กล้องบนโทรศัพท์มือถือ ทุกวันนี้คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มมาแทนที่กล้องคอมแพคขนาดเล็กเข้าไปทุกที หลายๆคนก็ใช้โทรศัพท์มือถือนี่แหละถ่ายรูป เดี๋ยวนี้หลายๆคนไม่พกกล้องกันเลย อาศัยโทรศัพท์ถ่ายรูปแทนไปแล้ว เพราะเนื่องจากความง่ายและสะดวก ยังไงก็ต้องพกโทรศัพท์อยู่แล้ว ก็เลยพาลไม่พกกล้องเพิ่มให้เป็นภาระอีก วันนี้เดี๋ยวเรามาลองแกะกล่อง กล้อง เอ้ย มือถือกล้องเทพสุดๆกับ Panasonic Lumix CM1 สมาร์ทโฟนที่เซนเซอร์รับภาพใหญ่เท่า Mirrorless!!
กล้องจริงยังไงก็ดีกว่ากล้องติดโทรศัพท์
ความจริงข้อนี้ยังใช้ได้เสมอ ถ้าเทียบในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ยังไงกล้องจริงๆก็คุณภาพดีกว่ากล้องติดโทรศัพท์จริงๆ ในที่นี้ผมหมายถึงกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR ตัวใหญ่ๆ หรือกล้อง Mirrorless ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ทั้งหลาย หรือกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้แต่ใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ เพราะกล้องเหล่านี้มีขนาดเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่ากล้องของโทรศัพท์มือถือเป็นร่วมสิบเท่าหรือหลายสิบเท่ากันเลย
ขนาดไหนถึงเรียกว่าเซนเซอร์ใหญ่
จริงๆเรื่องนี้ไม่มีข้อกำหนดที่แน่นอนตายตัว แต่โดยทั่วไปแล้ว เซนเซอร์ที่ขนาดตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป ถึงจะเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเซนเซอร์ขนาดใหญ่ หลายคนอาจไม่เห็นภาพว่ามันใหญ่ขนาดไหน ผมเลยทำภาพขึ้นมาเปรียบเทียบระหว่าเซนเซอร์รับภาพของโทรศัพท์มือถือ ในที่นี้ผมเลือกขนาดเซนเซอร์ของ iPhone 6, 6 Plus, OPPO Find 7 หรือ LG G3 (และยังมีอีกหลายตัวที่ขนาดประมาณเท่านี้ ที่ 1/3.06”) เมื่อเทียบขนาดกับเซนเซอร์ใหญ่ขนาด 1 นิ้ว เช่น Sony RX100 หรือ Nikon V1, V2
จะเห็นว่ามีขนาดต่างกันเยอะ และจุดนี้เป็นผลทำให้กล้องจริงๆที่ใช้เซนเซอร์ใหญ่กว่าถึงมีคุณภาพของภาพที่ดีกว่ากล้องจากมือถืออยู่ โดยเฉพาะในที่แสงน้อย และมิติของภาพที่มีการเบลอฉากหลังได้ดีกว่า
จุดเริ่มต้นของ Panasonic Lumix CM1
เอาล่ะครับ มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ไม่อยากจะลงรายละเอียดลึกไปกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นบทความเรื่องกล้องไปซะก่อน
จุดประสงค์ของโทรศัพท์รุ่นนี้คือเน้นเรื่องกล้องเป็นหลัก ส่วนเรื่องโทรศัพท์ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน (เดี๋ยวค่อยมาดูคุณสมบัติกันว่าเป็นยังไงบ้าง) ที่บอกว่าเน้นกล้องเพราะว่าโทรศัพท์รุ่นนี้ใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว เท่ากับ Sony RX100 หรือ Nikon V1, V2 ที่เปลี่ยนเลนส์ได้กันเลย แล้วติดเลนส์ชื่อก้องโลกที่ชื่อว่า ไลก้า “Leica” มาอีกด้วย เป็นไงล่ะครับ เริ่มน่าสนใจขึ้นมาหรือยัง
โดยปกติแล้วเซนเซอร์ใหญ่ขนาดนี้ แล้วเลนส์ขนาดนี้ ขนาดคงจะหนาสุดๆ แต่ทาง Panasonic ยังทำออกมาได้ไม่หนาจนเกินไปนัก ยังสามารถพกใส่กระเป็นกางเกงแบบ “พอไหวอยู่”
ทีนี้หลายคนอาจสงสัยว่าเน้นกล้องแล้วเรื่องโทรศัพท์ล่ะ จัดมาขนาดไหน มาดูกันเลย
*ข้อมูลจากเวป Panasonic
จะเห็นว่าหน้าจอก็เป็น Full HD ส่วน CPU ก็เป็น Snapdragon 801 ใส่แรมมา 2G แล้วให้รอมมา 16G แล้วใส่ MicroSD เพิ่มได้ถึง 128G ส่วนแบตให้มา 2,600 มิลลิแอมป์ ก็ถือว่าเป็นระดับเรือธงได้เลย
มาเริ่ม UNBOXING กันเลย
เริ่มจากกล่องภายนอก สีดำ สไตล์แบบกล่องของกล้องจากค่ายนี้เลย ดูให้รอบด้านไปเลย
ทีนี้เปิดมาดูภายในกันบ้าง
เปิดมาจะเจอโทรศัพท์อยู่ในห่อกระดาษสีดำ ให้อารมณ์เหมือนซื้อกล้องมากกว่าซื้อโทรศัพท์
เปิดต่อไปจะเจอคู่มือ และเปิดลงไปอีกจะเจอที่ชาร์จโทรศัพท์ ที่มีขนาดใหญ่มาก
มีแค่นี้จริงๆครับ ไม่มีสาย USB และไม่มีหูฟังมาให้ด้วยครับ
ทีนี้มาดูที่ตัวโทรศัพท์กันเลย
แล้วเมื่ออยู่บนมือ
ทีนี้มาดูด้านบนกัน
แล้วมาดูด้านล่าง จะเห็นมีช่องใส่ซิมและช่องใส่ MicroSD
หันมาด้านข้าง จะเห็นช่องเสียบ USB เอาไว้ชาร์จกับเอาไว้เสียบต่อกับคอมพิวเตอร์
ทีนี้มาดูด้านหลัง เวลาปิดกล้องกับเวลาเปิดกล้อง ตัวเลนส์จะยื่นออกมาอีกนิดนึง
ทีนี้มาดูหน้าจอด้านหน้ากันบ้าง ฉาก Wallpaper ทำมาเป็นหลายหนัง ที่ผมว่ามันเข้ากันได้ดีกับโทรศัพท์จริงๆ
ฟังชั่นของกล้อง
เรียกได้ว่าทุกอย่างเหมือนกล้องจริงๆ มีโหมดให้เลือกหลายหลาย ไม่ว่าจะเป็น A, P และอื่นๆครบถ้วน รวมไปถึงการปรับค่าทุกอย่าง ทำได้เหมือนกล้องแท้ๆ ผมอยากจะเรียกมันว่ากล้องใส่ฟังชั่นโทรศัพท์ซะมากกว่า
ถึงเวลาภาพตัวอย่างเล็กๆน้อยๆครับ
ทั้งหมดถ่ายแล้วย่อภาพอย่างเดียว ไม่มีการปรับแต่งสีใดๆทั้งสิ้น มีภาพใหญ่ให้ดูด้วย แต่ภาพใหญ่จะเป็นขนาดแค่ 6 ล้านนะครับ
รูปแรก
รูปที่ 2
รูปที่ 3
คลิกเพื่อดูรูปใหญ่
รูปที่ 4
คลิกเพื่อดูรูปใหญ่
จะเห็นว่าคุณภาพของภาพในแง่ของ Dynamic Range และการละลายฉากหลัง รวมไปถึงสีของภาพ ทำได้ดีกว่ากล้องมือถือโดยทั่วไปชัดเจนมาก
เอาล่ะครับ ผมก็ขอจบการ UNBOXING แบบคร่าวๆไว้แค่นี้นะครับ ส่วนรีวิวฉบับเต็มก็อดใจรอกันหน่อย มีอะไรสงสัยถามมาได้ด้านล่างได้เลยครับ
ถ้าใครสนใจอยากหาข้อมูลต่อ อ่านข่าวเก่าเพิ่มเติมของเจ้า Panasonic Lumix CM1 ได้ที่
Panasonic เตรียมวางจำหน่าย Lumix DMC-CM1 Smart Camera ธันวาคมนี้ในอังกฤษ
Panasonic เปิดตัว Lumix DMC-CM1 สมาร์ทโฟน/กล้องไฮบริด
กล้อง เอ๊ย โทรศัพท์ในฝัน
ขั้วไฟฟ้าข้างๆช่องใส่ซิมคืออะไรหว่าง? ต่อกริป?
ว่าแต่มันกันน้ำไหมครับ? ปกติมือถือญี่ปุ่นมักจะกันน้ำเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
ตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าขั้วนั้นมันคืออะไรนะครับ
แต่เรื่องกันน้ำนี่คงไม่กันแน่ๆครับ
เดาว่าจะเป็นขั้วต่อสำหรัชาร์จอีกจุดหนึ่งครับ เหมือนกับบน Pebble อะไรประมาณนี้
เอาไว้ต่อแท่นชาร์จครับผม
– adaptor output เท่าไหร่ครับ
– ราคารวมทุกอย่างเท่าไหร่ครับ
ไม่ธรรมดานะ Pana
ดูดีกว่า Kodak หลายขุมเลย
อยากรู้ราคา กับความอึดของ battery น่าสนมากสำหรับผม
ทำไม กล้องโทรศัพท์ จะ ดี เท่า กล้อง ธรรม ดา ไม่ ได้
ผม ว่า แค่ เอา โทรศัพท์ ไป ใส่ กล้อง ธรรม ดา มัน ก็ ได้ แล้ว หรือ จะ เอา โทร ศัพท์ ไป ใส่ DSLR ก็ ได้
ใน ขณะ ที่ วง จร โทร ศัพท์ มัน เล็ก ลง จน น่า จะ ยัด ใส่ กล้อง ได้ แล้ว จอ กล้อง ก็ มี แล้ว แบต ไมค์ ลำ โพง ก็ มี ทำ ไม จะ ยัด ลง ไป ไม่ ได้
นึก ถึง DSLR ที่ โทร ออก ได้ สิ ครับ
นึก ถึง คน เอา แท๊ป เล็ต โทร ออก สิ ครับ
นึก ถึง คน เอา แท๊ป เล็ต ถ่าย รูป ถ่าย วี ดี โอ สิ ครับ
มัน จะ แปลก สัก แค่ ไหน ผม ว่า มัน ไม่ เห็น จะ แปลก
ความ เชื่อ แปลก ๆ ที่ พยายาม จะ เปรียบ เทียบ กล้อง กับ โทรศัพท์
dslr โทรได้คงพิลึกแปลกๆน่ะครับ
แต่แท้บแล้ตโทรออกกับถ่ายรูปถ่ายวิดีโอนี้ไม่แปลก
"นึก ถึง DSLR ที่ โทร ออก ได้ สิ ครับ"
นีกแล้วครับ มันพกยากอะ ตอนซื้อกล้องแรกๆก็เห่อแบกไปทุกที่ ตอนนี้จ้างพริ๊ตตี้ถ่ายในสตู ^^
ลองนึกถึงตอนกำลังถ่ายรูปช็อกสำคัญ
แล้วดันมีคนโทรเข้ากล้องสิครับ
โทรศัพท์เอาเปิดตลอด แต่กล้องเปิดแค่ตอนที่จะใช้
อะไรที่เป็นเฉพาะทาง มันย่อมทำได้ดีกว่า
ถ้าใช้ถ่ายเป็นจริงเป็นจังถึงขนาดที่ต้องมีช็อตสำคัญบ่อยๆ ผมว่าใช้แยกดีกว่าอยู่แล้วครับ
ถ้าจะสักแต่ว่าทำ ก็คงทำกันได้หมดแหละครับ แต่ปัญหาคือจะทำโทรศัพท์ที่ดีเร็วๆแรงๆ หน้าจอละเอียดๆ กล้องเทพๆ เซนเซอร์ใหญ่ๆ แล้วขนาดไม่ใหญ่ ยังพกได้ไม่ลำบาก ทำกันได้หรือเปล่าแบบนี้
ถ้าบริษัทไหนจะคิดแค่ว่าเอาโทรศัพท์ใส่กล้อง DSLR แล้วเอามาโทรด้วยนี่ก็สอบตกปิด project ตั้งแต่ในบริษัทแล้วล่ะครับ
ทำไมต้อง DSLR ครับ เป็น Mirrorless ดีกว่ามั้ย?
DSLR ใหญ่กว่า หนักกว่า พกยากกว่า
เอาแค่ถือมือเดียวยังลำบาก จะแนบหูจริงๆ เหรอครับ?
ปล. พิมพ์ทีละประโยค คงไม่มีปัญหากับชีวิตมากหรอกครับ นึกถึงใจคนอ่านบ้างเถอะ อ่านทีละคำ มันลำบากนะครับ
Xperia Z4 ไหนๆๆจะออกมาแล้ว กล้องอย่าแพ้ตัวนี้นะ
แม่งหล่อโคตร
ถ้า Sensor ใหญ่ขนาดนี้ RX100 ของ Sony เองจะโดนกินตลาดเองอะดิครับ =_="
ถ้าตามสเปกของ panasonic CM 1 อย่างไงก็ยั่งยากครับที่จะตลาดของของ RX 100 mark III เนื่องจาก เลนส์ของ RX 100 mark III ครอบคุมการใช้งานมากกว่า อีกอย่างคือกล้องดีๆๆมีอายุอยู่ได้อย่างน้อยๆๆ 5 ปี แต่โทรศัพท์กล้องเทพอยู่ได้อย่างมากก็แค่ 3 ปี XPeria Z4 ผมคาดหวังให้ sony ยัด Curve senser ขนาด 2/3 นิ้ว + เลนส์ F1.8 + ปรับปรุงเรื่องคุณภาพ File ดีดีๆๆถ่าย Raw File ได้ และทำ app Process Raw file ทำกล้อง กล้องของ sony ออกมาด้วย แค่นั้นก็โครตตตโกงแล้วครับ
+1 รออยู่เหมือนกันครับ Curved Sensor
ดีที่สุดเท่าที่เห็นรูปจาก smartphone มา
สวย กล้องมหาเทพ
รอตัวแบบนี้มานาน ผมต้องคว้ามันมาให้ได้ รอราคานะครับ
ภาพ 3 นี่แบบว่า… ละลายจริงๆ
RX100 เป็น Premium Compact ไม่ใช่หรอครับ มันไม่ใช่ Mirrorless
เทียบกับ mirrorless Nikon 1 อะพอได้แหละครับ แต่ถ้าคำว่า Mirrorless จริงๆผมนึกถึงพวกเด่นๆอย่าง APS-C กับ MFT ที่ Sensor ใหญ่กว่าเยอะเป็นตลาดหลักมากกว่าครับ =_=
ถ้าจะว่ากันตามหลักการทำงาน กล้อง Compact ก็ถือเป็น Mirrorless ครับ เพราะไม่มีกระจกสะท้อนภาพ
แต่กล้อง Mirrorless ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ ชื่อเต็มๆมันคือ MILC – Mirrorless Interchangeable-Lens Camera
ไม่ใช่ Mirrorless เฉยๆ
ครับเข้าใจครับ ถ้าให้แปลตามคำภาษาอังกฤษมันได้แหละครับ เพราะถ้าไม่ใช่ SLR มันก็ไม่มีกระจกสะท้อนกันหมด แต่ยังไงอ่านบทความแล้วสื่อเหมือน Mirrorless สำหรับคนเล่นกล้องซึ่งคิดโดยทั่วไปแล้วคือ MILC นั่นแหละครับ เพราะต้องการบอกว่า Sensor ใหญ่เหมือนพวก Mirrorless ผมเลยคิดไปด้าน MFT, APS-C มากกว่า แต่จริงๆไปเทียบกับ MILC Nikon 1 ซึ่งใช้ 1" เล็กกว่าจ้าวอื่นในตลาด Mirrorless เยอะ
เข้าใจครับว่า MILC คือคำพูดที่ถูกต้องที่สุด แต่ในในประเทศไทย คำว่า Mirrorless หมายถึง MILC ไปแล้ว และตรงนี้ ณ เวลานี้ก็คงจะเปลี่ยนกันยากแล้วล่ะครับ ขอให้สื่อความหมายแล้วเข้าใจตรงกันก็น่าจะโอเค
แล้วคำว่าคุณภาพ Mirrorless เป็นคำพูดในเชิงบทความนะครับ ความหมาย Mirrorless ของผมก็หมายถึง Nikon 1 นั่นแหละครับ
เอาน่า Sensor เท่า Mirrorless อย่าง Nikon 1 V1 ผมกว่าหรูแล้ว สำหรับมือถือเครื่องเล็กๆ
ถึงจะไม่เท่า APS-C แต่ก็ใกล้เคียง 4/3 นะครับ
จากใจคนใช้ Nikon 1 V1 ครับ
สรุปราคาเท่าไหร่อ่ะ มีขายในไทยรึป่าวครับ
ตัวนี้ผมสั่งมาจาก ebay โดยซื้อกับร้านในประเทศอังกฤษ และในประเทศไทยยังไม่มีขายนะครับ
ราคาถ้าไปซื้อเองที่อังกฤษ ถ้าไม่มีการบวกกำไรเพิ่ม จะอยู่ที่ประมาณ 38,000 บาทครับ
โอ้วววว โหดใช้ได้ ขอบคุณครับ
ราคาโหดมากครับ ถ้ามาถึงเมืองไทย จะกี่บาทหนอ รอๆๆๆๆครับ
อยากได้จริงๆ Sensor ใหญ่กว่า Compact Pro รุ่นก่อนๆ ซะอีก ติด Leica บนเลนส์ด้วย
แค่ 2 ภาพล่างนี่ก็มั่นใจได้ว่า เหนือกว่า Nokia 808, และ 1020 แน่ๆ แล้ว
Pana Thai จัดซะหน่อยเถอะ
มีอยู่ตัวนึงนะครับ
มองข้ามกันไปหรอป่าว
Nokia 808 Pureview ตัวนี้ก็เซนเซอร์ใหญ่นะครับ
ถ่ายรูปได้สุดยอดที่ 41 ล้านด้วยครับ มากกว่าพานาซะอีก
ผิดที่มันมาก่อนเวลาอันควร ที่ยังเป็นซิมเบี้ยนอยู่ และ… ผมใช้อยู่ครับ ใช้ถ่ายรูป ผมชอบที่สุด
ในแง่ความละเอียดก็คงต้องยอม 808 ไปแหละครับ แต่ถ้าในแง่คุณภาพของภาพ ไม่ว่าจะเป็นสีสันของภาพและการไล่โทนสีของภาพและ dynamic range ของภาพ ต้องบอกว่า CM1 ทำได้ดีกว่า 808 แบบห่างเยอะพอสมควรครับ
แล้วถ้ามาดูการใช้งานของกล้องรวมไปถึงเรื่องความเร็วในการถ่ายภาพ ก็ต้องบอกว่า CM1 ทำได้ดีกว่า 808 แบบคนละเรื่องเลยครับ
แต่ในยุคของ 808 ก็ยอมรับว่ามันสุดยอดจริงๆครับ
คุณภาพของภาพหลักๆ จะขึ้นอยู่กับขนาดของเซ็นเซอร์กับคุณภาพเลนส์นะครับ จำนวนพิกเซลนี่เอามาเทียบกันไม่ได้นะ
PS. อยากทราบครับ ว่าพานาตัวนี้กล้องหน้าเป็นอย่างไรบ้าง คุณภาพใช้ได้ไหม
ผมว่า คุณ tancub ควรไปศึกษาคุณภาพของภาพที่ได้ออกมาก่อนว่า มันขึ้นกับอะไรเป็นหลักครับ
ต้องบอกก่อนนะครับว่าไม่ใช่แค่พิกเซลเยอะ
แต่เลนส์ ก็ยังเป็น Carlsieze และเซ็นเซอร์หนายิ่งกว่าปิ๊หมาอีกครับ
เครื่องมันถึงหนา และภาพที่ได้มาถึงโอเคไงครับ
คือผมยังไม่ได้จับพานา เลยเทียบกันไม่ได้ แต่ผมเคยเอารูปผมไปเทียบกับ DSLR ที่เพื่อนถ่ายครับ
DSLR ดีกว่าแบบไม่ทิ้งห่างครับ แต่โนเกียกินกล้องคอมแพคครับ
แน่ใจนะครับว่าดูรูปเป็น ??
DSLR ดีกว่าแบบไม่ทิ้งห่าง ??
อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อครับ ผมใช้กล้องโปรมาเกือบสิบปี รู้เทคโนโลยีในกล้องแทบทุกอย่าง
ผมไม่เชื่อที่คุณพูดนะครับ 🙂
เซนเซอร์หนาไม่ได้หมายความว่าภาพต้องดีครับ ให้ไปดูที่พื้นที่หน้าตัดดีกว่า
Lumix CM1 มันคือกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์ย่อส่วนมาผสานกับโทรศัพท์
เซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 20MP ยังไงก็เหนือกว่า 808 แน่นอน
เพราะแค่พื้นที่รับแสงของแต่ละพิกเซลก็มากกว่าละ (เซนเซอร์ใหญ่ ความละเอียดน้อย)
จากจุดนี้ก็ทำให้ได้ Dynamic Range กับความไวต่อแสงที่ดีกว่าด้วย
มาพร้อมกับเลนส์ไลก้าอีก ไม่ธรรมดาครับ
อีกอย่างเทคโนโลยีกล้องเดี๋ยวนี้มันพัฒนาไปมากแล้ว
เห็นเล็กๆบางๆ ใช่ว่ามันจะไม่มีอะไร
โอ้ยย ลายไหล ขอบคุณหลายๆ 🙂
ราคาเกือบ สี่หมื่นบาท!…. ซื้อกล้อง dslr แล้วยังมีเงินเหลือซื้อโทรศัพท์เรือธงอีกเครื่อง!!!
อยากให้มีซักค่ายเอาเซนเซอร์ foveon ของ sigma มาพัฒนาใส่มือถือจริงๆ ภาพคงจะสุดยอดมากมาย \0/
Ultra pixel ใน HTC One ไงครับ
็Ultra pixel ใน HTC One ยังเป็น Bayer เซนเซอร์ ไม่ใช่ 3 ชั้นแบบ Foveon นะครับ
รู้ราคาแล้ว ใช้ตัวปกติต่อไป ……….
ราคาไปซื้อ nikon1 + Smartphone Top ๆ ได้เลย = =
ที่อังกฤษ ภาษีแพงครับ ตัวนี้ขายที่อังกฤษอยู่ประมาณ 700pound ซึ่งถ้าขายในตลาดโลกก็ประมาณ 700USD น่าจะอยู่ที่สองหมื่นต้นๆได้ครับ ตีว่าน่าจะราคาพอๆกับ NOTE4
ได้ราคานี้มาจากไหนครับ
ไหนๆก็ไหนๆละ น่าจะใส่ optical zoom มาให้ซะหน่อยนะ สัก 3x ก็ยังดี
ถ่าย macro mode ได้ใกล้สุดระยะประมาณเท่าไหร่ครับ? ขอบคุณครับ
ประมาณ 5 เซนต์ครับ
ขอบคุณมากครับ เหมาะกับผมมาก ใช้แค่โทร + ถ่ายรูป
ขอถามแบบบื่อๆ ไม่มีความรู้เลยนะครับ
เทียบกับ SS k zoom แล้วเป็นอย่างไรครับ
ผมว่า K Zoom เรื่องคุณภาพของภาพมันไม่น่าจะไปสู้เค้าได้ครับ(ดูที่ราคาก็น่าจะพอประมาณได้อะนะ) แต่ถ้าแลกกับ Optical 10X และราคา ผมชอบ K Zoom มากกว่า เพราะภาพที่ได้ก็ไม่ได้ต่างกันราวฟ้ากับเหว 🙂
K Zoom มีดีที่ได้ Optical Zoom 10x เท่านั้นเองครับ ถ้าไม่เน้นว่าซูมได้ คุณภาพยังสู้กล้องมือถือหลายๆยี่ห้อไม่ได้นะครับ ถ้ายิ่งเทียบกับตัวนี้ยิ่งห่างครับ แต่ถ้าชอบซูม ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นเท่าไหร่นัก นอกจาก K Zoom ครับ
หูยยย พูดซะผมอยากขาย K Zoom ผมทิ้งเลย
"Galaxy K Zoom. The 20.7MP 1/2.3-inch CMOS sensor is one of the best around, but only "one of" – it seems to be the same one installed in the Sony Xperia Z2."
ตอบในฐานคนที่เคยใช้ Kzoom นะครับ จากภาพตัวอย่างของกระทู้นี้ กิน Kzoom หลุดลอย แต่การทำ Optical zoom ระยะไกลๆ Kzoom ยังกินครับ
ผมลองค้นใน Ebay ราคา CM1 อยู่ในช่วง 48-50k บาทครับ (ship จาก UK)
(นอกเรื่อง ถ้าท่าน HD_Mania รีวิวจนหมดแล้วอยากปล่อย ถ้ากรุณานึกถึงผมเป็นคนแรกจะเป็นพระคุณมาก ขอบคุณครับ)
ราคาแบบนี้ จัด DSLR แล้วเอาแอนดรอยด์กลางๆ ค่อนสูง ได้อีกเครื่องเลยนะเนี่ย
น่าสนใจ หน้าตาก็สวยงาม
อยากได้
อยากได้
อยากได้
อยากรู้ว่าแบตจะรอดถึงวันป่ะนี่
สุดยอดง่ะ แล้วราคาสุดยอดมั้ย ^_^
ผมเพิ่งซื้อมือ 2 จากเวบ B&H (http://www.bhphotovideo.com) แต่สภาพใหม่กริ๊ป เหมือนของใหม่ ราคาอยู่ที่ 419 USD ก็ราว ๆ 18000 บาท รวมค่าส่ง แต่โดนอากรกับ VAT เข้าไปอีก 2152 บาท ก็กลายเป็น 20000 นิด ๆ ครับ
พูดถึงคุณภาพภาพที่ได้ ถือว่าสุดยอดในบรรดากล้องมือถือด้วยกันครับ เรื่องละลายฉากหลังนี่เชื่อได้เลย แม้ว่าจะเทียบชั้นกับพวก APS-C ไม่ได้ก็เถอะ
ข้อดีอีกอย่างของกล้องนี้คือ ตัว Lumix camera app มีทุก mode เหมือนกล้อง high-end compact สามารถปรับได้ทั้ง aperture ตั้งแต่ 2.8 ถึง 11, ปรับความเร็วชัตเตอร์, ISO, White Balance, Exposure Compensation ถือว่าสมกับราคาครับ
ส่วนตัว android phone ก็โอเคครับ สามารถ upgrade เป็น lollipop ได้ แต่แค่เวอร์ชั่น 5.0.2 ตามที่ panasonic ออก firmware มาให้
ภาษาในเครื่อง ไม่มีไทยให้เลือกนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะสามารถติดตั้งแป้นพิมพ์ไทย ก็สามารถพิมพ์ภาษาไทยและอ่านภาษาไทยได้ ไม่มีปัญหา แค่เมนูเป็นอังกฤษอย่างเดียว
จากการลองใช้งานมาสองสามวัน มีข้อสังเกตดังนี้ครับ
– ตัวเลนส์ไม่มี lens cover มาให้ เวลาวางกล้องหรือเอากล้องใส่ในกระเป๋ากางเกง ค่อนข้างระแวงกลัวว่าเลนส์จะเป็นรอย ครั้นจะหา case มาใส่ ก็ช่างหายากเย็นเหลือเกิน เท่าที่ดูในเน็ต มีแต่แบบซอง ซึ่งไม่สะดวกและเพิ่มน้ำหนักมาก ทางออกของผมคือ หา extension tube ขนาด 37มม. และเอา UV filter มาครอบ เราไม่สามารถเอา UV filter ขนาด 37มม.ใส่ตรง ๆ ได้ครับ เพราะเวลาใช้งานกล้อง ตัวเลนส์จะยื่นออกมาอีกราว ๆ 1 ซม.
– เวลาเลือกขนาดของภาพ ถ้าเลือกเป็น jpeg หรือ RAW การบันทึกภาพจะทำได้รวดเร็ว แต่เมื่อไหร่ที่เลือก RAW+jpeg มันจะขึ้นคำว่า "processing" อยู่ราว ๆ 5 วินาทีกว่าจะถ่ายภาพต่อไปได้
– จากข้อก่อนหน้านี้ ทำให้ผมต้องเลือกบันทึกภาพเป็น RAW ซึ่งแม้จะกินเนื้อที่เก็บมากกว่า แต่ผมมี SDXC ขนาด 128 GB จึงไม่มีปัญหาเรื่องที่เก็บ แต่มีปัญหาข้างเคียงอย่างอื่นตามมา คือ ตัวกล้อง ไม่มี software สำหรับ edit หรือ convert ไฟล์ RAW ซึ่งเป็นรูปแบบของ panasonic เองมาให้ เวลาจะส่งภาพขึ้น facebook หรือ LINE ต้องหา software อื่นมาทำแทน ซึ่งผมก็ต้องใช้ Adobe Lightroom กับ Adobe Photoshop Express บน android ซึ่งโหลดได้ฟรี และใช้งานฟรี (ในตอนนี้) ถ้าลงทะเบียนขอ Adobe ID (ซึ่งก็ฟรีอีกเช่นกัน) ขั้นตอนทำงานคือ ถ่ายภาพ -> เปิด Lightroom -> ส่งภาพจาก LR ให้ Photoshop -> share ขึ้น social
– แบตเตอรี่ลดลงแบบพอรับได้ครับ วันนึงถ้าไม่ตะบี้ตะบันเล่นเกมหรือถ่ายภาพ ก็จะอยู่ได้ถึงเย็น การชาร์จต้องใช้ wall adapter ที่ให้มา หรือจะใช้สาย USB กับหัว adapter ของ samsung ก็ได้ ชาร์จเร็วอยู่ครับ แต่ไม่สามารถใช้ wireless charging ได้ ส่วนการต่อสาย USB กับคอมฯ ก็ charge ได้เหมือนกัน แต่ช้ากว่ามาก ๆๆๆ ไม่แนะนำครับ
– ตัวนี้ใช้ nanosim กับ microSDHC หรือ microSDXC นะครับ สามารถใช้งานกับเครือข่ายมือถือของไทยได้เลย เพราะเครื่องไม่ได้ล็อคมาจากโรงงาน
ถามว่าทำไมผมถึงซื้อกล้องตัวนี้ทั้ง ๆ ที่ pana ไม่ได้จำหน่ายในไทย ไม่กังวลเรื่องประกันหรือการซ่อมหรือ ผมก็คงตอบว่า เพราะมันตอบโจทย์การใช้งานของผมได้ลงตัวที่สุด ผมต้องการกล้องคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ติดตัวไปกับผมทุกที่ การรับประกันหรือการซ่อม คงต้องเอาไว้ว่ากันอีกทีครับ อย่างดี ผมก็คงใช้งานมันสักไม่เกิน 3 ปี น่าจะมีรุ่นใหม่มาแทน
อยากได้จังครับ