องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรค COVID-19 ที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า SARS-CoV-2 เป้นโรคระบาดระดับ Pandemic หรือเกิดการระบาดไปทั่วโลก หลังจากพบว่ามีผู้ติดเชื้อกว่า 118,000 ราย กระจายอยู่ใน 110 ประเทศ และอาจเกิดการระบาดลุกลามไปเรื่อยๆ
Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการของ WHO ได้ออกมาย้ำว่า COVID-19 นั้นเป็นการต่อสู้ร่วมกันของทุกๆ คน ไม่ใช่แค่หน่วยงานหรือบางภาคส่วนเท่านั้น
Pandemic หมายถึงอะไร
หาก Epidemic หมายถึงโรคระบาดประจำถิ่น Pandemic ก็คือสิ่งที่ตรงกันข้าม องค์การอนามัยโลกเลือกใช้คำว่า Pandemic เฉพาะกับโรคใหม่ที่เกิดการระบาดไปทั่วโลก ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยังไม่มีหลักเกณฑ์ว่าต้องมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากเท่าไหร่ หรือต้องเกิดการลุกลามไปกี่ประเทศ ส่วนศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือ CDC นั้นให้ความหมายว่าเมื่อโรคนั้นสามารถติดต่อไปสู่คนอื่นได้ด้วยอัตราที่เร็วมากๆ ซึ่ง Pandemic นั้นจะเน้นไปที่การระบาดของโรค มากกว่าความรุนแรงหรืออันตรายของโรค
ซึ่งการใช้คำว่า Pandemic กับสถานการณ์ระบาดของโรคนั้นต้องมีการพิจารณากันอย่างถี่ถ้วนในทุกๆ ครั้ง เพราะหากนำมาใข้พร่ำเพรื่อจะทำให้เกิดการตระหนก ตื่นตกใจเกินเหตุ จนเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้
จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากประกาศ Pandemic
Dr. Tedros ได้กล่าวว่าทุกๆ การประเมินภัยคุกคามของโรค COVID-19 นั้นยังคงเหมือนเดิม มันจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ WHO และทุกๆ ประเทศทำอยู่ ซึ่งแต่ละที่นั้นมีมาตรการต่างๆ ในการป้องกันการระบาดของโคโรน่าไวรัส SARS-CoV-2 อยู่แล้วก็ควรจะปฏิบัติต่อไปอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการระบาดของโรคให้ถึงที่สุด
ทำไมต้องประกาศ Pandemic
แม้ว่า WHO จะไม่เปลี่ยนแปลงหรือมีมาตรการใหม่ๆ เพิ่มเติม แต่การประกาศ Pandemic กับโคโรน่าไวรัส SARS-CoV-2 นั้นเป็นการเตือนว่าโรค COVID-19 จะยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ในทุกประเทศ และให้ทบทวนมาตรการต่างๆ ที่กำลังใช้อยู่ว่าอาจจะต้องเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องการเดินทาง มีแผนการกักตัวผู้สุ่มสี่ยงหรือผูที่อาจเป็นโรคอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการเลี่ยงจัดกิจกรรมต่างๆ ในที่สาธารณะที่อาจจะมีคนหมู่มากเข้าร่วม
เคยมีการประกาศ Pandemic ก่อนหน้า COVID-19 หรือไม่
ย้อนกลับไปในปี 2003 การระบาดของ SARS ที่กระจายไปถึง 8,000 คนใน 26 ประเทศนั้น ก็ยังไม่ถูกยกระดับเป็น Pandemic แต่เคยมีการประกาศ Pandemic เมื่อตอนไข้หวัดหมู Swine Flu หรือ 2009 H1N1 ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ถูกยกเลิกไปเพราะถูกมองว่าการระบาดยังไม่กระจายเป็นวงกว้าง การประกาศไปมีแต่จะทำให้เกิดการตื่นตระหนกตกใจเกินความจำเป็น นั่นทำให้ COVID-19 นับเป็นการประกาศ Pandemic ครั้งแรกเลยก็ว่าได้
source : TIME
หมายความว่าตอนนี้ ควรตื่นตระหนกแล้วชินะ
ตอนไหนก็ไม่ควรครับ
ควรจะตื่นตัว ไม่ใช่ตื่นตระหนก เมื่อใดที่คุณตื่นตระหนก สติจะลดลงไป การตัดสินใจจะผิดพลาดในกรณีนี้อาจจะเกิดพอดี
เช่นกรณีนี้เกิดการกักตุนของบางอย่าง ทำให้ไอ้ที่ควรจะพอ กันก็ไม่พอ เพราะสินค้าเทไปอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ไปดูข่าวกำแพงกระดาษชำระของญีปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีครับ
แม้ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและแพทย์ของไทยเราจะเก่ง แต่ รมต.สาสุขของเราก็เห่อแต่กัญชาจนไม่ทำห่านอะไรเลยนะครับ ภาพรวมใหญ่ของการจัดการโดยรัฐบาลก็อ่อนกาก ซ้ำด้วยมีคนโกงและกอบโกยในภาวะแบบนี้เข้าไปอีก ตอนนี้เลยไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี
สงสารตัวเอง
พวกที่ดีแต่ด่าประเทศไทย ไปดูพวกฝรั่ง ที่ว่าเจริญบ้าง รมว.สาธารณสุข อังกฤษ ไม่รู้จักระวังตัวจนติดเชื้อ,อิตาลี ทำเป็นดูถูกคนใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ในที่สุดก็ติดเชื้อ, ยอดคนติดเชื้อใน อเมริกา ก็มากกว่าไทยแล้ว