Google I/O เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของ Google ที่ผู้คนในแวดวงต่างให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ตั๋วเข้างานนั้นหายากยิ่งกว่าทอง และหลายๆคนต้องใช้กำลังภายในกันพอสมควรกว่าจะได้มันมา แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุด ผู้ประท้วงสองคน ที่สามารถหาตั๋วเข้ามาในงานได้ และรอจังหวะเหมาะสมระหว่าง Keynote มาราธอน 2 ชั่วโมงครึ่ง ทำการเดินไปหน้่าเวทีพลางชูป้ายและตะโกนข้อเรียกร้องตัวเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Google ก่อนที่จะถูก รปภ.ลากตัวออกไปจากงาน สองคนนี้ประท้วงกันคนละเวลาและคนละข้อเรียกร้อง แต่ทั้งสองคนมาจากกลุ่มเรียกร้องสิทธิ์ให้กับผู้เช่าบ้านที่ถูกไล่ที่ใน San Francisco ชื่อกลุ่มว่า “Eviction Free San Francisco” และ “Anti Eviction Mapping Project”
ผู้ประท้วงรายแรก…
ผู้ประท้วงคนแรกนั้นเป็นผู้หญิงชื่อว่า Claudia Tirado เป็นครูโรงเรียนประถมใน Fairmount ที่ถูกไล่ที่ออกจากบ้านของเธอใน Mission District ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่จัดงาน Google I/O เพียงไม่กี่นาที โดย Claudia นั้นลุกขึ้นมาตอนที่ David Burke กำลังบรรยายเรื่อง JobScheduler API ของ Android L อยู่ แต่ David เองก็ไม่สนใจและสามารถพูดต่อไปได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอตะโกนตรงหน้าเวทีว่า “พวกคุณต้องพัฒนาเรื่องสามัญสำนึกนะ Google!” แล้วก็ชูเสื้อที่มีข้อความเชิญชวนให้ร่วมต่อต้าน Jack Halprin ทนายความของ Google
เรื่องมันมีอยู่ว่า Jack Halprin นั้นเป็นเจ้าของตึกขนาด 7 คูหาซึ่ง 1 ในนั้นเป็นบ้านที่ Claudia อาศัยอยู่กับครอบครัว และกำลังถูก Jack ขับไล่ออกจากบ้านที่เธอเช่าอยู่ โดยใช้กฎหมายเกี่ยวกับการไล่ที่ของรัฐ California ชื่อว่า “Ellis Act” ที่อนุญาตให้เจ้าของตึกสามารถบอกเลิกการให้เช่าและสามารถไล่ผู้เช่าออกจากตึกที่เป็นเจ้าของได้ แต่ Claudia นั้นไม่ยอมและไปร่วมกลุ่มกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายนี้ แล้วร่วมกันก่อหวอดประท้วงหน้าสถานที่จัดงาน แต่เธอนั้นได้ตั๋วจากผู้ร่วมงานคนหนึ่งที่รู้สึกสงสารเธอและยอมสละตั๋วให้เธอเข้าไปในงานแทน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นคนมีน้ำใจมากกก เพราะราคาตั๋วนั้นสูงถึง $900 หรือประมาณ 30,000 บาทเลยทีเดียว
ภาพจาก Business Insider
หลังจากได้ตั๋วแล้ว Claudia ก็ไปต่อคิวเข้างานและเดินไปนั่งที่ของเธอ พอได้จังหวะก็ลุกเดินไปหน้าเวทีแสดงข้อเรียกร้องของเธอเองได้สมใจกลางงาน Google I/O ต่อหน้าสื่อและนักข่าวจำนวนมหาศาล ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่พาตัวออกไปและถูกซักถามโดย Rachel Whetstone ผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Google ก่อนจะปล่อยตัวไป เธอพูดถึงความรู้สึกว่า
“ตอนแรกฉันก็รู้สึกกลัวนะก่อนที่จะเดินออกไป และไม่รู้จะออกไปทำอะไร…แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขกับผลลัพธ์ที่ได้มา”
ทางด้าน Erin McElroy ผู้ก่อตั้งกลุ่มเรียกร้องสิทธิ์นี้ขึ้นมาและเป็นแกนนำในการประท้วงครั้งนี้บอกว่า พวกเขาต้องการให้ Google ซึ่งเป็นนายจ้างของ Jack Halprin ทำให้เขายกเลิกความคิดเกี่ยวกับการไล่ที่ครั้งนี้และให้กลุ่มผู้ประท้วงเช่าอยู่ได้ต่อไป ซึ่งจริงๆแล้วการประท้วงนี้ไม่ได้เพิ่งจัดขึ้นมาแต่ทำมาหลายเดือนแล้ว
มุมมองที่น่าสนใจอย่างหนึ่งจากกลุ่มผู้ประท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ การไล่ที่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น โดยผู้ประท้วงคิดว่าสาเหตุของปัญหานั้นมาจาก “ภาวะ Tech Boom ใน San Francisco” ซึ่งกำลังจะกลายเป็น Silicon Valley สำหรับบริษัท Startup หน้าใหม่ในไม่ช้า ตอนนี้ Twitter, Dropbox และ Zynga ก็ตั้งบริษัทอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ค่าครองชีพใน San Francisco สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยค่าเช่าที่พักอาศัยปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ $3200 ซึ่งหมายความว่า กลุ่นคนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้จะถูกขับออกจากที่พักและจำเป็นต้องย้ายออกจากเมืองไป
ต่อข้อถามที่ว่า “ทำไมถึงคิดว่า Google จะมีสิทธิ์ไปแทรกแซงเรื่องราวการดำเนินชีวิตส่วนของพนักงานได้?” ทาง McElroy ตอบคำถามนี้ว่า “เราอยากขอร้องให้ Google ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านวิกฤตการไล่ที่ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้และยอมรับว่าพนักงานของบริษัทมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย” ทางด้าน Tirado เสริมว่าสัญญาเช่าอพาร์ทเมนต์ของเธอจะหมดลงในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปีหน้าและเธอไม่สามารถจ่ายค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นได้แน่นอน ชมวิดีโอเหตุการณ์ด้านล่าง
ผู้ประท้วงรายที่สอง…
ระหว่างที่ Keynote ดำเนินไปถึงช่วงการพรีเซนต์เรื่อง Cloud Platform มีผู้ประท้วงคนที่สองเป็นชายไม่ทราบชื่อ ลุกขึ้นตะโกนเสียงดังว่า “พวกนายทั้งหมดทำงานให้บริษัทเผด็จการที่สร้างเครื่องจักรฆ่าคน!” แล้วก็ชี้ไปที่เวทีที่ Urs Hölze ผู้บริหารอาวุโสกำลังพูดบรรยายเรื่อง Cloud Service อยู่ “นายรู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง!” นี่คือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ชายผู้นี้จะโดนเชิญออกโดย รปภ.
ภาพจาก Wired
การประท้วงของเขานั้นเกิดจากการที่ Google ตัดสินใจซื้อบริษัท Boston Dynamics ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นบริษัทที่สร้างหุ่นยนต์รูปร่างต่างๆเพื่อพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์สามารถทำอะไรได้หลายอย่างทั้ง แมวป่า, เสือชีต้าร์, สุนัขยักษ์ และคน สามารถกดที่ชื่อเข้าไปดูตัวอย่างวิดีโอแนะนำหุ่นยนต์เหล่านี้ได้เลยครับ ดูแล้วบางตัวดูน่ากลัวและสยองไปหน่อยนะ แต่เข้าใจว่าคงมีคนตายจากการสร้างหุ่นพวกนี้ขึ้นมา เพื่อนสมาชิก some1 แนะนำว่า Bostom Dynamics นั้นมีหลายโปรเจ็คที่เป็นการสร้างหุ่นยนต์ทางการทหารเลยน่าจะเป็นสาเหตุที่ดูสมเหตุสมผลของการประท้วงครั้งนี้
ขอทิ้งท้ายด้วยภาพวิดีโอ Keynote ในช่วงระหว่างที่มีการประท้วงเกิดขึ้น กล้องไม่ได้ถ่ายให้เราเห็นแต่เราสังเกตจากปฏิกิริยาของคนพรีเซนต์และผู้ร่วมงานได้ครับ
ที่มา: The Verge (1),(2),(3) , VentureBeat และ Techcruch
ปลาใหญ่กินปลาเล็กสินะ….นี้เป็นวัฏจักรของโลกจริงๆ
ความต้องการของปลาใหญ่บนความเดือดร้อนของปลาเล็กสู้กันต่อไปนะครับ
กรณีประท้วง boston dynamic นี่ อันนี้ไม่ทราบจริง ๆ นะครับว่ามีคนตายจากการสร้างหุ่นยนต์จริงมั้ย แต่หุ่นยนต์ที่บริษัทนี่พัฒนาหลาย ๆ โปรเจคมีวัตถุประสงค์ทางการทหารอยู่ครับ
เหตุผลนี้ดูเข้าท่ากว่า ขออนุญาตเอาไปใส่ในบทความนะครับ
อยากให้ปลายเล็กเป็นปลา ปลาปิรันย่า ซักที่ จะได้รุมกินปลาใหญ่บ้าง
อ่านแล้วอึ้งเหมือนกันครับ
ขอบคุณข้อมูลจ้า
ได้ยินเสียงคนโวยวายเหมือนกัน ตอนที่ฟังสดคืนนั้นแต่ไม่แน่ใจ
การประท้วงของคนแรกดูไม่มีเหตุผลเพียงพอ ธุรกิจส่วนตัวของพนักงานคนหนึ่งในบริษัทไม่ได้เกี่ยวข้องกับ google เลย ส่วนคนที่สองก็พอฟังขึ้นบ้างเรื่องมนุษยธรรม แต่ถ้าคิดในทางกลับกันก็เป็นการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อแบ่งเบาภาระของทหาร (ลองคิดว่าคนในครอบครัวเป็นทหารที่ถูกส่งไปรบดูสิ) อเมริกายิ่งหาเรื่องส่งทหารไปรบอยู่บ่อยๆด้วย
แล้วที่นี้หุ่นยนต์พวกนั้นก็จะมาฆ่าคนแทนคน หุ่นยนต์ที่ไม่มีสามัญสำนึก อันนี้แค่คิดเล่นๆนะคับ จากหนังอ่า บางทีมันน่ากลัวจริงๆนะ ยิ่งเป็นอเมริกาด้วย
อนาคตแสนไกลหุ่นอาจจะวิวัฒิตัวเอง 5555
come on ใจกว้างๆหน่อย.
กูเกิ้ลซื้อบริษัทผลิตหุ่นยนต์มา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอามาทำหุ่นรบนี่
เค้าอาจมองว่า อนาคต อันไม่ไกล อาจจะแค่ 20 ปีข้างหน้า เขาอาจจะผลิตหุ่นยนต์ขึ้นมาทำงานเป็นคนใช้ คอยซักล้าง เก็บกวาดบ้าน ล้างส้วม เก็บขยะ ตัดหญ้า
ซึ่งอาชีพนี้ เราก็รู้อยู่ว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีใครอยากทำอยู่แล้ว ก็เลยจะผลักภาระไปให้หุ่นยนต์ซะเลย
พอพูดถึงหุ่นยนต์ครองโลก ผมนึกถึงหนังเรื่องนึงเลย และขยะล้นโลกอีก ตอนนี้ไม่ต้องมองไกลเลยเรื่องขยะ ในไทยตอนนี้ไม่มีที่จะทิ้งแล้ว นอกเรื่องนิดนึง แต่เรื่องหุ่นยนต์ครองโลกในอนาคตนีอาจเป็นจริงก็ได้นะครับ ไม่รู้นะแค่ความรู้สึก ? ญี่ปุ่น อเมริกาตอนนี้ผลิตกันจัง google ก็ตัวสำคัญด้วย อาจจะมีมูลอาจจะเป็นจุดเริ่มต้น และอาจะจริง ? คือความรู้สึกล้วนๆนะ แต่กล้ามากอ่ะที่ประท้วงแบบนี้ หุหุ
หรือ google จะกลายเป็น skynet ก็มโนกันไป
ในอนาคตเราอาจถูกจับไปเป็นพลังงานความร้อนให้หุ่นยนต์
หุนยนต์ทางทหารเขาออกแบบให้ทำหน้าที่แทนทหารในพื้นที่ที่อันตราย โดยที่คนเป็นคนบังคับ เขาพัฒนาในเรื่องการส่งข้อมูลต่างๆเช่น ภาพ,เสียง,สภาพแวดล้อมต่างๆ ฯลฯ กลับมาที่ศูนย์บังคับ รวมทั้งการออกแบบหุ่นยนต์ ลักษณะการเคลื่อนไหว ความทนต่อสภาพอากาศ-สิ่งแวดล้อม,การใช้พลังและด้านอื่นๆอีกมากมาย มันไม่เหมือนเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัตนะครับที่จะเปิดสวิตท์แล้วปล่อยให้มันดูดจู้ดๆๆๆพอชนผนังก็ถอยออกแล้วเดินหน้าดูดต่อ