รายงานประจำปี 2566 ของ Whoscall ได้เผยถึงข้อมูลถึงสถิติการโดนมิจฉาชีพหลอกเพื่อให้ได้รู้เท่าทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและจะได้ระวังตัวกันมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งข้อมูลได้ระบุว่า ปี 2566 พบมิจฉาชีพยังทำงานหนักก่อกวนคนไทยเพิ่มขึ้น 12.2 ล้านครั้งและคนไทยได้รับข้อความหลอกลวงมากที่สุดในเอเชียถึง 58 ล้านข้อความเลยทีเดียว

รายงานปี 2566 คนไทยเป็นเหยื่อ SMS หลอกลวงมากที่สุดในเอเชีย

Whoscall เผยรายงานประจำปี 2566 พบมิจฉาชีพทำงานหนักก่อกวนคนไทยเพิ่มขึ้น 12.2 ล้านครั้ง โดยใน SMS ที่มิจฉาชีพได้ส่งมาหาประชาชนก็จะแนบพวกลิงก์ปลอม ลิงก์ขอล็อกอินปลอม การดาวน์โหลดมัลแวร์ อันตราย และเพจปลอมหลอกขายของหลอกลวง

ในปี 2566 คนไทยเสี่ยงโดนหลอกจากสายโทรเข้าและข้อความ รวม 79 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 18% จากยอดรวม 66.7 ล้านครั้ง ในปี 2565 โดยแบ่งเป็น

  • สายโทรเข้าจากมิจฉาชีพจำนวน 20.8 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 22% จาก 17 ล้านครั้ง ในปี 2565
  • ข้อความหลอกลวง 58.3 ล้านข้อความ เพิ่มขึ้น 17% จาก 49.7 ล้านข้อความ ในปี 2565

คนไทยได้รับข้อความหลอกลวงเฉลี่ย 1 คน/ 20.3 ข้อความ ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ส่วนอันดับที่ 2 คือ ฟิลิปปินส์ จำนวน 19.3 ข้อความ และฮ่องกง จำนวน 16.2 ข้อความ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปัญหานี้ กำลังเพิ่มขึ้นซึ่งประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยง

คีย์เวิร์ดที่มิจฉาชีพใช้หลอกประชาชน

ในการส่ง SMS หลอกลวง มิจฉาชีพมักจะนำเรื่องเรื่องพนันออนไลน์และหลอกปล่อยเงินกู้มาใช้ โดยมีคำสำคัญคือ ยูสใหม่, แจกฟรี, ฟรี 500, ฝากครั้งแรกรับไปเลย XX บาท หรือแอบอ้างเป็น บริษัทขนส่งหรือหน่วยงานรัฐใช้ข้อความอ้างว่า พัสดุของท่านเสียหาย, เคลมค่าเสียหายติดต่อที่ XX, จดตัวเลขมิเตอร์ผิด หรือ ประกันมิเตอร์ เป็นต้น

ซึ่งทุกวันนี้มิจฉาชีพมีเทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการปรับกลยุทธ์ ให้เหมาะสมกับเป้าหมายมากขึ้น ถึงแม้จะมีการให้ความรู้ถึงภัยมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นเรื่องยากที่เหยื่อจะแยกแยะซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่น่ากลัวและต้องระวังค่ะ