เปิดตัวเรียบร้อยแล้วสำหรับมือถือซีรีส์ Vivo X50 ที่รอบนี้ Vivo ขนมาเปิดตัวด้วยกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ Vivo X50, X50 Pro และตัวท็อปสุดอย่าง X50 Pro+ โดยจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็คือหน้าจอ AMOLED ค่ารีเฟรชเรท 90 – 120Hz, ชิปเซ็ต Snapdragon 865, รองรับ 5G Dual Mode, กล้องเซ็นเซอร์ ISOCELL GN1 ที่เพิ่งเปิดตัวไป อีกทั้งยังมีกล้องหลังที่ใช้ระบบกันสั่นแบบ Gimbal ที่บอกเลยว่านิ่งสุดๆ
Vivo X50 Pro+
เปิดหัวกันที่รุ่นท็อปสุดอย่าง Vivo X50 Pro+ กันก่อนเลยดีกว่า โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มากับจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ค่ารีเฟรชเรท 120Hz ชิปเซ็ตเลือกใช้เป็นรุ่นเรือธง Snapdragon 865 รองรับ 5G ในตัว กล้องหลังมี 4 ตัว ใช้เซ็นเซอร์ ISOCELL GN1 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ตัวใหม่จาก Samsung นอกจากนี้ยังมาพร้อมเลนส์ Periscope สามารถซูมแบบ Optical ได้ 5x และดันระยะซูมแบบ Digital (Hyper Zoom) ได้ไกลสุดถึง 60x เลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น Vivo X50 Pro+ ยังมากับอัลกอริทึ่ม Motion Deblur และฟีเจอร์ Focus Tracking ที่จะเข้ามาช่วยการถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยทำให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการถ่าย Super Night Mode และ Astro Mode สำหรับถ่ายท้องฟ้าในยามค่ำคืนอีกด้วย
Vivo X50 Pro
Vivo X50 Pro จัดเป็นมือถือระดับกลาง มาพร้อมชิป Snapdragon 765G มีกล้องหลัง 4 ตัว ซึ่งสเปคจะคล้ายกับตัว Pro+ แต่จะมีต่างกันตรงที่รุ่นนี้ใช้เซ็นเซอร์หลักเป็น Sony IMX598 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบกันสั่นแบบ Gimbal ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบกันสั่น OIS แบบธรรมดา ทำให้การถ่ายวิดีโอลื่นไหล และนิ่งสุดๆ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเลย
Vivo X50
ส่วนน้องเล็กสุดอย่าง Vivo X50 ก็บอกเลยว่าสเปคไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นพี่สองตัวข้างบนสักเท่าไหร่ จุดเด่นหลักๆ ของ Vivo X50 ก็คือ มันเป็นสมาร์ทโฟนรุ่น 5G ที่มีขนาดบางที่สุดในโลก (ตอนนี้) โดยตัวเครื่องมีความหนาเพียงแค่ 7.49 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนสเปคอื่นๆ หน้าจอเลือกใช้เป็น AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว แบบแบนราบ มากับกล้องหลัง 4 ตัว เซ็นเซอร์หลัก IMX598 ความละเอียด 48MP พร้อมระบบกันสั่น OIS
ส่วนอันนี้คือสเปคเต็มๆ ของ Vivo X50 Series ทั้ง 3 รุ่นครับ เอามาเปรียบเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่ารุ่นไหนมีจุดเด่นในเรื่องไหนบ้าง
สเปค Vivo X50 / X50 Pro / X50 Pro+
Vivo X50 | Vivo X50 Pro | Vivo X50 Pro+ | |
หน้าจอ | AMOLED 6.56″ FHD+ ค่ารีเฟรชเรท 90Hz รองรับ HDR10+ | AMOLED 6.56″ FHD+ ค่ารีเฟรชเรท 90Hz รองรับ HDR10+ (จอโค้ง) | AMOLED 6.56″ FHD+ ค่ารีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10+ (จอโค้ง) |
ขนาดตัวเครื่อง | 159.54 x 75.39 x 7.49 มม. (170 กรัม) | 158.46 x 72.8 x 8.04 มม. (181.5 กรัม) | 158.46 x 72.8 x 8.04 มม. (181.5 กรัม) |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 765G | Snapdragon 765G | Snapdragon 865 |
RAM | 8GB (LPDDR4X) | 8GB (LPDDR4X) | 8GB/12GB (LPDDR4X) |
ความจุ | 128GB/256GB (UFS 2.0) | 128GB/256GB (UFS 2.1) | 128GB/256GB (UFS 2.1) |
กล้องหลัง | 4 ตัว Main: 48MP IMX598 f/1.6, OIS Ultra-Wide: 8MP มุมกว้าง 120 องศา f/2.2 Depth: 13MP f/2.48 Macro: 5MP f/2.48 1.5cm | 4 ตัว Main: 48MP IMX598 f/1.6, Gimbal OIS Ultra-Wide: 8MP มุมกว้าง 120 องศา f/2.2 ถ่ายมาโครได้ Periscope: 8MP f/3.4 Depth: 13MP f/2.46 | 4 ตัว Main: 50MP ISOCELL GN1 f/1.6 Ultra-Wide: 8MP มุมกว้าง 120 องศา f/2.2 ถ่ายมาโครได้ Periscope: 8MP f/3.4 Depth: 13MP f/2.46 |
กล้องหน้า | 32MP, f/2.48 | 32MP, f/2.45 | 32MP, f/2.45 |
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | ใต้หน้าจอ | ใต้หน้าจอ | ใต้หน้าจอ |
ฟีเจอร์ | NFC WiFi 6 Bluetooth 5.1 SA & NSA Dual-mode 5G | NFC WiFi 6 Bluetooth 5.1 SA & NSA Dual-mode 5G AK4377A Hi-Fi Sound chip | NFC WiFi 6 Bluetooth 5.1 SA & NSA Dual-mode 5G CS43131 Hi-Fi Sound chip |
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh รองรับชาร์จไว 33W | 4,315 mAh รองรับชาร์จไว 33W | 4,315 mAh รองรับชาร์จไว 44W |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5 | Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5 | Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5 |
ราคา Vivo X50 / X50 Pro / X50 Pro+
- Vivo X50:
- 8GB + 128GB: ราคา 3,498 หยวน หรือประมาณ 15,600 บาท
- 8GB + 256GB: ราคา 3,898 หยวน หรือประมาณ 17,300 บาท
- Vivo X50 Pro:
- 8GB + 128GB: ราคา 4,298 หยวน หรือประมาณ 19,000 บาท
- 8GB + 256GB: ราคา 4,698 หยวน หรือประมาณ 20,900 บาท
- Vivo X50 Pro+:
- 8GB + 128GB: ราคา 4,998 หยวน หรือประมาณ 22,200 บาท
- 8GB + 256GB: ราคา 5,498 หยวน หรือประมาณ 24,400 บาท
- 12GB + 256GB: ราคา 5,998 หยวน หรือประมาณ 26,600 บาท
Vivo X50 จะเริ่มขายในวันที่ 6 มิ.ย. รุ่น X50 Pro ในวันที่ 12 มิ.ย. 2563 และรุ่นท็อป X50 Pro+ จะวางขายในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ที่ประเทศจีน ส่วนทั้ง 3 รุ่นจะทำตลาดนอกจีนหรือไม่ และจะมีโอกาสเข้ามาวางขายในบ้านเราหรือเปล่า แต่ได้ยินมาแว่วๆ ว่าจะเข้าไปทำตลาดในอินเดียด้วย ก็ไม่แน่ว่าบ้านเราอาจจะมีลุ้นก็ได้ครับ
ที่มา: gsmarena, xda-developers
สเป็คดี แต่อยากได้ราคาต่ำกว่านี้แหะ
UFS2.1 / FHD+ หงอยเลย 😨😨
ราคาก็ไม่ได้ถูกด้วยนะ 😮😮
ราคามือถือรุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้เปิดมาโหดมาก
มีแจ็ค3.5ไหมนะตัวพลัสชิปเสียงสุดๆ