ในปีนี้เราได้เห็น Meizu นำสมาร์ทโฟนเข้ามาวางขายไปแล้วถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยเปิดตลาดมาด้วยรุ่น M2 Note และตามมาด้วย M2 และ MX5 ซึ่งรุ่น MX5 นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่มีสเปคดีที่สุดเมื่อเทียบกับ M2 Note และ M2 วันนี้เรามาดูการแกะกล่องพรีวิวของเจ้า Meizu MX5 สมาร์ทโฟนราคา 10,990 บาท กันดีกว่าว่าภายในกล่องนั้นมีอะไรบ้างและสัมผัสแรกจะเป็นอย่างไรครับ

 

แกะกล่อง

กล่องของ MX5 นั้นเป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเมื่อถือแล้วก็รู้สึกว่ามีน้ำหนักพอสมควรเลยทีเดียว โดยตรงกลางของกล่องก็จะมีคำว่า MX5 เขียนอยู่ พร้อมกับมีวงกลมสีๆ ให้ความรู้สึกเหมือนฟองอากาศ

คุณภาพของกล่องนั้นทำออกมาได้ดี ถ้ามองจากด้านข้างนั้นเหมือนกับว่าเป็นหนังสือเล่มนึงเลยละ และเวลาเราลากนิ้วด้านข้างกล่องก็จะให้ความรู้สึกว่ากำลังลากนิ้วผ่านหน้ากระดาษของหนังสือเลย

ส่วนสันปก.. เอ้ย! สันกล่องอีกด้านของกล่องนั้นจะมีเพียงแค่โลโก้ของ Meizu อยู่

ด้านหลังของกล่องก็จะมีข้อมูลรายละเอียดของตัวเครื่องและคลื่นที่รองรับ พร้อมทั้งยังบอกถึงอุปกณ์ที่อยู่ภายในกล่องด้วย แต่เป็นภาษาจีนนะ แต่น่าจะพอเดาๆ กันออก

ได้เวลาเปิดกล่องแล้ว.. เมื่อเปิดมาปุ๊บ ก็จะเจอกับเครื่อง MX5 ที่ไม่มีท่อนล่าง.. ไม่ใช่! เจอกับบุ๊คเล็ตที่แนะนำตัวเครื่องตะหากละครับ โดยจะเป็นภาษาจีนทั้งหมด

เปิดมาอีกหน้าก็พูดถึงฟีเจอร์ของ MX5 อย่าง mCharge และ mTouch 2.0

เปิดเข้ามาด้านในสุดก็จะมีหน้าตาแบบนี้เลย อุปกรณ์ทุกอย่างถูกแบ่งช่องไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยที่ตัวเครื่องนั้นจะอยู่ด้านล่างของสมุดคู่มือ(ที่เป็นภาษาจีน) ซึ่งจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนทางด้านขวาบนเป็นที่จิ้มซิม และด้านขวาล่างเป็นช่องของอะแดปเตอร์ชาร์จไฟครับ

ที่จิ้มซิมของ Meizu นั้นมีรูปร่างคล้ายกับพัดและทำรูเป็นรูปก้อนเมฆ พร้อมเขียนไว้ว่า Flyme ซึ่งเป็น OS ของ Meizu เอง

ส่วนอะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่มาในกล่องของ Meizu MX5 นั้นรองรับการชาร์จแบบ mCharge หรือการชาร์จไฟแบบเร็วในแบบของ Meizu โดยที่จะปล่อยแรงดันไฟที่ 12V และกระแสที่ 2A 

แล้วสายชาร์จไฟ microUSB มันหายไปไหน?? สาย microUSB ในกล่องนั้นจะแอบอยู่ด้านล่างของเครื่อง MX5 อีกทีหนึ่ง หลบอยู่ในช่องของมัน โดยที่สายนั้นก็เป็นสาย microUSB สีขาวแบบมาตรฐานทั่วไปครับ 

 

การออกแบบตัวเครื่อง

ดูภายในกล่องกันแล้วก็มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างดีกว่า สมาร์ทโฟนของ Meizu ที่มีมาเปิดตัวในบ้านเราทั้งหมด 3 รุ่น นั้น มีเพียงแค่ MX5 รุ่นเดียวเท่านั้นทีใช้วัสดุเป็นโลหะ และด้านหน้าก็เป็นกระจกทั้งหมด แถมน้ำหนักยังเบา และเครื่องยังบาง ทำให้ดูค่อนข้างที่จะพรีเมี่ยมเลยทีเดียว

ด้านหน้าของเครื่อง MX5 นั้นดูเรียบง่าย โดยเราจะมองเห็นแค่เพียง รูหูฟังสนทนาและกล้องหน้าด้านอยู่ทางด้านบน ไฟ LED แจ้งเตือน กับเซนเซอร์รับแสงอาจจะต้องเผ่งหน่อยถึงจะเห็น

ส่วนด้านล่างของหน้าจอก็จะเป็นปุ่ม home อย่างเดียว ไม่มีปุ่ม back หรือ ปุ่ม menu/recent apps ซึ่งอันนี้ก็เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งของทางด้าน MX5 ที่ Meizu ได้ใส่เข้ามาด้วย โดยฟีเจอร์นี้มีชื่อ mTouch 2.0 รายละเอียดไว้รออ่านในรีวิวอีกทีนะครับ

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สอง

ด้านล่างของตัวเครื่อง MX5 มีไมโครโฟนสนทนา ช่องเสียบ microUSB 2.0 และ ลำโพง 

ด้านขวาของตัวเครื่องก็จะมีปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าปุ่มยังทำออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก เหมือนว่ามันยังไม่เข้าที่พอดี สามารถขยับได้เล็กน้อย และน่าจะทำสัมผัสของปุ่มพาวเวอร์ให้แตกต่างกับปุ่มเพิ่มลดเสียงอีกหน่อย เพราะสัมผัสนั้นเหมือกันเกิดไป แต่อันนี้ก็ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ นะครับ

ส่วนทางด้านซ้ายของตัวเครื่องก็จะมีเพียงแค่ช่องเสียบซิมเท่านั้น

โดยถาดซิมนั้นรองรับ Nano-SIM ทั้ง 2 ซิมเลย แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเพิ่ม microSD การ์ดได้ แต่รู้สึกว่าถาดใส่ซิมก็จะเหมือนกับทางฝั่งของปุ่มที่รู้สึกว่ามันยังไม่เข้าที่พอดี สามารถขยับได้เล็กน้อยเช่นเดียวกัน ซึ่งอันนี้ก็ความรู้สึกส่วนตัวอีกนั่นแหละ

มาดูด้านหลังกันบ้าง โดย MX5 นั้นก็ยังคงเอกลักษณ์ในดีไซน์ของ Meizu รุ่นก่อนๆ อยู่ ซึ่ง MX5 นี้จะใช้วัสดุเป็นโลหะและขอบทั้ง 4 ด้านจะโค้งมน เช่นเดียวกับมุมทั้ง 4 ด้าน ที่โคงมนเหมือนกัน

ส่วนกล้องนั้นก็จะอยู่ตรงกลาง และไฟแฟลชอยู่ถัดลงมา แบบรุ่นก่อนๆ แต่รอบนี้กล้องของ MX5 จะนูนขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังดีที่มีขอบป้องกันอยู่ ถัดจากแฟลชลงมาก็เป็น laser autofocus ที่ช่วยในเรื่องของการโฟกัสให้ไว้ขึ้น เรียกได้ว่ามาเสริมแกร่งให้กับกล้องของ MX5 อีกทีนั่นเอง

ในตอนนี้ก็ขอจบการแกะกล่องและพรีวิวของ Meizu MX5 เพียงเท่านี้ก่อน โดยการ packaging ของ MX5 นั้นถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แต่ตัวเครื่องนั้นก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้าง ส่วนฟีเจอร์และซอฟท์แวร์ รวมไปถึงเรื่องของกล้องก็รอชมในรีวิวเต็มๆ อีกทีนะครับ