เราได้มีโอกาสเดินทางมาร่วมทริป TRUE ON THE GO ไปกับทรู…ดูกับตา ตอนชวนดูช้าง @อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปดูว่าเทคโนโลยีเครือข่าย เกี่ยวกับช้างได้ยังไง? แล้วยังได้อัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงข่ายของ true หลังจากควบรวมกับ dtac ว่ามีความก้าวหน้าไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว

หลังการควบรวมเครือข่าย true – dtac ดีขึ้นยังไง

true

หลังการควบรวมของทรูกับดีแทคเสร็จสิ้นไป 1 มีนาคม 2566 ในช่วงแรกๆ ทางทรูได้ออกมาอธิบายการจะทำเสาสัญญาณหลังการควบรวม เป็นระบบ Single Grid เพื่อลดความซ้ำซ้อนของเสาสัญญาณที่มีอยู่ แล้วยังปรับปรุงเครือข่ายให้ทันสมัยขึ้น จากตอนนั้นมาถึงตอนนี้ (นับถึงไตรมาส 3 ปี 2567) ทางทรูได้ทำไปแล้ว 10,800 เสา หรือกว่า 64% แล้วยังนำเทคโนโลยีใหม่ อย่าง AI เข้ามาใช้ในงานเครือข่ายด้วย

โดยขณะนี้ทรู-ดีแทค มีลูกค้ารวม 49.3 ล้านเลขหมาย นับถึงไตรมาส 3 ปี 2567

หลังอัปเกรดเสาสัญญาณ ทางค่ายก็ได้เข้าทดสอบ โดยมีตัวเลขออกมา ดังนี้

  • 5G เร็วขึ้น (download speed) 48%
  • 4G เร็วขึ้น (download speed) 13%
  • แบนด์วิธเพื่อการใช้งานเพิ่มขึ้น 35%

พัฒนาเครือขายอัจฉริยะด้วย AI

ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ โดยตั้งเป้าหมายในการพัฒนาใน 3 ปี

  1. Zero Touch ดูและปัญหาลูกค้าแม่นยำกว่าเดิม
    • AI powered close loop automation ช่วยตรวจจับ วิเคราะห์ปัญหาลูกค้าโดยไม่ต้องใช้คน
    • ปรับแต่งและตั้งค่าเครือข่ายอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอย่างเหมาะสม
    • AI powered Energy management ปรับใช้พลังงานอย่างเหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพ
  2. Zero wait ปรับระบบเรียลไทม์ แก้ไขปัญหาลูกค้าเร็วขึ้น 3-4 เท่า
    • AI เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายทันที
    • AI วิเคราะห์ปัญหา ค้นหาสาเหตุ พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุด
  3. Zero trouble ลูกค้าใช้งานต่อเนื่องดีขึ้น
    • AI วิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายนับล้านๆ ตัวแปรแบบเรียลไทม์
    • AI วิเคราะก์ดาต้าวางแผลบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

โดยตั้งเป้าหมายการพัฒนาใน 3 ปี คาดหวังผลลัพธ์ ดังนี้

  • ลดเวลาเครือข่ายขัดข้อง 40%
  • ลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าลง 40%
  • เพิ่มควมพึงพอใจลูกค้า 30%
  • แก้ไขปัญหาลูกค้า รัวเร็วในการปรับแต่งเครือข่ายแบบเรียลไทม์ 50%
  • เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารโครงข่าย 80%

มะลิ ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างการนำ AI มาแก้ไขปัญหาของลูกค้า เพื่อบริการที่เร็วขึ้น ลดเวลาระยะการรอบริการแก้ปัญหาจากคอลเซนเตอร์ที่เป็นคนจริงๆ

true

True Tech For Good นำเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือสังคม

เทคโนโลยีเครือข่าย นอกจากเพื่อใช้ติดต่อสื่อสารจากคนถึงคน แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีก เช่น อย่างที่เราไปในครั้งนี้ ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ทางทรูได้นำโครงข่ายไปติดตั้งเพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการแก้ปัญหาคนกับช้าง ที่มีมาอย่างยาวนานหลายสิบปี

นวัตกรรมระบบเตือนภัยช้างป่าล่วงหน้า

นวัตกรรมที่ว่านี้ เริ่มต้นขึ้นในปี 2560 ที่ทางทรูได้นำเสาสัญญาณเข้าไปในพื้นที่อุทยาน แล้วร่วมมือกับทางอุทยานฯ คิดค้นระบบเตือนภัยล่วงหน้าขึ้นมา แล้วร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อช่วยกันปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านจากช้างป่า แล้วยังช่วยป้องกันช้างจากการถูกทำร้าย เหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นในปี 2542 ที่ช้างเข้าไปกินอาหารและทำลายพื้นที่ทำกินของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายมากมาย จนชาวบ้านต้องวางยาเบื่อ จนช้างตายไปหลายตัว เป็นปีที่มีข่าวใหญ่มาก เนื่องจากการไม่มีแผนการจัดการที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องราวสะเทือนใจทั้งสองฝั่งที่สูญเสีย

ระบบเตือนภัยช้างป่าล่วงหน้า มีระบบการทำงานยังไง?

  • เจ้าหน้าที่จะนำกล้อง (Camera Trap) ไปติดบริเวณด่านช้าง หรือทางเดินช้าง ที่ช้างมักจะออกประจำ
    • โดยในกล่องรับสัญญาณจะมีกล้อง ตัวส่งสัญญาณ ที่ใส่ซิมไว้
  • เมื่อกล้องจับภาพช้างได้ จะส่งสัญญาณไปที่ศูนย์ควบคุม
  • จากนั้น เจ้าหน้าที่ในศูนย์ จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่
  • เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ผลักดันช้างเข้าป่า ก่อนจะเข้าไปในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน
    • เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จะใช้โดรนบินเพื่อจับภาพช้าง แล้วประสานไปยังเจ้าหน้าที่อีกทีม
    • เจ้าหน้าที่อีกส่วน จะคอยต้อนช้างกลับเส้นทาง เพื่อเข้าป่า

โดยกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้นส่วนมากจะเกิดขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าเวรกันทั้งคืน แต่ว่าก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ที่ไม่มีกล้องส่งสัญญาณ การทำงานค่อนข้างยาก ที่กว่าจะเข้าถึงช้างนั้น ก็ช้ามาก เพราะพื้นที่ป่าค่อนข้างกว้าง ซึ่งกุยบุรี มีพื้นที่ใหญ่กว่าภูเก็ตถึง 2 เท่า แล้วพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวังก็กว้างถึง 969 ตร.ม. มีด่านช้างที่ต้องดูถึง 40 จุด ซึ่งมีช้างกระจายอยู่กว่า 400 ตัว

พอมีเทคโนโลยีนี้เข้ามา จึงทำให้การเข้าถึงช้างเร็ว ป้องกันก่อนที่จะเกิดการสูญเสีย ซึ่งผลก็เป็นรูปธรรมมาก ความเสียหายลดลงมาก หลังจากมีระบบเตือนภัยล่วงหน้าเข้าไปใช้ในพื้นที่ ตามตารางกราฟด้านล่าง

จากข้อมูลข้างต้นที่เรานำมาให้ดู ก็เป็นการนำเทคโนโลยีเครือข่ายมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์นอกเหนือจากการสื่อสาร ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี กับระบบเตือนภัยช้างป่าล่วงหน้า จนทำให้คนกับช้างอยู่ร่วมกันได้ ลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที