หลังจาก Apple มีการนำเอาระบบสแกนลายนิ้วมือมาใช้กับ Touch ID เพื่อระบุตัวตนแล้ว ค่ายมือถืออย่าง Samsung, LG ก็พยายามที่จะเอาชนะเทคโนโลยีด้วยการก้าวกระโดดไปหาเทคโนโลยีการสแกนม่านตา (Iris scanning) แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครพัฒนาเอามาใช้งานบนมือถือสักราย ซึ่งไม่แน่ใจว่าติดปัญหาในเรื่องเทคโนโลยี ความแม่นยำ ราคา หรือเรื่องใดกันแน่ สุดท้ายก็มาจบที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือเช่นเดิม
แต่ล่าสุดค่ายมือถือจีนอย่าง ViewSonic ที่ในบ้านเรารู้จักในชื่อแบรนด์ผลิตจอคอมพ์หรือโปรเจคเตอร์ซะมากกว่า กลับเป็นค่ายแรกที่เตรียมจะส่ง ViewSonic V55 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Iris scanning หรือการสแกนม่านตาเพื่อระบุตัวตน เป็นเครื่องแรกของโลก
จริงแล้ว ViewSonic V55 นั้นมีกำหนดการวางจำหน่ายในปี 2014 ที่ผ่านมาซะด้วยซ้ำ แต่กลับเงียบหายเลื่อนมาจนถึงปี 2015 แล้วก็ยังไม่ได้วางจำหน่ายซะที สำหรับสเปคของ ViewSonic V55 นั้นก็มีข้อมูลครบหมดแล้ว
- ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 410 (64-bit)
- RAM 2 GB
- ROM 16/32 GB
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD
- กล้อง 13MP (Sony censor) + ต่อเลนส์เสริมได้
สำหรับใครที่ดูในคลิปแล้วจะเห็นว่ากล้องหลังของ ViewSonic V55 นั้นสามารถติดเลนส์เสริมเข้าไปได้ โดยมีทั้งแบบ มาโคร ไวด์ และ ฟิชอาย การเชื่อมต่อเลนส์นั้นก็ง่ายเพราะใช้แม่เหล็กดูดเลนส์ให้ติดกับกล้องหลังนั่นเอง
เซนเซอร์สแกนม่านตาของ V55 นั้นอยู่ทีมุมขวาบนของตัวเครื่อง และจะถูกป้องกันด้วยแผ่นสไลด์ไม่ให้ได้รับความเสียหาย เมื่อเปิดใช้งานและมีการสแกนเก็บข้อมูลม่านตาแล้ว ก็จะใช้ระบุตัวตนได้แบบระบบลายนิ้วมือ ซึ่งการสแกนม่านตานั้นมีความปลอดภัยสูงกว่าเพราะรอยนิ้วมือยังสามารถเลียนแบบ หรือปลอมแปลงได้ง่าย
ส่วนฟังก์ชั่นระบุตัวตนผ่าน Iris scanning หรือการสแกนม่านตานั้น สามารถใช้ได้ทั้งในการปลดล็อคเครื่อง ซ่อนไฟล์ แอป หรือภาพถ่ายได้ หากคนที่ไม่ไช่เจ้าของมาเปิดใช้งาน รวมถึงสามารถใช้แทนรหัสผ่านในการซื้อสินค้าออนไลน์ได้ด้วย
มาพูดถึงตัวแบรนด์ทิ้งท้ายกันสักเล็กน้อย ประสบการณ์ของ ViewSonic ในตลาดมือถือนั้นน้อยมาก รุ่นล่าสุดที่เคยผลิตอย่าง ViewPhone หรือ ViewPad นี่ก็นานมากแล้ว สมัย Gingerbread กันเลยทีเดียว ในบ้านเราก็เคยมีการนำเอา ViewPad มาจำหน่ายด้วยนะครับ ไม่รู้ตอนนี้ยังมีขายหรือเปล่า แต่การที่ตัวแบรนด์ไม่ได้แข็งแรกมากในสายนี้ การทาำอะไรแหวกๆ ออกมาเพื่อหาที่ยืนในตลาดก็ถือว่าน่าสนใจ แต่เห็นเลื่อนมาเป็นปีแบบนี้ก็ชวนให้คิดว่าจะรอดหรือเปล่า แหะๆ
source : phonearena
น้ำตาจะไหล
ลุ้นๆ กับนวัตกรรมที่จะมาเพิ่มให้กับมือถือเรา (จะรอดไหมนะ)
ดูใช้ยากไปมะ ต้องมานั่ง ตั้งมือถือให้ตั้งฉากกับตา ชูมือขึนสูงๆ 555+
คือ ถ้ามันจะต้องทำแบบนั้นตอนอยู่ที่สาธารณะ เช่นใบรถตู้รถเมล์ ในห้าง ในผับ(เผลอๆในผับ อาจไม่ได้เพราะแสงไม่พอ)
ผมว่าผมยอมกดรหัสปลดล้อคดีกว่า 555+
ปล. ขำๆนะครับ (แต่แอบจริง) อย่าดราม่าน้า ^^
มันจะแสกน ระยะขนาดนั้น กล้องต้องเทพมาก ขนาดกล้อง dslr จะถ่ายให้เห็นลายของม่านตา ยังต้องlen macro + ถ่ายใกล้เลย นี่ใช้กล้องหน้ามือถือเฉยๆจะทำอะไรได้ครับ ขนาดตัวแสกนจริงๆแบบติดผนังยังต้องเอาตาไปใกล้ๆเลย
ผมว่าอย่างมาก็วัดระยะห่างระหว่างตา2ข้าง แบบ face unlock นั่นแหละ
ในข่าวบอกว่าใช้ "เซ็นเซอร์" ไม่ได้บอกว่าใช้ "กล้อง"
กล้องก็คือ เซ็นเซอร์ชนิดหนึ่ง
หลักการ แสกนม่านตา คือ ทำยังไงก็ได้ ให้ได้ข้อมูลลวดลายของม่านตา
มีหลักๆ 2 วิธี คือ 1. แสกน โดยใช้แสง ยิงเข้าไป แล้วรับข้อมูลที่สะท้อนกลับมา เพื่อระบุชนิดของลำแสงได้แม่นยำ
หรือ 2.ถ่ายรูป โดยตรง
ถ้าใช้วิธียิงแสงเข้าไป อันนี้คงต้องทำเรื่องกันยาว เพราะเป็นการกระทำกับร่างกายโดยตรง ต้องผ่านกรรมการบลาๆๆๆ มากมาย ไม่งั้นใช้ๆไปตาบอด จะซวยทั้งบริษัท ทั้งต้องมีส่วน mechanic ของแสงสะท้อน ซึ่งไม่น่าจะยัดในมือถือได้
ส่วนวิธี ถ่ายรูป มันทำได้ง่ายกว่า เพราะไม่ต้องวุ่นวายกับตาคนใช้ ปัญหาคือ จะหากล้องที่ละเอียดขนาดมองเห็นลายม่านตาได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องเข้าใกล้ๆ ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าทำได้จริง
ต่อให้เอาตาไปจ่อ จะมีปัญหาอีกว่า กล้องต้องรับแสงได้ดีมาก และน่าจะต้องมี light source เพื่อให้มองเห็นม่านตาได้ (อาจจะใช้หน้าจอscreenแทน) ซึ่งทั้งปวงนี้ ผมว่าลำบากชีวิตกว่าเดิมมากมาย
ดังนั้นผมว่า แบบใน vdo ไม่น่าทำได้จริง
รอดูตัวจริงแล้วกัน….
ส่วนอันนี้มาจาก GizmoChina ต้นข่าว
"The ViewSonic V55 will have an Iris scanner on the top right corner of the phone. Unlike fingerprint sensors which are always exposed, this Iris scanner will be hidden from view. When the user wants to unlock the phone via Iris recognition, he or she will have to slide the small piece concealing the scanner. When they slide it open, a light will turn on indicating that the iris scanner has been activated."
อ่านแล้วไม่น่าใช่ camera sensor นะ
ในภาพวิดีโอผมว่าเค้าก็ทำโชว์เฉยๆ แหละครับ ของจริงผมว่าน่าจะต้องเอาตาไปใกล้กว่านั้น ส่วนตัวสแกนไม่ได้ใช้กล้องหน้านะครับ ^ ^ น่าจะพัฒนาจากตัวสแกนติดผนังอย่างที่ว่ามาอีกที
จะทำไปทำไมมมมมม
วิธีล็อครหัสแบบอื่นมีเยอะแยะ
ลำบากลำบนแท้ ไหนๆก็ติด infrared มาแล้วอะ
เอามาจับความลึกแบบ kinect สิ อ่ะโธ่เอ้ย สแกนหน้าจะได้แม่นขึ้น
ทำให้ดูล้ำหน้าไว้ก่อน เรียกเสียงฮือฮาแต่ใช้จริงคงลำบาก ผมว่าสแกนนิ้วสะดวกกว่านะผมชอบ แต่ผมไม่ชอบไอโฟน อยากให้แอนดรอยด์ทำมั่ง นี่ก็รอน้อง mi5 อยู่ข่าวลือว่าจะใส่มา ลุ้นๆ
เยอะแล้วนะ แต่ไม่มีขายในไทยซ๊ะส่วนใหญ่
docomo fujitsu disney f-08d/arrows x f-10d/arrows x f-02e/arrows v f-04e/arrows nx f-06e/disney f-07e/arrows nx f-01f/disney f-03f/arrows nx f-05f/arrows nx f-02g/
softbank fujitsu arrows a 101f/arrows a 201f/arrows a 202f/arrows a 301f
docomo toshiba regza t-01d/regza t-02d
samsung s5/note4
ไหนจะhuawei และเหล่าแบรนด์จีนพวก elephone blahๆๆๆอีก…
ที่ว่ามามันเป็นสแกนนิ้วแบบเก่าต้องรูดนิ้ว ความแม่นยำและสะดวกสบายต่ำครับ แบบ iphone เท่าที่รู้มี meizu mx4pro กับ mate7
อ่อๆ ถึงจะเป็นแบบเก่า แต่ยังใช้มาจนถึงรุ่นล่าสุด มันก็คงต้องมีการพัฒนาความแม่นยำขึ้นรึเปล่าอ่ะ
เพราะ f-02g ก็พึ่งออกมาอายุพอๆกะไอโฟนนี่เอง
ถ้ามันใช้ได้ คงมีหนทางพัฒนาต่อไปทำอย่างอื่นได้อีกมากและความปลอดภัยก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีกระดับนึง ทำำได้หรือไม่ รอดูตัวจริงออกมาก็คงได้คำตอบที่ชัดเจนขึ้น อยากเห็นครับ
ได้ยินว่ามีบริษัท ใหญ่พยายามซื้อ know how นี้ไป แต่ตกลงกันไม่ได้ เลย ออกขายเองดีกว่า
5555 มโน อีกแล้วตรู
ปีนี้ กับ ปีหน้าเทรน security น่าจะมาแรง พร้อม wearable ขั้นเทพพพพ
ให้มันลำบากเข้าไว้ 555
ไม่เลวแฮะ รอชมตอนขายจิง
เกิด ??
ผมขอยืนยันระยะสแกนครับ เพราะที่ทำงานก็ใช้ระบบสแกนม่านตาลงเวลาทำงาน(ลงเวลาแทนกันหมดสิทธิครับ) ใส่แว่นตาสแกนได้ ระยะสแกนประมาณหนึ่งฟุต น่าจะทำงานคล้ายๆกัน รุ่นที่ใช้คือ Panasonic BM-ET200