สำหรับใครที่ใช้โปรบ้าเลือดของ TrueMove H อยู่ ไม่ว่าจะเป็น V1-V5 ก็น่าจะได้รับ SMS เชิญชวนให้สมัครอัปสปีดเน็ตจากเดิม 10Mbps เป็น 20Mbps ไม่อั้นกันอยู่ ซึ่งจ่ายเงินเพิ่มเพียง 30 บาท ใช้งานได้ 7 วัน พอทีมงานเห็นแบบนี้จึงได้ลองเติมเงินสมัครเป็นที่เรียบร้อย และใช้งานมาแล้วครบหนึ่งสัปดาห์ มาดูกันว่าความเร็วสปีดเทสจะแตกต่างจากโปรเดิมมากน้อยขนาดไหนไปดูกันครับ

ขั้นตอนการสมัคร

(SMS ที่ส่งมาหลังจากต่ออายุโปรบ้าเลือด 10Mbps ของ TrueMove H)

  • ทำการต่ออายุโปรบ้าเลือด 10Mbps เดิมให้เรียบร้อยก่อน
  • เติมเงินในระบบให้มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 33 บาท (ค่าโปร 30 + VAT 7%)
  • จากนั้นกดรหัส *900*3790# แล้ว โทรออก

  • รอ SMS เข้ามาเป็นอันเสร็จ เริ่มใช้งานได้ทันที

**ไม่จำเป็นต้องสมัครให้ทันภายใน 15 นาทีหลังจากได้ SMS ก็ได้ 

ทดสอบ Speedtest

ในการทดสอบครั้งนี้ทีมงานใช้โปรบ้าเลือด V1 ของ TrueMove H กับมือถือ Xiaomi Mi5s อยู่ โดยใส่ซิม Slot 1 และทดสอบการใช้แอป Speedtest บริเวณ MRT ลาดพร้าว กทม.

รูปซ้าย คือ โปรเน็ต 10Mbps (ก่อนสมัคร) / รูปขวา คือ โปรเน็ต 20Mbps (หลังสมัคร)

จากรูปจะเห็นได้ว่าความเร็ว Speedtest ค่า Download แทบจะไม่ต่างกันเลย แถมค่า Upload ดันน้อยกว่าเดิมซะงั้น (เทสหลายครั้งแล้ว) ซึ่งจากการที่ใช้งานบนมือถือดู YouTube พบว่า การโหลดคลิปเร็วกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ กดข้ามกระโดดไปมาได้เร็วขึ้น ส่วนการใช้งานไถหน้าจอ Facebook การโหลดหน้า Feed รู้สึกไม่ต่างจากเดิมเท่าไร

ทดสอบดาวน์โหลด

คราวนี้มาทดสอบดาวน์โหลดไฟล์กันบ้าง โดยทีมงานใช้เจ้า Xiaomi Mi5s เครื่องเดิม เพิ่มเติมคือเอามาต่อเน็ตเข้าคอมผ่านสาย USB

รูปซ้าย คือ โปรเน็ต 10Mbps (ก่อนสมัคร) / รูปขวา คือ โปรเน็ต 20Mbps (หลังสมัคร)

จากรูปคือทีมงานทดสอบดาวน์โหลดไฟล์เดียวกัน บนเครื่องคอมอันเดียวกัน ต่างกันแค่ใช้เน็ตคนละโปร จะได้เห็นว่าโปรเน็ต 20Mbps ด้านขวา มีค่าการ Download มากกว่าด้านซ้ายชัดเจน ซึ่งเฉลี่ยค่าออกมาคร่าวๆ ได้ดังนี้

  • เน็ต 10Mbps ดาวน์โหลดวิละ 800 – 1,200 KB/s
  • เน็ต 20Mbps ดาวน์โหลดวิละ 1,600 – 2,100 KB/s

สรุป

หลังจากที่ใช้งานมาตลอด 1 สัปดาห์ รู้สึกได้เลยว่าเน็ตแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าสปีดเทสบนแอปจะวิ่งได้เท่าๆ กันก็ตาม โดยทีมงานใช้ดูพวกสตรีมมิ่งแข่งเกมบน Facebook ปกติจะดูได้แค่ระดับ HD หรือ 480p พออัปเป็น 20Mbps คือดู Full HD ได้ลื่นไหลสบายๆ รวมถึงเอามาดาวน์โหลดไฟล์ก็เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประหยัดเวลาไปได้อีกเกือบครึ่ง

แต่ที่น่าหงุดหงิดคือหากใช้งานครบ 7 วันแล้ว อยากจะสมัครใหม่ จำเป็นต้องกดรหัสใหม่เรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ ไม่สามารถเติมเงินกดทีเดียวใช้ไปยาวๆ ทั้งเดือนได้ ซึ่งพอคิดดูแล้วหากจะใช้เน็ต 20Mbps ตลอดทั้งเดือนจะต้องจ่ายเงินทั้งหมด 332 บาท/เดือน (ค่าโปรบ้าเลือด 200 บาท + ค่าอัปสปีดสี่สัปดาห์ 132 บาท)

สรุปแล้วการอัปสปีดจาก 10Mbps ไป 20Mbps นั้นดูจะเหมาะกับคนที่ใช้มือถือเป็นตัวปล่อย Hotspot เป็นหลัก เพื่อช่วยเฉลี่ยความเร็วให้สูงขึ้น ดาวน์โหลดไฟล์ได้เร็วขึ้น ซึ่งหากใช้งานบนมือถืออย่างเดียว จะยังรู้สึกไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไร เพราะแค่ 10Mbps ก็เพียงพอกับการใช้งานหลักๆ ทั่วไปแล้วนั่นเองครับ

**อย่างไรก็ตามสัญญาณความแรงแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน แนะนำเติมเงินลองสมัครใช้งาน 1 สัปดาห์ดูก่อน เพื่อเช็คความแรงของแต่ละพื้นที่ครับ