มาตามนัด…กับมือถือกล้องหลังคุณภาพสูงอย่าง Vivo X70 Series ที่คราวนี้เข้ามาเปิดตัวในบ้านเราทั้งหมด 2 รุ่น คือ Vivo X70 และ Vivo X70 Pro โดยจุดเด่นของมือถือซีรีส์นี้อยู่ที่การไปจับมือกับแบรนด์ ZEISS เพื่อพัฒนากล้องหลังให้ออกมาอยู่ในระดับเทพสุด ๆ ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอ ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็เรียกว่าจัดมาให้แบบเต็ม ๆ ทั้งหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรท 120Hz และชิป Dimensity 1200 ที่ใช้งานได้ลื่น ๆ ทุกอย่าง

หน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรท 120HZ

Vivo X70 และ X70 Pro ใช้พาเนลหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2376 x 1080) รีเฟรชเรท 120Hz รองรับการแสดงผล HDR เจาะรูไว้ตรงกลางด้านบนสำหรับวางกล้องเซลฟี่

แต่จะต่างกันตรงที่รุ่น Vivo X70 ใช้หน้าจอแบบแบนราบ ส่วนรุ่น Vivo X70 Pro ใช้หน้าจอแบบขอบโค้ง

Vivo X70 / X70 Pro

ใช้งานลื่น ๆ

ทั้งคู่มากับชิป MediaTek Dimensity 1200 + RAM แบบ LPDDR4x สูงสุด 12GB และความจุในตัว UFS 3.1 สูงสุด 256GB เขียน-อ่านข้อมูลได้รวดเร็วทันใจ ทำให้สามารถทำงานในปัจจุบันได้แบบไม่มีปัญหา จะเล่นเกม 3D, ดูหนัง 4K หรือจะเปิด Chrome หลาย ๆ Tab ก็ได้หมด และถ้ายังลื่นไม่พอ Vivo X70 Series ยังมากับเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่จะไปดึงเอาหน่วยความจำมาเพิ่มให้ RAM ได้สูงสุดถึง 4GB กลายเป็น 16GB ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมปรู๊ดปร๊าดมากขึ้นไปอีก

กล้องหลังพลัง ZEISS

ใช้กล้องหลังที่ Vivo ร่วมมือกันพัฒนากับ ZEISS พร้อมกับเซนเซอร์รุ่นใหม่จาก Sony โดย Vivo X70 มีกล้องทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ IMX766V ความละเอียด 40MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP + กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP ซูม Optical 2x

ส่วนรุ่นพี่ Vivo X70 Pro มีกล้องทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักที่ใช้เซนเซอร์เดียวกันแต่ความละเอียดมากกว่าที่ 50MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP + กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP ซูม Optical 2x + กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope ความละเอียด 8MP ซูม Optical 5x และยังใช้ชิปประมวลผลภาพถ่าย V1 ที่จะช่วยทำให้โฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีเทคโนโลยีกันสั่น VIS แบบ 5 แกน ที่นอกจากจะช่วยให้การถ่ายวิดีโอมีความนิ่ง, ลื่นไหล และคมชัดสุด ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์จำพวก Stabilizer เลย และไม่ใช่ว่าจะช่วยแค่เรื่องการถ่ายวิดีโอเท่านั้น แต่ยังช่วยในการถ่ายภาพนิ่งในสภาวะแสงน้อยให้ชัดเจนขึ้นอีกต่างหาก

สเปค Vivo X70

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2376 x 1080) ขนาด 6.56 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 1200
  • GPU : Mali-G77 MC9
  • RAM (LPDDR4x) : 8GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 128GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลักเซนเซอร์ IMX766V ความละเอียด 40MP (f/1.89)
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/1.98) ซูม Optical 2x
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.45)
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.2, NFC
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
  • แบตเตอรี่ : 4400 mAh รองรับชาร์จไว 44W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 12
  • ขนาด / น้ำหนัก : 160.1 x 75.4 x 7.6 มม. / 182 กรัม

สเปค Vivo X70 PRO

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2376 x 1080) ขนาด 6.56 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 1200
  • GPU : Mali-G77 MC9
  • RAM (LPDDR5) : 12GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 256GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลักเซนเซอร์ IMX766V ความละเอียด 50MP (f/1.75)
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/1.98) ซูม Optical 2x
    – กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope ความละเอียด 8MP (f/3.4) ซูม Optical 5x
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.45)
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.2, NFC
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
  • แบตเตอรี่ : 4450 mAh รองรับชาร์จไว 44W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 12
  • ขนาด / น้ำหนัก : 158.3 x 73.2 x 8 มม. / 185 กรัม

ราคาและวันวางจำหน่าย

Vivo X70 และ Vivo X70 Pro จะเริ่มเปิดให้ Pre-order ตั้งแต่วันที่ 8 – 15 ตุลาคม และจะเริ่มวางขายตามร้านในวันที่ 16 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยราคาของแต่ละรุ่นมีดังนี้

  • Vivo X70 (8GB / 128GB) : ราคา 21,999 บาท
  • Vivo X70 Pro (12GB / 256GB) : ราคา 27,999 บาท

สำหรับผู้ที่สั่งจองภายในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับของแถมมูลค่ารวมถึง 16,487 บาท ที่รวมไปถึงการรับประกันตัวเครื่องนานถึง 2 ปี กับประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี ไปด้วยเลย