ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือจากจีนถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมาก เพราะราคาขายที่ถูกกว่ายี่ห้อดังๆแต่ว่าสเปคแทบจะไม่แพ้หรือมีบางอย่างดีกว่าด้วยซ้ำ แล้วยี่ห้อ Xiaomi หรือ Mi ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะยอดขายในจีนในบางช่วงสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับ 1 แซงทั้ง Apple และ Samsung ขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ

เอาล่ะครับ มาเริ่มกันเลย วันนี้เราจะมา UNBOX มือถือตัวแรงสุดจาก Xiaomi กัน นั่นก็คือ Mi Note Pro พร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่างหูฟังและเคสกัน

เริ่มจากตัวโทรศัพท์ก่อนเลย ตัวที่ผมเอามา UNBOX จะเป็นสีขาวขอบทองรุ่น 64g นะครับ มาดูสเปคแบบคร่าวๆกันก่อน

– CPU Qualcomm Snapdragon 810
– GPU Adreno 430
– LTE (B1/B3/B7) ใช้ 4G 2100 บ้านเราได้
– WCDMA (B1/B2/B4/B8)
– GSM (B2/B3/B5/B8)
– RAM 4GB (LPDDR4 1600Mhz)
– ROM 64GB (eMMC 5.0 )
– DISPLAY 5.7 inches (2560×1440 QHD) IPS LCD with Corning Gorilla Glass 3
– Dual Sim (1 micro + 1 nano) dual stand-by
– ไม่สามารถใส่ Micro SD เพิ่มได้
– กล้องหลัง 13 ล้าน (sony IMX214) พร้อมระบบกันสั่น + Dual-LED (dual tone) flash
– กล้องหน้า ultrapixel 4 ล้าน
– ชิปเสียง ESS ES9018K2M (support 24bit/192KHz) + Lossless (APE/FLAC/DSD/WAV)
– สนับสนุน Qualcomm QuickCharge 2.0
– ไม่มี NFC
– Software MIUI (Lollipop 5.0 )
– ขนาดตัวเครื่อง 155.1 x 77.6 x 7 มิลลิเมตร
– แบตเตอรี่ 3,090 มิลลิแอมป์

จะเห็นได้ว่าสเปคมาแบบจัดเต็ม จุดเด่นคือ CPU ใช้ตัวแรงสุดจาก Qualcomm และใส่ RAM มาถึง 4G และชิปเสียงระดับเทพ

มาเริ่มแกะกล่องกันเลยครับ


กล่องมาในรูปแบบกล่องกระดาษสีดำด้าน มีโลโก้ Mi สีเงินเงาเด่นตัดกับสีดำ


ด้านหลังของกล่อง มีบอกรายละเอียดของตัวโทรศัพท์และสเปคแบบคร่าวๆ


สเปคที่บอกไว้หลังกล่อง พร้อมสติกเกอร์กันของปลอมที่ทำคล้ายๆธนบัตรเลย มีลายนูนพร้อมแถบสะท้อนแสง เรียกได้ว่าเอาไว้เช็คว่าปลอมหรือไม่ปลอมได้เลย (แต่ถ้าเจอกล่องแท้ แต่โทรศัพท์ปลอม นั่นคงช่วยไม่ได้นะครับ)


เปิดกล่องมาก็จะเจอโทรศัพท์วางเอาไว้รอให้เราสัมผัส และที่หน้าจอจะมีฟีลม์ด้านปิดกันหน้าจอเอาไว้ พร้อมบอกรายละเอียดว่าปุ่มไหนไว้ทำอะไรบ้าง (เป็นภาษาจีน)


พลิกด้านหลังก็จะเจอฟีลม์ปิดด้านหลังเอาไว้ พร้อมบอกรายละเอียดของตัวสินค้า และที่เลนส์ของกล้องจะมีแผ่นปิดกันรอยเอาไว้


เปิดเอาโทรศัพท์ออกมาก็จะเจออุปกรณ์ด้านใน



อุปกรณ์ก็จะมีที่เสียบชาร์จจากปลั๊กไฟบ้านและสาย USB (ที่ชาร์จไม่สนับสนุน Qualcomm Quick Charge) (สนับสนุน Qualcomm Quick Charge)


เปิดซองทางด้านขวามาก็จะเจอเข็มจิ้มถาดซิม และข้างในจะมีคู่มือของโทรศัพท์


แล้วที่เหลือคือกล่องว่างๆเลยครับ ดูเหมือนจะมีอะไรข้างใน แต่ไม่มีแล้วนะครับ (ไม่มีแถมหูฟัง)


มาดูที่ตัวโทรศัพท์กันบ้าง ด้านหลังเวลาลอกแผ่นปิดออกแล้ว เป็นสีขาวเงาๆสวยงาม ที่ขอบข้างค่อยๆโค้งลงไป (เหมือน Samsung Galaxy S6 edge ที่กระจกโค้งอยู่ด้านหน้า แต่ตัวนี้โค้งอยู่ด้านหลังแทน) มีโลโก้ Mi สีทอง และขอบเลนส์รอบๆตัวเลนส์เป็นสีทองเช่นกัน และข้างๆจะมี Dual Flash


ด้านหน้าตัวเครื่อง สีขาวสวยงาม ขอบกระจกเป็นแบบโค้งเล็กน้อย (2.5D) พร้อมโลโก้ Mi สีเงินที่มุมซ้ายด้านบน










ทีนี้ก็มาดูรอบๆตัวเครื่องกันครับ เนื่องจากด้านหลังมีการทำให้โค้งลงมาที่ด้านข้าง ทำให้เวลาดูด้านข้างแล้วจะรู้สึกว่ามันบาง ซึ่งผมว่าทำออกมาได้สวยงามดีครับ สีทองตัดกับสีขาวก็ทำออกมาได้ดี

ทีนี้มาดูอุปกรณ์เสริมกันบ้าง เริ่มจากหูฟังกันก่อน (ซื้อแยก)

ตัวนี้เป็นรุ่น Piston V.3 ซึ่งเป็นตัวล่าสุด


เปิดกล่องออกมาก็จะเจอกล่องหูฟังอยู่ในซองพลาสติกด้าน



ด้านหน้าและด้านหลังของกล่อง จะมีบอกสเปคของหูฟังเอาไว้




เปิดกล่องออกมาด้านหน้าก็จะเจอหูฟังเก็บไว้อย่างเรียบร้อย แล้วพอพลิกด้านหลังขึ้นมาก็จะเจอที่เอาไว้ปรับขนาดของหูฟังให้เข้ากับขนาดของหูเรา (ซึ่งมีผลมากต่อเสียง) มีหลายขนาดให้เลือก ทำออกมาได้อย่างสวยงาม

ที่นี้มาดูเคสกันบ้าง

เคสตัวนี้เป็นแบบใส ทำจากซิลิโคนครับ


แกะกล่องออกมาก็จะเจอกับถุงพลาสติกแบบด้านบรรจุเคสไว้ด้านใน


แกะออกมา จะเห็นเคสซิลิโคนที่บางและใสมาก พร้อมมีรอยปั้มตามโลโก้ของเครื่อง เพื่อเวลาใส่เข้าไปจะแนบไปกับโทรศัพท์ได้อย่างเนียนๆ



เวลาใส่เคสเข้าไปแล้ว แทบจะดูไม่ออกว่าใส่ เพราะทำออกมาได้ใสมากๆ ยิ่งด้านหลังแทบจะดูไม่ออกเลยทีเดียว ส่วนด้านหน้าตัวเคสจะทำให้สูงกว่าหน้าจอโทรศัพท์นิดนึง เนื่องจากจอเป็นแบโค้งๆที่ขอบ ถ้าตกลงพื้นมีโอกาสจอแตกสูงมาก แต่เคสนี้ช่วยทำให้ลดโอกาสจอแตกไปได้มาก เพราะเคสทำให้สูงกว่าหน้าจอโทรศัพท์นิดนึงนี่แหละครับ แล้วข้อดีที่ชอบเคสตัวนี้คือทำให้จับโทรศัพท์แล้วไม่ลื่น ส่วนด้านหลังโดยปกติแล้ว ถ้าโทรศัพท์ผิวเงาเจอกับเคสซิลิโคนใสๆ มันจะต้องมีส่วนที่ติดกันแล้วดูเป็นรอยด่างๆทุกเครื่อง หรือถ้าเคสไหนทำจุดไว้เยอะๆมันก็จะไม่ติด แต่ก็จะไม่ใส แต่สำหรับเคสตัวนี้ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นจุดเล็กๆเต็มพื้นที่ด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มันติดกับโทรศัพท์ แต่ทำออกมาได้ดีมาก คือยังใสปิ้งและไม่ติดกับโทรศัพท์ ซึ่งผมรู้สึกชอบมากที่ทางผู้ผลิตเอาใจใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้

สรุปคร่าวๆหลังจากได้จับมาสักพัก

ขอสรุปแบบคร่าวๆละกันนะครับ ความรู้สึกตอนจับถือหลังใส่เคสถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่ลื่น อาจะเป็นเพราะว่าผมมือใหญ่ เลยไม่ได้รู้สึกว่าใหญ่เกินไป แต่การใช้งานหลายๆครั้งก็ไม่สะดวกที่จะใช้มือเดียวเหมือนกัน แล้วการใช้งานโดยรวมถือว่าทำได้เร็วลื่นดีมาก ลองฟังเพลงกับหูฟังก็เสียงดี หน้าจอก็ทำออกมาได้ดี สามารถปรับสีให้ตรงกับที่เราชอบได้ด้วย แล้วที่สำคัญ ผมความร้อนอยู่ในระดับที่รับได้ครับ ไม่ร้อนไปกว่าคู่แข่ง

มีคะแนน Benchmark เป็นของแถม

เอามาให้ดูกันคร่าวๆนะครับ ก็ต้องถือว่าแรงจริงๆ

ขอจบการ UNBOX ไว้แค่นี้ เอาไว้รอบหน้ารอทดสอบจัดเต็มกับคู่แข่งตัวอื่นๆนะครับ