Replies from shimi
ลองแล้วใช้ได้ไหมครับ พอดีจะดูที่เครืองให้แต่ไม่มีเล็บกดซิมออกมาครับ ลองใส่ดูก่อนครับ
ผมเองใส่ผิดหลายรอบ เครื่องก็ยังไม่รับซิมเหมือนกันครับ ถ้าใส่ถูก เครื่องจะตรวจจับได้ครับ
ความจริงผมอยากให้ทุกคนติดตั้ง Firmware นี้แบบ Clean Install เพื่อให้เครื่องทำงานได้เสถียรที่สุด ไม่มีแฮงค์ ไม่มีการช้า และไม่มี Force Close ซึ่งจำเป็นต้องใช้ไฟล์อีก 1 ไฟล์ เพื่อใส่เข้าไปใน Odin แล้วระบบจะคืนค่าต่างๆ ให้เหมือนเครื่องใหม่ จะทำให้เครื่องมีสถานะเหมือนติดตั้งมาจากโรงงานครับ
เครื่องผมใช้วิธีนี้ ทำให้เครื่องทำงานดีมากๆ เร็วๆ และเสถียรตลอดเวลา
อีกประการหนึ่งคือ เครื่องผมไม่ได้ Root และไม่ได้ติดตั้ง Recovery อื่นๆ เพิ่ม รวมทั้งไม่ได้ Flash อะไรที่ทำให้เกิดการรบกวนระบบฯ จึงทำให้เครื่องทำงานดีมากไม่มีปัญหาครับ
วิธีติดตั้งที่ผมแนะนำในกระทู้ที่ 10 เป็นการติดตั้งอย่างเรียบง่ายและสามารถใช้งานได้ แต่อาจจะยังหลงเหลือการตั้งค่าที่ไม่พึงประสงค์ หมายถึงไม่เข้ากับ Firmware ที่เป็น ICS นี้อยู่บ้าง แต่ก็ใช้งานได้ครับ
แนะนำเพิ่มเติมว่า หลังจากติดตั้ง firmware แล้ว ให้ลบแอพที่เป็นของอิตาลี ออกจากเครื่องประมาณ 4 แอพครับ เพราะเราไม่ได้ใช้ และก็ใช้ไม่ได้ด้วยสิ จะทำให้เครื่องเบาขึ้นอีกนิดครับ
ต้องดูว่าใส่ซิมกลับด้านหรือเปล่าครับ เพราะรุ่นนี้การใส่ซิมจะงงๆ อยู่ ให้ดูที่ฝาปิดซิมครับ เขาจะมีรูปบอกอยู่ครับ
ผมเองยังใส่ผิดทุกครั้งที่ใส่ซิมเลยครับ
รองรับ 3G ได้ทุกระบบครับ
สำหรับของ True ต้องเพิ่ม APN แล้วตั้งค่า 4 ค่าก็ใช้งานได้แล้วครับ
จับสัญญาณเร็วมากครับ
ลง driver ใหม่ครับ
อยากจะแนะนำวิธีวิเคราะห์ปัญหาให้ครับ เพื่อที่ว่าเราจะได้แก้ปัญหาได้ด้วยตนเองทันทีนะครับ
หลักการมีอยู่ว่า ดูว่าปัญหาของเราคืออะไร? ในกรณีนี้ปัญหาคือ เครื่อง Tab เชื่อมต่อ Odin ไม่ได้
1. ก็ดูว่าการเชื่อมต่อต้องมีองค์ประกอบใดบ้าง กรณีนี้ได้แก่
– เครื่องคอมฯ และพอร์ท USB ของเครื่องคอมฯ
– เครื่อง Tab และพอร์ทเชื่อมต่อของเครื่อง Tab
– สายซิงค์ของเครื่อง Tab กับคอมฯ
– USB Driver ของเครื่อง Tab รุ่นนั้นๆ
2. จากองค์ประกอบข้อ 1 ก็ต้องดูว่าข้อใดบกพร่อง?
– อาจเป็นได้ในข้อใดข้อหนึ่ง ดังนั้นอย่างแรกก็ควรดูพอร์ททั้งหมดว่ามันปกติหรือเปล่า
พอร์ทใดเสียก็ต้องแก้ไข เช่นพอร์ท USB คอมที่ใช้มีปัญหา ก็เปลี่ยนไปใช้พอร์ทอื่น
หรือขั้วพอร์ทของเครื่อง Tab หลวมหรือไม่ ถ้าหลวมก็ลองใช้มือกดในการเชื่อมต่อ
หรือ สายซิงค์เสียหรือเปล่า ถ้าเสียก็เปลี่ยนสาย
– เครื่อง Tab จะเชื่อมต่อกับคอมฯ ได้และโปรแกรม Odin จะรู้จักเครื่อง Tab เครื่องนั้นๆ
ได้ก็ต้องติดตั้ง USB Driver บนคอมฯ เครื่องนั้นๆ ก่อน ซึ่งโดยปกติถ้าคุณติดตั้ง
Samsung Kies แล้ว USB Driver ก็จะถูกติดตั้งพร้อมกัน ซึ่งถ้ายังไม่เคยติดตั้งมาก่อน
ก็ต้องติดตั้งให้เรียบร้อย แล้วถ้าเคยติดตั้งแล้ว เวลาเสียบสาย USB เข้ากับคอมฯ มี
Notifications ขึ้นว่า Your Device is ready to use. หรือยัง ถ้ายังก็หมายความว่า
เครื่องคอมฯ กับ tab ยังเชื่อมต่อกันไม่ได้ครับ
ลองดูนะครับ เพราะ Odin เป็นแค่โปรแกรม Flash โปรแกรมเข้าเครื่องฯ ดังนั้นถ้ามันเชื่อม
ต่อไม่ได้ก็หมายถึง เครื่องคอมฯ มันยังไม่ Detect เครื่อง Tab นั่นเองครับ
[size=40][color=#FF0000]เครื่องเอ๋อ! เครื่องช้า! เครื่องแฮงค์! เครื่องรีเอง! สาเหตุเกิดจากอะไรมาดูกัน[/color][/size]
…………………………..
[color=green]คาดว่าหลายคนที่ใช้แอนดรอยด์คงเกิดอาการเซ็งกันเป็นแถบๆ เพราะมันไม่ค่อยเสถียรเลย รีเครื่องบ่อย ปัญหาเยอะมาก แต่นั่นมันเป็นเพราะตัวระบบจริงๆ หรือเปล่า? หรือเราเป็นคนทำให้มันเป็นแบบนั้นไปเอง มีหลายคนสงสัยและตั้งคำถามแบบนี้เยอะมากกับผม ซึ่งผมเองก็พยายามหาคำตอบมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่เครื่องที่ผมใช้อยู่เป็นประจำมันไม่เคยรีเครื่องเอง ไม่เคยแฮงค์ อะไรแบบนั้นเลย ก็เลยไปหาข้อมูลจากที่ต่างๆ และพิจารณาจากประสบการณ์ของผมเอง แล้วผมก็ได้ข้อสรุปจากความคิดของผมโดยอ้างอิงจากหลักการหลายๆอย่าง ทำให้ออกมาเป็นบทความที่ชาว ThaiAndroidPhone กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ครับ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนมากๆ ลองอ่านกันดูนะครับ[/color]
…………………………………………………………………………………………………….
[color=#FF0000]แอพเถื่อน[/color]
…………………………………………………………………………………………………..
ใช่ครับ นี่คือสิ่งที่มีผลให้เครื่องคุณไม่เสถียรและแฮงค์บ่อยมากที่สุด เนื่องจากแอนดรอยด์นั้นเป็นโทรศัพท์ที่มีฮาร์ดแวร์อยู่หลากหลายมาก ทำให้นักพัฒนาต้องพัฒนาแอพฯ เพื่อรองรับกับอุปกรณ์ที่มีอยู่ในตลาดมากมายหลายรุ่น ถ้าหากเรานำแอพฯ ที่มันไม่ได้รองรับกับเครื่องของเรามาติดตั้ง มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ?? ……แน่นอนว่าแอพฯ ตัวนั้นจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์แล้วทำให้เครื่องมีอาการเอ๋อออกมาอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่น คนแคร้กแอพฯ เค้าแคร้กแอพฯมาเพื่อ Galaxy S3 แต่เราใช้ HTC One V ซึ่งสถาปัตยกรรมของ CPU นั้นแตกต่างกันมาก ถ้าหากผู้พัฒนาตั้งค่าให้แอพฯใช้งาน CPU ที่สูงกว่าระดับการทำงานของ CPU Single Core บน One V แล้วล่ะก็ มันจะทำให้ One V ของเราใช้งาน CPU จนเกิดอาการโอเวอร์โหลด หลังจากนั้นก็แฮงค์แล้วดับไปเลย หรืออาจจะรีเครื่องไปก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไฟล์แคร้กที่ไม่รองรับกับเครื่องอย่างเดียวที่มีผล ในส่วนของคนที่แคร้กมาเค้าก็ยัดนู่นยัดนี่เข้ามาในไฟล์ที่ใช้ติดตั้งแอพฯเช่นกัน และเราเองก็ไม่รู้ด้วยว่าไฟล์เหล่นั้นมันเข้ามายุ่งกับระบบของเรามากแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่นแอพฯบางตัวที่มีการตรวจสอบลิขสิทธิ์ผ่านอินเตอร์เน็ต เหล่าแคร้กเกอร์ก็จะพยายามให้มันตรวจสอบไม่ได้ โดยการเข้าไปยุ่งกับไฟล์ Host ในเครื่องหรือควบคุมการใช้งานอินเตอร์เน็ตในเครื่องเรา แน่นอนว่าบางทีมันอาจจะทำให้เครื่องเราเอ๋อใช้เน็ตไม่ได้ แอพฯตัวอื่นแฮ้ง แล้วเครื่องดับไปในทันที นี่ก็คือที่มาว่าทำไมแอนดรอยด์ที่ผมใช้อยู่มันถึงไม่แฮงค์ ไม่เอ๋อ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะเครื่องผมลงแอพฯจาก Play Store ทั้งหมดนั่นเอง ไม่มีแอพฯ เถื่อนเลยแม้แต่แอพฯเดียว บางคนที่ไม่ค่อยทราบเรื่องการลงแอพฯมากนักเวลาซื้อเครื่องก็มักจะให้ร้านลงแอพฯ มาให้เลย พอกลับมาถึงบ้านก็บ่นทันทีว่าเครื่องช้า เครื่องแฮงค์ เพราะฉะนั้นตอนนี้ลองซะใหม่ครับ Factory Reset เครื่องสักรอบแล้วลงเฉพาะแอพฯ ถูกลิขสิทธิ์หรือแอพฯจาก Play Store อย่างเดียวก็พอ รับรองว่าเครื่องเราจะเสถียรขึ้นมีปัญหาน้อยลงทันตาเห็นเลยครับ
……………….
[color=#FF0000]Task Killer (การบังคับปิดแอพฯ)[/color]
เชื่อว่าหลายคนคงทำบ่อยๆกับการ Kill Task หรือบังคับปิดแอพฯหรือเซอร์วิสที่ทำงานอยู่ จริงๆแล้วถ้าทำนานๆทีก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากครับ แต่ถ้าทำบ่อยๆ ขนาดตั้งเวลา kill ไว้ 5-10 นาทีอันนี้คงบ่อยเกินไป การ Kill Task นั้นทำให้เราได้ RAM จากระบบคืนมาก็จริง แต่อย่างลืมว่ามันคือการบังคับปิดตัวแอพฯนั้นๆ คล้ายๆกับที่เราปิดเครื่อง PC โดยไม่ Shutdown เครื่องล่ะครับ การปิดแบบผิดปกติหรือบังคับให้้ปิด มันคือที่มาของการ Force Close บนแอพฯต่างๆเลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าแอพฯ facebook ในเครื่องเรากำลังทำการ refresh ข้อมูลอยู่ โดยการนำข้อมูลไปเก็บไว้ใน cache ถ้าในระหว่างที่มันกำลังเก็บข้อมูลเราบังเอิญไป kill task ของมันเข้า มันจะเป็นผลทำให้ไฟล์ cache ของแอพฯ facebook นั้นเสียหายไปเลย และเมื่อเราเข้าแอพฯ facebook มันจะทำการเรียกข้อมูลจาก cache ตัวนี้ก่อน แต่ไฟล์มันเสียไปแล้ว มันก็จะเกิดอาการ Force Close นั่นเอง ผลจากการ Kill Task นั้นไม่ใช่ว่ามันจะมีผลเฉพาะแอพฯ facebook อย่างเดียว มันยังมีผลถึงตัวระบบของ Android OS อีกด้วย ถึงแม้ว่าการสร้างไฟล์ cache และ data ต่างๆตัวระบบจะทำไวมากก็ตาม แต่ถ้าเรา Kill มันบ่อยๆมันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้มัน Error เยอะขึ้นนั่นล่ะครับ โดยปกติแล้วระบบแอนดรอยด์นั้นจะมีการคืนค่า RAM โดยตัวของระบบเองอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าในระบบจะเห็น RAM นั้นเหลืออยู่น้อย ที่มันเหลือน้อยเพราะมีแอพฯบางตัวจองพื้นที่บน RAM ไว้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเปิดแอพฯใหม่ ตัวระบบแอนดรอยด์จะทำการคืน RAM จากแอพฯตัวที่จอง RAM ไว้ให้กับแอพฯตัวล่าสุดเอง แต่บางครั้งที่เราเห็นอาการหน่วงๆของเครื่องนั้นเป็นเพราะว่า ตัวระบบมันคืน RAM ไม่ทัน และปัญหานี้มักจะเกิดอยู่บ่อยๆกับเครื่องที่มี RAM ไม่ถึง 1GB ครับ สิ่งที่เราควรทำก็คือ kill แอพฯแต่พอประมาณครับ ซึ่งมันทำให้ลดความเสี่ยงจากการเกิด Error ต่างๆได้ สำหรับเครื่องที่มี RAM น้อย แต่ถ้าเครื่องใครมี RAM 1G ขึ้นไปแล้วล่ะก็ ปล่อยมันไปเถอะครับ แทบจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง kill มันเลย
……………………….
[color=#FF0000]Antivirus[/color]
………………………..
หลายคนเจอหัวข้อนี้งงไปตามๆกันเลยใช่มั้ยครับ เพราะแทนที่ anitivirus มันจะทำให้เครื่องเรามันเสถียร ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป แต่บางครั้งมันกลับเป็นพิษร้ายทำลายเครื่องเรา ถ้าผมจะบอกว่ามันไม่ดีเลยก็ไม่ถูก จริงๆแล้วมันดีครับ แต่มากไปมันก็ไม่ดีเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น บางคนที่กลัวไวรัสมาก มากถึงขนาดลงแอพฯ antivirus ไว้ 2-3 ตัว นั่นล่ะครับทีนี้ระบบก็แสกนกันมันหยดเลยทีเดียว ลงแอพฯทีเด้ง antivirus มา 3 ตัวว่าแอพฯนี้ปลอดภัยนะ อีกทั้งยังคอยแสกนไฟล์ที่อยู่ในเครื่องเรื่อยๆอีก เครื่องช้าทำงานหนัก และ Antivirus บางตัวนั้นฉลาดขนาด Kill Task ให้เราอัตโนมัติอีก โอ้วนี่มันยอดจริงๆเลยนะเนี่ย เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณกลัวไวรัสจริงๆนั้น ลง Antivirus ไว้ตัวเดียวก็เพียงพอแล้วครับ หรือถ้าไม่ลงเลยก็ไม่มีปัญหาเช่น เพราะเนื่องจากบนแอนดรอยด์ตอนนี้มันไม่ได้มีไวรัสที่มีผลอะไรกับข้อมูลเรามาก ส่วนใหญ่จะเป็นสปายแวร์ มัลแวร์ต่างๆเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าหากเราเจอเราก็สามารถนำมันออกไปด้วยการ uninstall แอพฯได้ครับ แต่ถ้าเราลงทุกอย่างจาก Play Store โดยเลือกที่มี Comment ดีๆ Rating เยอะๆ ก็คงไม่เสี่ยงกับไวรัสเหล่านี้อยู่แล้ว อ้อ แล้วผมขอฝากเกร็ดความรู้เกี่ยวกับไวรัสไว้อีกนิดนึง หลายๆคนมักเข้าใจว่าไวรัสบน PC ระบบ Windows มันสามารถทำงานบนแอนดรอยด์ได้ นั่นคือการเข้าใจผิดนะครับ ไวรัสที่อยู่บน Windows ไม่สามารถทำงานบนแอนดรอยด์ได้ เนื่องจากระบบไม่ใช่สถาปัตยกรรมเดียวกัน
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น โปรแกรม Microsoft Word บน Windows มันเอามารันบน Android หรือ iPhone ไม่ได้นั่นล่ะครับ
……………
[color=#FF0000]ปัญหาที่ตัวของเครื่องและ ROM[/color]
…………….
ในกรณีที่เป็น ROM ศูนย์นั้นคงขึ้นอยู่กับค่ายต่างๆด้วยว่าทำ ROM ออกมาได้เข้ากับตัว Hardware มากแค่ไหน เพราะว่าแอนดรอยด์บางรุ่น ต้องยอมรับจริงๆว่ามันไม่เสถียรมาตั้งแต่ต้นเลย ประมาณว่าเอามายังไม่ทันใช้อะไรเครื่องก็เอ๋อ รีเครื่องไม่หยุดซะงั้น แต่จะบอกว่าเกี่ยวกับ ROM ซะทีเดียวมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ทั้งนี้อาจจะเกิดจาก Hardware ในเครื่องมีปัญหาก็เป็นไปได้ครับ ถ้าหากเทียบความเสถียรระหว่าง Stock ROM (ROM ศูนย์) และ Custom ROM ( Custom ROM ที่ได้รับการปรุงแต่งจากนักพัฒนาเพื่อให้มีฟังชั่นและประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ) ในความคิดของผม คิดว่า ROM ศูนย์น่าจะเสถียรกว่าครับ เนื่องจากค่ายต่างๆที่ทำ ROM ออกมาย่อมคิดถึงความเสถียรมาก่อนเป็นอันดับต้นๆ แต่ใน ROM บางตัวก็ยังพลาดกันอยู่จึงต้องมาใช้ Custom ROM เพื่อปรับแต่งตัวเครื่องกัน ซึ่งผมต้องบอกอย่างนึงว่า Custom ROM นั้นถึงแม้ว่าจะเป็น ROM ที่ทำให้เครื่องแรงขึ้นเพิ่มฟังชั่นมากขึ้น แต่ก็เป็น ROM ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมากเท่ากับ Stock ROM ครับ เพราะฉะนั้นถ้ามันมีแฮงค์บ้างก็ไม่ต้องสงสัย และถ้ามันจะเสถียรกว่า Stock ROM ก็ไม่น่าแปลกใจเช่นกัน สิ่งที่ควรทำก็คือ ถามตัวเองก่อนว่า Stock ROM มันเพียงพอกับการใช้งานของเรารึยัง เสถียรพอมั้ยแฮงค์บ่อยรึเปล่า ถ้ามันแฮงค์บ่อย อยากให้เครื่องแรงกว่านี้ [color=#FF0000]อยากลองฟังชั่นแปลกๆ อีกทั้งฟังก์ชั่นใช้้ได้ไม่ครบถ้วน ก็ไป Custom ROM กันเลยครับ แต่อย่าลืมนะมันอาจจะเสถียรขึ้นหรือเอ๋อบ่อยๆ ก็เป็นได้[/color] เป็นไงครับ กับสาเหตุที่ทำให้เครื่องเอ๋อ เครื่องรี เครื่องค้าง เครื่องแฮงค์ เครื่องทำงานช้า ที่ผมสรุปมาให้อ่านกัน จริงๆ สาเหตุมันอาจจะมีเยอะกว่านี้ก็ได้ แต่ผมอาจจะเขียนไม่หมด ถ้าใครเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ก็แสดงความเห็นและเล่าสู่กันฟังได้เลยนะครับ ^^
REF : THAIDROIDPHONE
เพื่อความปลอดภัย นำเข้าศูนย์น่าจะดีกว่าครับ
MD5 ผิดพลาดแสดงว่าโหลดไฟล์มาไม่ครบครับ ควรดาวน์โหลดใหม่ แล้วเช็คค่า. Md5 ด้วยครับ ถ้าตรงกับที้เขากำหนดไว้ก็แปลว่าดาวน์โหลดสมบูรณ์ครับ
ไปที่ samfirmware ลงทะเบียนแล้ว sign in จากนั้นใส่ชื่อรุ่นในช่อง Search เมื่อแสดงลิสต์เฟิร์มแวร์แล้วก็เลื่อนหาประเทศไทย แล้วดาวน์ดหลดมาเลยครับ ของแท้แน่นอนครับ
ติดตั้ง Moon Reader จาก Google Play สามารถอ่าน ebook แบบ epub และแบบ pdf ได้ครับ
และแนะนำให้ติดตั้ง Meb mobile จาก Google Play เหมือนกันเป็นแอพฯ ที่สามารถดาวน์โหลดอีบุ๊คมาอ่านได้ครับ มีทั้งหนังสือแบบฟรีและแบบซื้อครับ ผมใช้อยู่ครับ
หรือถ้าอยากได้โปรแกรมอ่าน PDF โดยตรงเลยก็ติดตั้ง PDF Reader ครับ
แอพฯ ที่แนะนำทั้งหมดติดตั้งฟรี ไม่เสียเงินครับ
แต่งงว่า เครื่องของน้องทำไม ebook อ่านไม่ได้ เพราะเครื่องผมมันทำงานได้ทุกแอพเลยครับ คาดว่าเครื่องน้องคงไม่ได้ทำ Factory Reset ก่อนแฟลชรอมแน่นอน
ดังนั้นแนะนำว่าให้ทำ Factory Reset สักครั้งดีกว่าครับ แล้วค่อยลงแอพฯ ที่ต้องใช้ใหม่ทั้งมหด
วันนี้ นำ Home Screen ที่ปรับแต่งแล้วมาให้ดูกันครับ และอยากขอเชิญเพื่อนๆ ที่อัพเดทแล้วนำ Home Screen มาโชว์กันนะครับ
Astro File Manager สามารถแบคอัพโดยเลือกแอพได้ครับ
ขอโทษด้วยที่ตอบช้า เพราะมองข้ามไปครับ
เป็น ITV ก็ถูกต้องแล้วครับ เพราะ Firmware นี้สร้างมาเพื่อ Italy โดยเฉพาะ ดังนั้นการเป็น ITV จะทำให้ระบบฯ ทำงานได้สมบูรณ์ สำหรับเครื่องที่ยังมี CSC เป็น THL ก็เนื่องจากไม่ได้ทำ Factory Reset ก่อนหรือหลังการ Flash Firmware ครับ ระบบฯ จะเก็บค่าเดิมที่มีอยู่ จึงเป็นเหตุให้มี Error เกิดขึ้นในหลายแอพฯ ครับ ผมจึงได้แนะนำให้ทำ Factory Reset ก่อนไงครับ
ถามว่าไม่ Factory Reset ก่อน Flash Firmware ได้ไหม? ก็ต้องตอบว่าได้ครับ Flash ผ่านปกติ และมีการเก็บค่า Setting ต่างๆ ในระบบเดิมไว้รวมถึงแอพฯ ที่ติดตั้งไว้ในระบบก่อนหน้าก็ยังอยู่ แต่ก็จะเกิด Error ในหลายแอพฯ การ Error นี่อาจหมายถึงการแสดงผลผิดพลาดจากระบบการซูมหรือขยายแอพให้เต็มหน้าจอที่มีมาตั้งแต่ใน Honeycomb 3.2 เช่น เมื่อใช้ tswipe pro ก็จะแสดงคีย์บอร์ดเกือบเต็มหน้าจอ ซึ่งผิดปกติและตั้งค่าอย่างไรก็แก้ไขไม่ได้ เพราะระบบฯ เดิมบันทึกไว้ว่าให้ขยายแอพฯ ที่ไม่ได้สร้างมาสำหรับ tablet เป็นต้นครับ
สรุป ไม่ต้องแก้เป็น THL เพราะเดี๋ยวจะเกิดปัญหาในการใช้แอพฯ ตามมาอีกครับ
หวังว่าคงช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ