มีความล้ำของวงการ AI มาเล่าให้ฟังกันอีกรอบ เมื่อมหาลัยในอเมริการมีการคิดค้นให้ AI ด้านการจดจำเสียงหรือ Voice Recognition ที่การทำงานคล้ายๆกับเหล่าผู้ช่วยอัจฉริยะที่พวกเราคุ้นเคยกันดีอย่าง Siri หรือ Google Assistant เนี่ยแหละ เอาเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหมอในการตรวจหาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจในเด็กได้ โดยโปรเจกต์พัฒนาแอปที่ว่านั้นได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทในเครือ ASX อย่าง ResApp Health

การตรวจหาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจในเด็กนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเอามากๆ แม้แต่สำหรับหมอที่มีประสบการณ์สูงและสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ มาช่วยตรวจหาก็ตาม หากวินิจฉัยโรคผิด ก็อาจจะนำไปสู่การดูแลที่ไม่ตรงจุด หรืออาจจะให้ยาไม่ตรงกับอาการ ซึ่งจุดนี้อาจจะลามไปถึงอาการดื้อยาในอนาคตของเด็กเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ดี ทาง Curtin University และ University of Queensland ก็ได้ช่วยกันพัฒนาแอปตรวจหาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งอาจจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาข้างต้นได้ โดยนักวิจัยจากทั้งสองมหาวิทยาลัยได้ทำการพัฒนาและป้อนคำสั่งให้อัลกอริทึ่มในแอปนั้นสามารถจดจำเสียงไอที่เป็นลักษณะสำคัญของที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจหลักๆ 5 โรคได้อย่าง หอบหืด, ปอดบวม, ภาวะกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ, หลอดลมฝอยอักเสบ และโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบหายใจส่วนล่าง

โดยแอปตัวนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลผ่านข้อมูลเสียงเท่านั้น ซึ่งความแม่นยำของแอปดังกล่าวเมื่อเอาไปเทียบกับการวินิจฉัยของกุมารแพทย์ (แพทย์ที่รักษาเด็ก) ก็พบว่า.. หลังจากที่เก็บข้อมูลเด็กกว่า 585 คนในช่วงอายุระหว่าง 29 วันถึง 12 ปี ความแม่นยำของแอปก็ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียง (เผลอๆ แอปทำได้ดีกว่าด้วย) กับการวินิจฉัยของแพทย์มืออาชีพเลย

ซึ่งโรคหอบหืดนั้นถือเป็นโรคที่ทั้งแอปและแพทย์นั้นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าง่ายต่อการวินิจฉัยโรค ซึ่งในการเก็บข้อมูลดังกล่าว คิดออกมาเป็นเปอร์เซนต์ความแม่นยำได้ดังนี้

  • หอบหืด | แอปมีความแม่นยำในการตรวจหาโรคนี้ได้มากถึง 91% ขณะนี้กุมารแพทย์ทำได้ไป 91%
  • โรคปอดอักเสบ | แอปก็ยังมีความแม่นยำมากกว่ากุมารแพทย์อยู่ดี โดยเปอร์เซนต์ความแม่นยำอยู่ที่ 87% ขณะที่แพทย์อยู่ที่ 85%
  • โรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบหายใจส่วนล่าง | ความแม่นยำของแอปอยู่ที่ 83% ขณะที่แพทย์อยู่ที่ 82%
  • ภาวะกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ | แอปทำได้ที่ 85% และแพทย์ทำได้ไป 82%
  • หลอดลมฝอยอักเสบ | แอปก็ยังทำผลงานได้ดีกว่าคิดเป็น 84% ขณะที่แพทย์ก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดีอยู่ที่ 81%

Dr Pual Porter ซึ่งเป็นหัวหน้างานวิจัยในครั้งนี้ออกมากล่าวว่า แอปตัวนี้สามารถใช้งานได้แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์พื้นเพใดๆมาก่อนทว่าเขาเองก็แนะนำมาว่า ควรจะใช้แอปตัวดังกล่าวควบคู่ไปกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้วย เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการวินิจฉัยที่แม่นยำขึ้นกว่าเดิม

ประโยชน์ของแอปตรวจหาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

  • แอปนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ที่แพทย์ไม่สามารถเจอกับคนไข้ได้แบบตัวต่อตัว เนื่องจากเสียงไอของผู้ป่วยที่ผ่านจากอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ อาจจะถูกบดบังด้วยคลื่นแทรกๆ ต่าง ทำให้แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำเท่าที่ควร
  • แอปนี้จะช่วยร่นระยะเวลาให้ผู้ป่วยนั้นได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องรอผลอะไรต่างๆ จากแพทย์

ถ้า Voice Recognition ในมือถือปรับให้ฟังเสียงและตรวจสอบโรคแบบนี้ หรือบอกถึงสุขภาพในช่วงนี้ของเราได้ก็น่าจะเจ๋งดีไม่น้อยเลยนะเนี่ย

ที่มา: itnews