Replies from tekkasit
น่าจะไปเปิดอีกกระทู้นะครับ
เท่าที่ทราบ มันเป็นปัญหาที่ระดับฮาร์ดแวร์ครับ คือ iPhone ออกแบบสายสัญญาณให้ไม่เหมือนกับ Nokia โดยที่สลับสัญญาณ
ปลายหัวแจ็คตัวผู้ -> โคน
Nokia (Samsung): Left/Right/Mic/Ground
Apple: Right/Left/Ground/Mic
พอฟังเสียงด้วยสายสลับกัน เสียงจะค่อยลงไป ต้องคอยกดไมค์ เพื่อทำให้มันลง Ground ทำให้มันดังขึ้นครับ
การแก้ที่ซอฟท์แวร์น่าจะทำไมไ่ด้ จะให้ดีอาจจะต้องหาซื้อ adapter มาเดินสายใหม่ หรือซื้อที่มีสำเร็จ น่าจะง่ายกว่า
อยากรู้ว่า Samsung I9003 ตัวนี้ firmware รุ่น I9003ZCKA6 รึเปล่าครับ? หรือตัวอื่นๆ
แต่ดูเจตนาของเจ้าของกระทู้ เค้าแค่ต้องการประสบการณ์การใช้งานที่ดี ที่ออกมาจากโรงงานเลยล่ะครับ และดูไม่ได้มีความต้องการที่จะบริหารจัดการทรัพยากรที่ได้มาแล้วด้วยตัวเอง (หมายถึงการนั่ง root, lagfix, Odin, ฯลฯ)
ซึ่งถามว่าผิดอะไรไหม ก็ไม่ ผมเป็นคนซื้อ ผมก็อยากได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดี
แต่พูดจริงๆ อย่างน้อยก็ Galaxy S เนี่ย ยังไม่ใช่ถึงจุดนั้น เรื่อง lag นี่เป็นอะไรที่บ่นกันมาก ถึงมากที่สุด ทั้งไทยและต่างประเทศ เพราะมันกระทบการใช้งานในทุกๆวัน
ส่วน อันดับที่สองคือเรื่อง GPS ห่วย
ซึ่งปัญหาทั้งสองข้อนี้ แก้ที่ตัว stock firmware (อย่างน้อยก็ในแถบบ้านเรา) ไม่ได้เลย!
ในมุมหนึ่ง บางท่านอาจจะมองว่า เฮ้ย มา root ได้ ทำ lagfix ได้ แต่นั่นคือการดิ้นรนของผู้ซื้อ เพื่อ workaround ข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ขายบรรจงผลิตมาอย่างผิดพลาดต่างหาก (RFS กับ GPS connector)
ความคิดเห็นของผมนะครับ มันไม่ใช่ความผิดศูนย์ที่ไทยหรอกครับ
ต้องเรียนตรงๆแบบไม่ต้องเกรงใจ Samsung ตรงนี้ ว่า สำหรับ Galaxy S นั้น มาจากโรงงาน ไม่โมดิฟาย ไม่แฮ็ก พยายามทำให้อยู่ในกรอบในระเบียบ EULA ที่ไม่หลุดประกันนั้น ต้องเรียนว่า ไม่สามารถขจัดปัดเป่าปัญหาการแล็ค/กระตุก/ไม่ติดปลายนิ้ว/หน่วงๆ ได้เลยครับ อย่างเอาไปเทียบกับมาตรฐาน iPhone 3G, 3GS, 4 เลยครับ มันไม่ลื่นติดนิ้วขนาดนั้น
และถึงแม้จะอัพเป็น รุ่น 2.2.1 อย่างเป็นทางการ (ที่เพิ่งมาสำหรับยุโรป แต่ยังไม่มาสำหรับเมืองไทย) ก็ไม่ทำให้หมดไปครับ
ดังนั้น สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่คิดว่า เรื่องช้า หน่วง ไม่ตอบสนองทันใจ ทุกท่วงท่า ทุกเวลา และทุกกรณีเป็นเรื่องสำคัญ และไม่ถนัดที่จะทำการโมฯ แนะนำจริงๆว่า ขอให้แนะนำให้ญาติพี่น้องท่านขายทิ้งไปซื้อเครื่อง iPhone4 (ด้วยความสัตย์จริง ผมก็ใช้ SSGS อยู่) จะได้ตัด(สิน)ใจก่อนได้เลย
แต่ถ้า มีทักษะทางคอมพิวเตอร์บ้าง การโมฯ โดยเฉพาะการใส่เฟิร์มแวร์รุ่นที่ไม่ใช่มาตรฐาน (เช่น Darky) ดูจะเป็นคำตอบสุดท้าย เพื่อให้ได้ความเร็วที่ลื่นปรี้ด ติดนิ้ว (แต่อาจจะแลกมาด้วย การใช้งานแบตที่หนักขึ้น อายุต่อการชาร์ตสั้นลง)
อันที่จริงก็ถูกทั้งคู่ครับ Class คือกำหนดความเร็วขั้นต่ำสุดของการเขียน
ทว่าในทางปฏิบัติ SD พวกนี้ ประสิทธิภาพในการเขียนช้ากว่าการอ่านประมาณเท่าตัวครับ
ดังนั้นเมื่อข้อกำหนดระบุความเร็วต่ำสุดในการเขียน ก็เหมือนเป็นการระบุความเร็วต่ำสุดของการอ่านด้วยไปในตัว
แถมความเร็วที่ได้จะมีปัจจัยอื่นๆด้วย เช่นความเร็ว CPU, Android รุ่นที่ใช้ปรับแต่ง I/O ดีแล้วรึยัง เช่น ถ้าเอามาทดสอบกับ Internal Drive บน PC ส่วนใหญ่จะได้เลขที่ดีกว่าที่วัดได้บน Android
เป็นไปไม่ได้ครับ น่าจะเข้าใจผิดแล้วครับ ศูนย์ซัมซุงไทยจะไม่ควรจะอัพเฟิร์มแวร์ที่พูดมาสักตัวเลยครับ (JP4, JPB) รึว่าเดียวนี้เค้าเปลี่ยนนโยบาย ศูนย์ฯ รับอัพเกรดเฟิร์มแวร์ให้สารพัดรุ่น ?!?
Stock ROM ของแถบนี้ (ไทย, เวียดนาม, สิงค์โปร์) ควรจะเป็น I9000DXJPE หรือ I9000DXJPA เท่านั้นครับ
ส่วน รหัสที่คุณว่าไม่ว่าจะเป็น JP4 หรือ JPB ก็ไม่ใช่ของไทยครับ (อาหรับ และยุโรป) ไม่มีของไทยครับ ซึ่งถ้าเป็น Stock ROM จะไม่มีข้อมูลของผู้ให้บริการในไทย, ไม่มี keyboard ไทย, Swype ไทย, FM ช่วงสัญญาณของไทย
ไม่ต้องครับ สามารถลุยได้เลย แอพไม่หาย
ตอนนี้ก็ได้ Recovery Console v2 มาแล้ว ลง CWM Recovery แล้ว ใช้งาน Nandroid Backup ได้แล้ว
ตอนแบ็คอัพ ROM มันเก็บลง internal sd ขนาดประมาณ 500M
กลุ้มใจนิดๆเหมือนกัน นึกว่ามันจะสามารถแบ็คอัพลงตรงๆ external SD ได้เสียอีก
คือฝันว่าจะได้แบ็คอัพได้โดยไม่ต้องพึ่งพา PC เลย
จับ schedule ไว้ สุดสัปดาห์แบ็คอัพแบบโหดๆ เก็บสัก 2 ชุด
แล้วระหว่างสัปดาห์ก็แบ็คอัพ Data (SMS, Contact) ด้วย myBackup แล้วแบ็คโปรแกรม Titanium Backup (เพราะ myBackup แบ็คได้ช้ามากๆ)
ปล. ถามเองตอบเอง
Tango เลยครับ Video Call 😀
– z4root รุ่นล่าสุดยัง ใช้กับ JPE ไม่ได้ครับ ต้องหาวิธีอื่นครับ ส่วนเมื่อ root ไม่ได้ ก็ทำ lagfix ไม่ได้ ก็ไม่แปลกครับ
– ฟอนต์ภาษาไทย ที่ว่า ไม่มี นั้นเป็นอย่างไรครับ?
– ดูสิว่าเครื่องเราใช้งาน Download mode ([Volume-down] + [Home] + [Power]) กับ Recovery mode ([Volume-Up] + [Home] + [Power]) ได้รึเปล่า
– ติดตั้ง Samsung Kies รุ่นล่าสุด
– ถ้าต้องการเซฟ ก็ติดตั้งผ่าน Kies ไว้ก่อน (สำหรับรุ่น 2.1 ไปที่ Settings -> About phone -> USB settings -> Samsung Kies รุ่น 2.2 เมนู USB settings ย้ายไปอยู่ใต้ Settings -> Wireless and network) แล้วไปที่หน้า Home screen (ไม่ใช่ App Drawer)
– เสียบสาย USB แล้วเครื่องพีซีควรจะ Pop-up หน้าต่างว่า ‘Portable Device’ …What do you want Windows to do?… ถ้าขึ้นก็จะสบายหน่อยล่ะ กด Cancel ออก
– เปิด Kies ขึ้นมา ระบบจะตรวจเจอ Samsung Galaxy S โดยเป็นไอคอนว่า GT-I9000 อยู่ที่ด้านขวาบนของจอ
– ถ้าเปิด Kies แล้วขึ้นว่า Connecting Device ตลอด (เกินนาที) หรือเสียบแล้วเงียบๆ ไม่ขึ้นอะไร หรือขึ้น notification icon แปลกๆ อาจจะต้องลองเปลี่ยนพอร์ต USB เอา (ถ้าไม่เจอจริงๆ อาจจะต้องลองทางอื่นๆในการอัพเกรด เช่น Odin)
– กดปุ่ม Firmware Upgrade (ไอคอนบาร์ด้านล่าง อันที่สองนับจากขวาสุด)
ก็เวลาอัพเกรด ไฟอย่าตก ก็แค่นั้น ถ้าได้สามปุ่ม Recovery Mode, Download Mode ได้ อันนี้ก็ใจชื้นขึ้นอีกนิด
ปล. อัพเกรดเฟิร์มแวร์นี่ SMS, Call History เกลี้ยงนะครับ ถ้าอยากจะเก็บไว้ แนะนำ MyBackup ครับ รุ่นฟรีก็ยังทำงานนี้ได้
ปกติ GPS ต้องการการมองเห็นดาวเทียมอย่างน้อย 3-4 ดวง ถ้าไปใต้ทางด่วน มีอะไรครอบหัว มองไม่เห็นท้องฟ้า นี่น่าจะกลุ้มได้นะครับ ไม่ทราบว่าไปเจอแถวไหนอ่ะ
ผมยังเป็นอยู่นะ ถ่ายไป แต่เบราซ์ไม่เจอ?!?
หรือถ่ายไปสามภาพ พังไปภาพหนึ่ง
จะลองอีกทีคราวนี้จะลองใช้ internal SD แทน
เห็นในเว็บบอร์ดก็มีคนบ่นบ้าง แต่น้อยมาก และไม่ค่อยมีคน response เท่าไร ไม่ทราบว่าน้อยราย หรือปัญหาเฉพาะตัวจริงๆ
แชร์ละกัน ที่สิงค์โปร์ กับผู้ให้บริการโทรศัพท์ SingTel ก็ยังมีขายอยู่นะ แม้จะเค้าทำตลาด SS Tab มากกว่า แต่ก็ยังมีขายนะครับ