นับเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือนที่ทาง United States Patent and Trademark Office (USPTO) หรือกรมดูแลสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า ได้ทำการรื้อแฟ้มสิทธิบัตรของ Apple ออกมาทำการแช่แข็ง Reexmination หรือเตรียมทำการตรวจสอบใหม่ โดยสิทธิบัตรที่ถูกยกขึ้นมาพิจารณาใหม่เมื่อเดือนตุลาคมคือ Apple Rubber Banding (US Patent 746938) ถ้าภาษาทีเราเข้าใจกันมันก็คือเวลาเราเลื่อนหน้าจอของ iPhone แล้วมันมีเด้งไป เด้งมา เหมือนหนังยางนั่นแหละครับ
แต่ในเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ทาง USPTO ก็ได้หยิบเอาเอกสาร US Patent 747949 ขึ้นมาเตรียมพิจารณาใหม่ ซึ่งสิทธิบัตรชิ้นนี้ถูกเรียกขานกันเป็นตำนานว่า Steve Job Patent ที่อ้างสิทธิเรื่อง Multitouch!
สำหรับคนที่ติดตามข่าวสารทางด้านไอทีและสมาร์ทโฟนมาตลอดก็คงจะรู้ว่า Apple เองก็ใช้ Multitouch Patent 949 ฟ้องชาวบ้านเค้าไปทั่วครับ ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าทำได้ไม่ผิดกฏหมายแต่อย่างใด สิทธ์ของเค้า เค้าก็ต้องรักษาสิทธ์ครับ เพราะสิทธิบัตรของเค้าได้รับการยอมรับ และรับรองโดย USPTO
แต่สำหรับตอนนี้ก็คงต้องมาติดตามกันต่อครับ ว่าการที่ทาง USPTO นั้นรื้อแฟ้มนี้ขึ้นมาพิจารณากันใหม่อีกรอบเนี่ย จะส่งผลอย่างไร สุดท้ายแล้วสิทธิบัตรตัวนี้จะยังอยู่กับ Apple หรือไม่ หรือทาง USPTO จะพิจารณาให้ไม่มีผลไปเลยก็เป็นได้
source : FOSS Patent via androidcentral
พอจ๊อบไม่อยู่ อะไรอะไรก็เปลี่ยน
ไม่น่าเลย จ๊อบ บรรจบ
USPTO น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น APPDC (Apple patent database center) นะครับ 555
เหนชอบจดอะไรที่ใครๆเขาก็มีให้กับ apple
ตอนที่จด มันยังไม่มีใครมี(หรือมีแต่ไม่ยอมจด)ครับ
แต่ส่วนตัวก้ไม่ชอบสิทธิบัตรแบบนี้เหมือนกัน คล้ายจะเป็น Patent troll
แต่ก็อย่างที่บทความว่า คิดก่อนจดก่อน ก็มีสิทธิฟ้องไม่ผิด กม. แต่ประการใด
ถือว่าเป็นข่าวดี 🙂
อ้าวแล้วที่ ป๋าซัม โดนให้แพ้คดีไปละ??
ก็เป็นเรื่องของคดีที่จบไปแล้วครับ
เสียแล้วก็เสียไป ทำอะไรไม่ได้ เรื่องกฎหมายกับช่วงเวลา มันก็เป็นแบบนี้
เค้าอุทธรณ์อยู่หรือเปล่าครับ
แอปเปิ้ลนี่ ขาลงโดยแท้
ถ้าถูกยกเลิกสิทธิบัตรนี้ Apple ก็ต้องคืนเงินที่ฟ้องชนะเค้าเพราะเป็นเรื่องลาบเอ๊ยลาภมิควรได้หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ USPTO ต้องถูกฟ้องเรื่องบกพร่องต่อหน้าที่แน่ ๆ จดอะไรให้มั่วไปหมด multi touch คนคิดดันมีเชื้อสายเกาหลีอีก ตอนพรีเซนต์จ๊อบส์ก็ดันทำเหมือนตาเกาหลีนั่นยังกับก็อปปี้กันมาอีก แต่ของจ๊อบส์ลงท้ายว่าเราจดสิทธิบัตรแล้วเท่านั้น
อ่านแล้วก็รู้สึกหลายอย่างพร้อมๆกันเลยครับ เช่นก็ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว เขายื่นไว จดไว
และพิสูจน์ได้ว่าคิดก่อนคิดใหม่
หรืออีกความรู้สึกก็คือ แม้จะถูกกฏหมายแต่ในแง่ของศักดิ์ศรีหรือเรียกอย่างไรดีล่ะ
อาจเรียกได้ว่าความสง่างามของแบรนด์น่ะครับ แม้จะดูดีอย่างไร
แต่เอะอะไล่ฟ้องๆๆๆๆ มันเหมือนคนขี้ฟ้องน่ะ ถ้ามีดี ถ้าเรียกตนเองว่าอันดับหนึ่ง
ผมว่าถ้าคุณเป็นตัวจริง ที่สุดแล้วใครๆก็ทำอะไรคุณไม่ได้อยู่ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องกฏหมาย
ยังมีเรื่องความรู้สึก ภาพลักษณ์ ความสง่างามและน้ำใจครับ ในทางธุรกิจก็แน่นอนฟ้องกันไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสง่างานมันก็จะลดหายไปด้วยเช่นกัน
**มันเหมือนว่าทุกคนยอมรับคำตัดสินในกฏหมายแน่นอน เพราะเราอยู่ในโลกของกฏหมายและควรต้องเคารพกฏ
แต่ถ้ามามองตากัน จะไม่ได้เห็นแม้เศษเสี้ยวแห่งการยอมรับและเชื่อถือในตัวคุณ**
ก็ว่ากันไป
เห็นด้วยอย่างที่สุดครับ
ไอโฟน 1 คือนวตกรรมล้ำโลก ไอโฟนที่เหลือคือการตลาดโดยแท้ และไม่สง่างาม ไม่สมศักดิ์ศรีเลย
ผมจึงไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของค่ายนี้อีกนับแต่นั้นมา แถมตลอดเวลาที่ผมใช้ไอโฟนทำให้รู้สึกว่าโทรศัพท์ที่เรามีอยู่เป็นทรัพย์สินของแอ็ปเปิ้ล ที่กำหนดให้เราเสียบสายชาร์จให้ทุกวัน สงสารตัวเองมาก
ผมจึงตอบแทนโดยการใช้ไอโฟนเป็นแค่นาฬิกาปลุกตอนเช้าเท่านั้น สะใจดี
เรื่องฟ้องกันมันเป็นเรื่องปกติครับ ยี่ห้ออื่นฟ้องมากกว่าแอปเปิ้ลอีก แต่เพียงแค่มันไม่มีข่าวเท่านั้นเอง เรื่องแบบนี้ลงเว็บนี้ทีไรมีดราม่ากันตลอด
มันดราม่ากันทุกเว็บแหล่ะไม่ใช่แค่ที่นี่ แล้วเค้าก็ดราม่ากันมาตั้งแต่ในเว็บฝรั่งแล้ววว 555+
ที่ดราม่าเพราะว่าแอปเปิ้ลกลืนน้ำลายตัวเองไปหลายทีด้วยครับ
พักหลังๆเนี่ย เมื่อก่อนพูดไว้อย่าง เดี๋ยวนี้กลับคำพูดซะเยอะ
คนเค้าเลยหาเรื่องมาด่ากันเล่นๆสนุกปาก
เวปของคนเล่นแอนดรอยนี่ยังน้อย ยิ่งเวปของคนที่เล่นแอปเปิ้ลนี่
ด่าแอนดรอยกันไฟแลบเลย ยิ่งช่วงแรกๆของซัมซุงนะ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เพลาๆลงบ้างรึยัง
ฟ้องเค้าไปทั่ว แถมยังว่าคนอื่นว่าเป็น copycat อีก
แล้วพักหลังๆตัวเองก็ copycat ซะเอง พัฒนานวัตกรรมช้ากว่าชาวบ้าน
อัดแต่สเปค ทั้งๆที่ตอนแรกบอกว่านวัตกรรมมาก่อน
แต่ยังไงก็ยังอยากได้ไอพอดอยู่นะ สวยดี >.<
ใช้แมคบุคแล้วไม่ค่อยเดือดร้อนใจเท่าไหร่
แต่ไปเล่น W8 ของเพื่อนมา ก็โอดี แต่ os กินสเปคไปหน่อย
ขนาดใช้ i7 ยังมีแลคๆให้เห็นบ้างเลย
อ่านข่าวนี้แล้วเรื่องหลักความมั่นคงแห่งนิติฐานะนี่ลอยเข้าในหัวเลย อิอิ
ไม่รู้ไม่กินมาม่า อ่านข่าวแล้วรอดูผล ^^
เสฯ อ้าย เป็นประธาน USPTO แน่ๆเบย แช่แข็งมันหมด
+10
ผมว่าคนแช่แข้งประเทศก็คือ พวกที่โกงกินมากกว่าน่ะครับถ้าไม่มีพวกโกงกินก็ไม่มีพวกต่อต้าน ขำๆให้เข้าใจคำว่าแช่แข็งมากขึ้น อ่าๆๆ
เอาเลยครับ สิทธิบัตรเหวี่ยแห่ครอบจักรวาลทำค่ายอื่นพัฒนาสินค้าใหม่ๆไม่ได้
แช่แข็งดีกว่า ประเทศใกล้เจ๊ง มอมเมาประชานิยม
ถ้ากลัวขายไม่ออก หรือ กลัวคนอื่นเลียนแบบ ก็เอาแบบโทรจิต โลด ถ้าไอโฟนทำโทรจิตกี่บาทผมก็ทุ่ม