เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่เราได้เห็นหลายฝ่ายพยายามจะรวมบัตรโดยสารให้เป็นใบเดียวเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ทั้งคนในประเทศไม่ต้องพกบัตรเยอะแยะหลายใบ และนักท่องเที่ยวก็เกิดความสะดวก แต่ก็ดูจะไม่สำเร็จสักทีด้วยปัญหาต่างๆนานาที่รุมเร้าจนโปรเจกต์ไม่สามารถคลอดได้ ซึ่งเรื่องการพัฒนาระบบก็ถือเป็นอุปสรรคใหญ่เรื่องนึง และ Visa ก็ได้เล็งเห็นในเรื่องนี้จึงขอเสนอโซลูชั่น เอาบัตรเครดิต-เดบิตมาใช้จ่ายเงินไปเลยในใบเดียวให้จบปิ๊ง
Visa ไม่ใช่บัตรเครดิต แต่เป็นคนสร้างระบบการจ่ายเงิน
หลายคนอาจจะงงว่า Visa มาเกี่ยวข้องอะไรกับการจะทำให้บัตรโดยสารทุกใบมารวมกันได้ ขายแค่บัตรเครดิตอย่างเดียวไม่น่าจะทำให้รวมบัตรได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Visa ไม่ใช่บริษัททำบัตรเครดิต แต่เป็นคนให้บริการระบบการชำระเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใดใดที่เป็นช่องทางการจ่ายเงิน เค้าก็พร้อมจะเข้าไปทำระบบและเปิดความสะดวกสบายในการจ่ายเงินให้เกิดขึ้นได้ อย่างบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ คือใช้ระบบการจ่ายเงินของทาง Visa มาเป็นตัวเชื่อมต่อให้เราเอาบัตรใบเดียวไปใช้งานทั่วโลกได้นั่นเอง ส่วนระบบขนส่งสาธารนะก็จะเป็นการต่อยอดให้ผู้ถือบัตรเครดิต สร้างระบบให้ผู้ให้บริการอย่าง ขสมก. บีทีเอส เอ็มอาร์ที สามารถซื้อเอาไปใช้เพื่อให้รองรับบัตรเครดิต-เดบิตได้ทันที โดยไม่ต้องมานั่งพัฒนาระบบทั้งหมดทำบัตรโดยสารขึ้นมาใหม่เอง ซึ่งทาง Visa บอกว่าจะทำให้ผู้ให้บริการลดค่าใช้จ่ายในการบริหาร ดูและ และพัฒนาลงไปได้มาก คุ้มกว่าการพัฒนาเอง ส่วนตัวผู้โดยสารก็ได้รับความสะดวก เอาบัตรเครดิต-เดบิตที่ตัวเองใช้อยู่ในชีวิตประจำวันควักมาแตะตื้ดเดินเข้าออกสถานีได้เลย ระบบจะคำนวนจำนวนสถานีที่เราใช้ให้อัตโนมัติและตัดเงินจากบัตรเราให้ ไม่ต้องมานั่งเติมใหม่เรื่อยๆให้เสียเวลา และเพื่อความรวดเร็ว ตัวบัตรเครดิตก็จะถูกเลือกให้ใช้เป็นแบบแตะจ่าย (Contactless) เท่านั้น
Visa ได้ให้บริการโซลูชั่นแตะจ่ายสำหรับระบบขนส่งมาแล้วกว่า 20 เมืองใน 12 ประเทศ และยังมีอีกกว่า 150 โปรเจกต์ที่กำลังดำเนินการอยู่ และในเมืองหลักๆก็พร้อมเปิดให้การจ่ายเงินเป็นแบบ Open-loop มากกว่า Closed-loop ที่ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆต้องพกบัตรหลายใบ
ระบบการจ่ายเงิน Open-Loop ใบเดียวจบ ใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้
ปัจจุบันการจ่ายเงินเพื่อโดยสารในไทยเกือบทั้งหมดเป็นแบบ Closed-loop ที่เราจะต้องเอาเงินไปแลกบัตรหรือเหรียญเพื่อแตะเข้าใช้บริการ แต่ถ้าเป็นแบบ Open-Loop คือระบบจะเปิดให้เราสามารถนำเอาบัตรเครดิตหรือเดบิตที่เรามีใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอยู่แล้วมาใช้แตะเพื่อเข้ารถไฟฟ้าได้เลย ลดจำนวนบัตรที่เราต้องพก ไม่ต้องต่อแถวยาวๆเพื่อซื้อบัตรโดยสารหรือเติมเงิน ส่วนนักท่องเที่ยวก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการแลกเงิน และสื่อสารกับพนักงาน เอาบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ที่ประเทศตัวเองแตะเข้าเลยก็ได้เช่นเดียวกัน บางประเทศแม้ว่าตัวระบบขนส่งจะมีบัตรจ่ายเงินของตัวเองอยู่แล้วก็ตาม เช่น สิงคโปร์ แต่เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ก็มีการนำเอาระบบของ Visa ไปใช้งานเพิ่มเติมด้วยเช่นเดียวกัน
สิงคโปร์เพิ่งเปิดให้ใช้บัตร Visa แตะเข้าสถานีได้เลย เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา จะใช้บัตรที่ออกจากธนาคารไทยหรือธนาคารไหนๆในโลก ที่เป็นบัตร Visa และรองรับ payWave ก็ใช้ได้หมด สะดวกกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
รวมบัตรโดยสาร ความจริงหรือแค่ความฝัน
อัพเดทการจ่ายเงินในระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ
- รถเมล์ – ขสมก. ได้ร่วมมือกับทางธนาคารกรุงไทย เริ่มทดสอบจ่ายเงินค่าโดยสารรถเมล์ด้วยบัตรเครดิต-เดบิตแล้ว เริ่มที่สาย 510 ก่อน คาดว่าน่าจะมีการขยายเพิ่มสายในอนาคตต่อไปหลังมีการตอบรับที่ค่อนข้างดี
- BTS – ผลักดันบัตร Rabbit LINE Pay อย่างเต็มที่ เชื่อมบัตรเข้ากับบัตรเครดิต-เดบิต และตัดเงินตรงได้แล้ว, ใช้จ่ายในร้านค้าที่รองรับได้ โดยมากอยู่ในเส้นทางที่ BTS ผ่าน
- MRT – รองรับบัตรของตนเอง และบัตรแมงมุม ซึ่งเป็นแบบ Closed-Loop ซึ่งธนาคารกรุงไทยก่อนหน้านี้ก็เคยได้ออกบัตรเดบิตแมงมุมมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีบัตรทั้งหมดไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้สมบูรณ์
- ARL (Airport Rail Link) – รองรับบัตรของตนเองเท่านั้น มีข่าวว่าจะเชื่อมกับบัตรแมงมุมมาโดยตลอด แต่ก็เลื่อนทุกทีไป
- รถไฟ – เงินสด ยังไม่มีข่าวเพิ่มเติม
- เรือโดยสาร – เงินสด ยังไม่มีข่าวเพิ่มเติม
จากข้อมูลดังกล่าวสิ่งที่เรารับรู้ได้ก็คือ BTS มีระบบการจ่ายเงินที่นำหน้าผู้ให้บริการเจ้าอื่นไปไกลพอสมควรแล้ว เรียกว่าสามารถนำเอาไปใช้งานนอกเหนือจากเป็นบัตรโดยสารได้ในระดับนึง การจะให้ทิ้งบัตร Rabbit LINE Pay ที่ลงทุนไปหลายล้านบาทเพื่อไปเข้าร่วมกับคนอื่นที่ระบบยังดูไม่มีทีท่าว่าจะตามได้ทันเร็วๆนี้ ก็ดูจะไม่แฟร์กับทางบีทีเอสไปหน่อย แต่ที่น่าสนใจคือถ้า ขสมก. ร่วมมือกับ ธนาคารกรุงไทยได้ลงตัว พร้อมลงเอยปรับให้รถประจำทางทุกคันรับเลิกรับเงินสด รับแต่เพียงบัตรโดยสาร มีเครื่อง EDC ใช้รับชำระเงินทุกคันได้ ก็อาจจะหวังให้ธนาคารกรุงไทยไปผลักดันให้ MRT – ARL หันมาใช้ระบบเดียวกันได้ในอนาคต และด้วยระบบที่ Visa เป็นเบื้องหลังอยู่นี้ เมื่อมีการขยายต่อในอนาคต ก็น่าจะพอทำให้ไว้วางใจได้ว่ามันจะมีความเสถียร น่าเชื่อถือและปลอดภัยดีสำหรับผู้ใช้ได้อีกด้วย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าความร่วมมือนี้มันจะสำเร็จด้วยดีหรือไม่ ขนาดถามคนของ Visa เองก็ยังไม่มีความมั่นใจใดๆเช่นกัน
กล่าวโดยสรุปคือ การรวมบัตรให้เหลือใบเดียว สามารถเดินเข้าออกระบบขนส่งมวลชนแบบเนียนๆไร้รอยต่อด้านการจ่ายเงิน เห็นอนาคตแบบลิบตาเท่านั้น คาดว่าไม่น่าจะทำให้เกิดขึ้นได้ในเร็ววัน 1-2 ปีข้างหน้า แต่ก็ไม่ถึงกับมีหวังซะทีเดียว คงต้องรอติดตามและลุ้นกันไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งหมดหวังกันครับ
ถ้า VISA ไม่เก็บค่าธรรมเนียมอะไรเลย ก็น่าสนใจ ครับ
เป็นอะไรที่ควรใช้ ม.44 จัดการ ให้มี clearing house กลาง รูดไปเท่าไหร่ เคลียร์กันตอนสิ้นสัปดาห์ แล้วให้บ. นี้มาจัดการเรื่องบัตรโดยสารแทน ยกคนหน้าเคาน์เตอร์ของทั้ง bts mrt arl ออกไป
ส่วน bts ลงทุนไปเยอะก็เข้าใจนะ แต่เพื่อส่วนรวม อาจจะเสนอเป็นต่ออายุสัมปทานอีก 5 ปีเพื่อชดเชย อะไรก็ว่ากันไป รัฐเราใจดี มีนโยบายชดเชยทุกอย่างให้กลุ่มทุนอยู่แล้ว ตั้งแต่โฮปเวล รถเมล์ 400 คัน ทีวีดิจิตอล คลื่น 900
ม44. มีไว้ทำ 2 อย่าง เท่านั้นครับ คือ จัดการคนเห็นต่างและเอื่อประโยชน์กลุ่มทุนใหญ่ ทำเพื่อประชาชนเป็นอะไรที่ เค้าไม่ได้คิดไว้หรอกครับ
มีอันนึงครับ สร้างสถานีเชื่อมต่อ บางซื่อ เตาปูน ด้วยม. 44 เพราะประมูลปกติ ไม่มีใครทำแน่นอน เพราะสั้นไป
ปัญหาของบางซื่อและเตาปูนผมนึกว่าเป็นความงี่เง่าของภาครัฐเองซะอีก
อ่อผมอยากให้ visa เข้ามาทำนะ ตัดจากบัตร เครดิต เดบิด ขึ้นเรือ รถเมล์ รถไฟฟ้าBTS MRT แต่คนบางกลุ่มจะยอมแน่หรอ
น่าสนแหะ 🙂 🙂
ปัญหาไม่ใช่เรื่อง technology แต่ปัญหาคือตกลงกันไม่ได้ BTS ก็มีบัตร rabbit ของตัวเองที่ใช้กับบริการอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถไฟฟ้าด้วย ถ้ายอมใช้ระบบคนอื่นก็กระทบธุรกิจส่วนนี้อยู่
สำหรับ BTS เทคโนโลยีอาจจะไม่ใช่ปัญหา และตัว Rabbit เค้าก็ยังไปได้ดีอยู่ การย้ายค่ายลงระบบใหม่ก็ดูไม่เมกเซนส์จริงๆ แต่สำหรับที่อื่นก็น่าจะยังมีปัญหาอยู่นะครับ
BTS เขาไม่ยอมหรอกครับ ถ้ายอมให้ใช้บัตรเดบิต/เครดิตใช้ contactless ได้โดยตรง ใครจะไปบ้าจี้ใช้ Rabbit ละครับ เพราะคนส่วนใหญ่เขามีบัตรเดบิต/เครดิต หนึ่งใบแน่ๆ ครับ แล้วเดี๋ยวนี้แทบทุกธนาคารออกบัตรเป็น contactless ทั้งนั้นครับ
BTS นี่ยากครับ แต่ถ้าทุกคนไปด้วยกันหมดได้ยกเว้น BTS ก็ยังดีนะ
ทำได้จะดีมาก เพราะไป Singapore มาสะดวกมาก ไม่ต้องแลกตังซื้อตั๋วแล้ว แค่ใช้ Paywave card ใบเดียวจบ
ถ้าบัตร Rabbit ไม่ยกเลิกวันหมดอายุก็ไม่ใช้หรอกนะ
เรือโดยสาร พวกเรือข้ามฟากจ่ายด้วยแอป BluePay ได้ครับ ปกติจะใฃ้อยู่โซนวังหลัง ท่าอื่นนี่ไม่แน่ใจนะครับ
ผมว่า จะเป็นบัตรอะไรก็ได้ครับ
ขอให้มันมี ขอให้มันเกิด สักที
บัตรเดียวจ่ายได้ทุกระบบ ประชาชนสะดวก แต่นายทุนอาจจะไม่ชอบ
แต่ยังไงก็ต้องจ่ายในราคาเดิม ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการใช้บัตรvisa นอกจาก ไม่ต้องไปต่อคิวเคาเตอร์