาท

  • ลดลง 12.5% จากปีก่อนหน้า
  • ลดลง 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้า

จำนวนผู้ใช้บริการ: 1.1 ล้านราย

  • ลดลง 11.8% จากปีก่อน และ 4.0% จากไตรมาสก่อน

รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ: 298 บาท

  • เพิ่มขึ้น 6.1% จากปีก่อนหน้า
  • ลดลง 5.4% จากไตรมาสก่อนหน้า

รายได้จากการเชื่อมต่อโครงข่าย

อยู่ที่ 238 ล้านบาท

  • ลดลง 13.6% จากปีก่อนหน้า
  • ลดลง 5.3% จากไตรมาสก่อน

สาเหตุหลักมาจากการปรับลดราคาค่าเชื่อมต่อโครงข่าย

รายได้จากการขาย

อยู่ที่ 3,967 ล้านบาท

  • ลดลง 6.5% จากปีก่อนหน้า
  • ลดลง 21.1% จากไตรมาสก่อนหน้า

เป็นผลมาจากยอดขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่ลดลงตามฤดูกาล

สรุปภาพรวมไตรมาส 2 ปี 2568

ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงรักษาความสามารถในการสร้างรายได้ในธุรกิจหลักท่ามกลางแรงกดดันทางการแข่งขัน นับตั้งแต่ควบรวมกิจการ ทรูมี EBITDA เพิ่มขึ้น 5,523 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของรายได้ การรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และวินัยทางการเงิน นอกจากนี้ ผลกำไรสุทธิจำนวน 2,031 ล้านบาท ยังสะท้อนถึงการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

เดินหน้าสู่ครึ่งปีหลัง 2568 พลิกโฉมองค์กรใหม่

แต่งตั้ง Chief Data and AI Officer ครั้งแรก เสริมทัพผู้นำมุ่งสู่ AI-First Company

การที่องค์กรจะมั่นคง ต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่ง นอกจากทีมผู้บริหารเดิม ทางทรูยังจะเสริมทัพ ด้วยการแต่งตั้ง Chief Data and AI Officer คนแรก เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-First Company อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะประกาศให้ทราบภายหลัง

รายชื่อผู้บริหารทรู

  • นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช
    หัวหน้าฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าและธุรกิจรีเทล ดูแลทุกช่องทางการขายและบริการ
  • นายชารัด เมห์โรทรา
    หัวหน้าฝ่ายธุรกิจลูกค้าบุคคล ดูแลการสร้างคุณค่าผ่านผลิตภัณฑ์
  • นายคูรัม อัชฟาค
    หัวหน้าฝ่ายเครือข่าย พัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะด้วย AI
  • นายฐานพล มานะวุฒิเวช
    หัวหน้าฝ่ายโฮมคอนเนคทิวิตี้ ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์สำหรับครัวเรือน
  • ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์
    หัวหน้าฝ่ายธุรกิจองค์กร ขับเคลื่อนองค์กรไทยสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ
  • แต่งตั้ง Chief Data and AI Officer คนแรกของทรู
    ขับเคลื่อนกลยุทธ์ AI-First โดยนำ AI มาใช้ในการดำเนินงานทุกมิติ
  • แต่งตั้ง Chief Information Officer (CIO)
    ดูแลโครงสร้างระบบไอที พร้อมปรับตัวทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

5 เสาหลัก ยุทธศาสตร์ใหม่ ทรู คอร์ปอเรชั่น

  1. Customer Champion – ผู้นำด้านประสบการณ์ลูกค้า
    สร้างความเข้าใจเชิงลึกต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมตอบสนองได้รวดเร็ว
  2. Win the Home – บริการดิจิทัลสำหรับครัวเรือน
    ตอบโจทย์ 23 ล้านครัวเรือนในไทย ด้วยแพลตฟอร์มที่รวมทุกบริการดิจิทัล ทั้ง อินเทอร์เน็ตบ้าน, ความบันเทิง, และ สมาร์ทโฮม ในที่เดียว
  3. Accelerating B2B Digital Transformation – เร่งทรานส์ฟอร์มองค์กรธุรกิจ
    ทรูบิสิเนส มุ่งเป็นผู้นำในตลาดองค์กรและ SME ด้วยโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูง พิสูจน์ได้ในผลลัพธ์จริง
  4. Empowering the Future with AI – ขับเคลื่อนอนาคตด้วย AI
    สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้น AI และ Cloud เป็นหัวใจหลัก เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ และแข่งขันระยะยาว
  5. Sharpened Focus on Digitalization – ปลดล็อกข้อจำกัดเดิม มุ่งสู่ดิจิทัลเต็มตัว
    ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วย Omni-channel ที่ไร้รอยต่อ เชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าทุกช่องทาง พร้อมเร่งนำระบบ Automation มาใช้ลดงานซ้ำซ้อน

เป้าหมายระยะสั้น ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าใน 6 เดือน

1. เครือข่าย One Network ครอบคลุม 100% ภายใน ก.ย. 2568

  • เพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณ 4G/5G ด้วยคลื่น 2300 MHz ขนาด 70 MHz
  • ยกระดับ 5G บนคลื่น 2600 MHz ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS)
  • เตรียมใช้คลื่น 1500 MHz เพิ่มความเร็วและความจุดาวน์ลิงก์

2. ดันบริการดิจิทัลให้ครบวงจรผ่านแอป

  • ตั้งเป้าลูกค้าทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านแอป
  • ลูกค้าใช้งานช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นแล้ว 19% และเติบโตต่อเนื่อง

3. สร้างประสบการณ์ Omni-channel ที่ไร้รอยต่อ

  • ลูกค้าสามารถเริ่มบริการจากคอลเซ็นเตอร์ แล้วไปต่อที่หน้าร้านหรือแอปได้ทันที
  • มุ่งสู่บริการที่สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน

ก็ต้องมาดูว่า การปรับกลยุทธ์ใหม่ของทรู จะทำให้ไตรมาส 3 และ 4 ปี 2568 มีตัวเลขผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่