สาวก Volvo เตรียมตัวรอได้เลย เพราะว่า Volvo EX90 รถยนต์ 7 ที่นั่ง พลังงานไฟฟ้าล้วน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 496 แรงม้า สามารถวิ่งได้ไกลสุด 600 กม./ชาร์จ ภายในกว้างขวาง มี 3 แถว มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบรอบคัน เตรียมตัวเปิดให้จองในประเทศไทยปี 2024 นี้

สเปค Volvo EX90

Volvo EX90 มีขนาดมิติตัวถังอยู่ที่ 5,037 x 1,964 x 1,747 มม. ระยะฐานล้อ 2,985 มม.ตัวรถมี 7 ที่นั่ง เบาะแบ่งเป็น 3 แถว กว้างขวาง ตอบโจทย์ครอบครัวที่ชอบเดินทางไปเที่ยวแบบหลายคน ตัวเบาะสามารถพับเก็บช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้

ส่วนทางด้านสมรรถนะแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

Volvo EX90 Twin Motor

Volvo EX90 Twin Motor ขับเคลื่อนแบบ AWD มอเตอร์คู่ ให้ขุมพลังรวม 402 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ ชม.ในเวลาเพียง 5.9 วินาที แบตเตอรี่ 111 kW วิ่งได้ไกลสุด 600 กม./ชาร์จ (WLTP)

Volvo EX90 Twin Motor Performance

Volvo EX90 Twin Motor Performance ขับเคลื่อนแบบ AWD มอเตอร์คู่เช่นเดียวกัน แต่ให้ขุมพลังรวมที่มากกว่าอยู่ที่ 496 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 910 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ ชม.ในเวลาเพียง 4.9 วินาที แบตเตอรี่ 111 kW วิ่งได้ไกลสุด 590 กม./ชาร์จ (WLTP)

ภายในของตัวรถตกแต่งด้วยดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวีย ระบบเครื่องเสียงรถยนต์จะใช้ลำโพง Bowers & Wilkins 25 ตัววางกระจายอย่างเหมาะสม ให้เสียงกระหึ่มสะใจ และมีจอกลางขนาดใหญ่เอาไว้ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในรถ ส่วนทางด้านความปลอดภัย ได้มีการใช้นวัตกรรมเซนเซอร์ต่าง ๆ ที่ล้ำสมัยคอยช่วยตรวจจับและแจ้งเตือนแก่ผู้ขับขี่อย่างครอบคลุม ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะเข้าขายไทยช่วงไหนของปี และเคาะราคาอยู่ที่เท่าไหร่

เป้าหมาย Volvo 2024

Volvo ได้วางแผนว่าในปี 2025 จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมการออกแบบและเทคโนโลยีประมวลผล core computing รุ่นล่าสุด เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และมอบความปลอดภัยแห่งอนาคตให้แก่ผู้ใช้รถ โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่จะเปิดตัวในปี 2024 จะเป็นตัวช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่รุ่นก่อนหน้าอย่าง Volvo XC40, C40 และ EX30 ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ในส่วนของยอดขาย Volvo ได้มียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปีติดต่อกัน ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้วางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่เป้าหมายในปี 2025 ได้แก่          

  • ตั้งเป้าการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างต่อเนื่องหลังการแพร่ระบาด
  • การเริ่มให้บริการซ่อมและบำรุงรักษารถไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่หรือโมบายเซอร์วิสทั่วประเทศ
  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (C02) โดยเฉลี่ยร้อยละ 70% ต่อคัน ภายในปี 2025