เดือนเมษายนนี้นอกจาก vivo จะเปิดตัวทั้งมือถือจอพับรุ่นแรกของค่ายอย่าง vivo X Fold, มือถือเรือธงจอยักษ์ vivo X Note และแท็บเล็ต vivo Pad แล้ว ก็ยังมี vivo X80 Series ตามมาอีกด้วย โดยมือถือซีรีส์นี้มีทั้งหมด 2 รุ่น คือ vivo X80 และ vivo X80 Pro มากับจุดเด่นคือสเปคระดับไฮเอนด์สุด ๆ ทั้งหน้าจอ, ชิป, แบตเตอรี่/ระบบชาร์จ และกล้องหลังพลัง ZEISS พร้อมชิปประมวลผลภาพถ่าย V1+ ISP ที่ vivo พัฒนาขึ้นเองด้วย

vivo X80

เริ่มด้วย vivo X80 ที่แม้จะเป็นรุ่นรองแต่สเปคต่าง ๆ ยังจัดว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์สุด ๆ ด้วยหน้าจอพาเนล E5 AMOLED ขอบโค้ง มีขนาดอยู่ที่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz เจาะรูวางกล้องเซลฟี่ความละเอียด 32MP ไว้ตรงกลางด้านบน เร่งแสงสว่างได้สูงสุด 1500 nits

 

สเปคแรงจัดด้วยชิป Dimensity 9000 ที่ให้ประสิทธิภาพแบบพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Snapdragon 8 Gen 1, RAM ขนาด 8GB / 12GB, ความจุแบบ UFS 3.1 ขนาด 128GB / 256GB / 512GB ไม่กลัวร้อนด้วยระบบระบายอุณหภูมิแบบ Vapor Chamber Liquid Cooling มากับแบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh รองรับชาร์จไว 80W ที่เคลมว่าชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 50% ในเวลาเพียง 11 นาที และชาร์จ 0-100% ในเวลาเพียง 34 นาที

กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX866 ความละเอียด 50MP (f/1.75) เป็นรุ่นแรก และมีระบบกันสั่นแบบ OIS + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP + กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP ซูม Optical 2x นอกจากนี้ยังใช้ชิป V1+ ISP เข้ามาช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นไปอีก

สเปค vivo X80

  • หน้าจอ E5 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 × 1080) รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 9000
  • RAM (LPDDR5) : 8GB / 12GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก IMX866 ความละเอียด 50MP (f/1.75), กันสั่น OIS
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.0)
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/1.98) ซูม Optical 2x / Digital 20x
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.45)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.3
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum, Infrared
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว 80W
  • ระบบ Android 12 ครอบด้วย OriginOS Ocean

vivo X80 Pro

ต่อด้วยรุ่นพี่ vivo X80 Pro ที่มากับพาเนลหน้าจอ E5 LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรท 120Hz และมี Touch Sampling rate สูงลิ่วถึง 1000Hz, ความสว่างสูงสุด 1500 nits, รองรับการแสดงผลแบบ HDR, แสดงผลสี 10-bit และฝังเซนเซอร์สแกนนิ้วมือขนาดใหญ่ไว้ข้างใต้ เพิ่มพื้นที่ในการปลดล็อคมากกว่าเดิม

 

สเปคมีมาให้เลือกทั้งรุ่นที่ใช้ชิป Dimensity 9000 และรุ่นที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 1 โดยรุ่นแรกจะมาคู่กับ RAM ขนาด 12GB และความจุขนาด 256GB / 512GB ส่วนรุ่นหลังมากับ RAM 8GB / 12GB และความจุ 256GB / 512GB, มีแบตเตอรี่ขนาด 4700 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 80W และไร้สาย 50W

กล้องหลังมีด้วยกัน 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ GNV 1G ความละเอียด 50MP มีระบบกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide เซนเซอร์ IMX598 ความละเอียด 48MP + กล้อง Telephoto เซนเซอร์ IMX663 ความละเอียด 12MP ซูม Optical 2x + กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope ความละเอียด 8MP ซูม Optical 5x ซูม Digital 60x ส่วนกล้องเซลฟี่ความละเอียด 32MP และแน่นอนว่ามากับชิปประมวลผลภาพถ่าย V1+ ISP ด้วย

สเปค vivo X80 Pro

  • หน้าจอ E5 LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 9000 / Snapdragon 8 Gen 1
  • RAM (LPDDR5) : 8GB / 12GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลัก GNV 1G ความละเอียด 50MP (f/1.57), กันสั่น OIS
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 48MP (f/2.2)
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/1.85) ซูม Optical 2x
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (f/3.4) ซูม Optical 5x / Digital 60x
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.45)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.3
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum, Infrared
  • มาตรบานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • แบตเตอรี่ : 4700 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 80W / ไร้สาย 50W
  • ระบบ Android 12 ครอบด้วย OriginOS Ocean

สำหรับราคาของ vivo X80 เริ่มต้นที่ 3699 หยวน หรือประมาณ 19,250 บาท รุ่น vivo X80 Pro (SD 8 Gen 1) ราคาเริ่มต้นที่ 5499 หยวน หรือประมาณ 28,600 บาท ส่วนรุ่น Dimensity 9000 เริ่มต้นที่ 5999 หยวน หรือประมาณ 31,200 บาท โดยจะเริ่มเปิด Pre-order ในจีนตั้งแต่ 29 เมษายน และวางจำหน่ายจริง 5 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ รวมถึงบ้านเรา ต้องรออัปเดตข้อมูลกันต่อไปครับ

 

ที่มา : vivo (2)